ไฮสปีดเทรน กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ อาจเหลือแค่รถไฟความเร็วปานกลาง

 

หลังจากที่ประชุมครม.สัญจรเห็นชอบภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งภาคเหนือของกระทรวงคมนาคม ทั้งการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการในที่ประชุมครม.สัญจร ให้กระทรวงคมนาคมไปปรับรูปแบบโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพ ฯ – เชียงใหม่ ความเร็ว 250-300 ก.ม.ต่อชั่วโมงใหม่ให้เหมาะสม เนื่องจากโครงการนี้ ไม่สามารถเชื่อมต่อเส้นทางไปยังจังหวัดอื่นหรือประเทศเพื่อนบ้านได้ จึงอาจไม่คุ้มทุนและไม่คุ้มค่า โดยอาจปรับความเร็วลดลงเป็นความเร็วปานกลางที่ 180-200 ก.ม.ต่อชั่วโมงแทน

 

ทั้งนี้เชื่อว่าหากดำเนินการได้จะสามารถรองรับทั้งการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าโดย รวมทั้งให้ดูรูปแบบของการลงทุนใหม่ว่าอาจปรับเป็นแบบการร่วมทุนกับเอกชนหรือ PPP ได้มากน้อยเพียงใด จากเดิมที่เป็นโครงการแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลหรือ G to G ซึ่งโครงการดังกล่าว ถือเป็นโครงการหนึ่งตามแผนทิศทางการพัฒนาพื้นที่ภาคเหนือ ที่รัฐบาลได้เดินทางมาลงพื้นที่ และจัดประชุมครม.สัญจร

 

“ก่อนหน้านี้องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่นหรือไจก้า ได้เสนอความเป็นไปได้ในการลงทุนของโครงการนี้มูลค่า 4-5 แสนล้านบาท แต่ถ้ามีการปรับลดขนาดความเร็วลง ก็น่าจะทำให้ขนาดการลงทุนลดลงตามไปด้วย เชื่อว่าใช้เวลาไม่นานเพราะมีผลการศึกษาอยู่แล้วและน่าจะดำเนินการได้ภายในปี 61 ก่อนหน้านี้มองว่าเป็นโครงการที่คุ้มค่าหากเป็นสปีดเทรนเพราะสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนทางยูนานได้ แต่เวลานี้จีนได้สร้างรถไฟเชื่อมต่อทางหนองคายแล้ว จึงควรปรับรูปแบบใหม่”

 

นายสมคิดกล่าวว่า นอกจากนี้นายก ฯ ยังสั่งการเพิ่มเติมให้กระทรวงคมนาคมไปดูระบบโครงข่ายการเชื่อมโยงระบบขนส่งทางถนนใหม่ โดยต้องการให้คิดใหม่ทำใหม่ โดยเน้นไปที่การท่องเที่ยวให้มากขึ้น จากเดิมที่เน้นเรื่องการขนส่งเท่านั้น แต่จากนี้ไปจะทำเหมือนเดิมไม่ได้ แต่ต้องมุ่งเน้นเรื่องของท่องเที่ยวให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อกันให้ได้โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวและเมืองรอง ซึ่งจากนี้ไปรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวในประเทศให้หนักขึ้น

 

ด้าน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ตอนนี้กระทรวงคมนาคมไม่ได้ชะลอโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ โดยล่าสุดญี่ปุ่นได้ส่งผลการศึกษาเบื้องต้นมาแล้ว มีวงเงินโครงการกว่า 4 แสนล้านบาท ดังนั้นจึงได้รายงานให้ที่ประชุมครม.สัญจร รับทราบ และนายกฯ ได้สั่งให้ไปดูว่า มีความคุ้มค่าหรือไม่ หรือจะมีเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างประเทศได้อย่างไร ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะกลับไปสรุปรายละเอียดและนำมาเสนอที่ประชุมครม.พิจารณาอีกครั้งภายในเดือน มี.ค.61 หากครม.เห็นชอบก็เริ่มขั้นตอนการสำรวจออกแบบ โดยในระยะแรกจะเริ่มทำช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก วงเงินประมาณ 2.76 แสนล้านบาทก่อน

 

นายอาคมกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันที่ประชุมครม.สัญจร ยังรับทราบภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งภาคเหนือ ทั้งทางถนน ทางราง ทางอากาศ และทางน้ำ เน้นการเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน และเชื่อมโยงระหว่างภาค รวมไปถึงเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองรอง โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปคุยกับกระทรวงการท่องเที่ยวละกีฬา เพื่อหาทางดูแลอำนายความสะดวกนักท่องเที่ยวด้วยการจัดรถประจำทางไว้คอยบริการในพื้นที่ท่องเที่ยวด้วย

 

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

 

 

 

ความคิดเห็น