พื้นที่ส่วนกลาง…สิ่งสำคัญของการเลือกคอนโดฯ

หากใครที่กำลังหาซื้อคอนโด พื้นที่ส่วนกลางเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราต้องเช็กและหาข้อมูลให้ดี ๆ เพราะมีผลต่อความเป็นอยู่ของผู้อาศัยด้วยนะ บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร มาค่ะ คบคิดจะมาไขข้อสงสัยให้!!! พื้นที่ส่วนกลางคือระยะห่างของพื้นที่ส่วนตัวของเรากับคนอื่นค่ะ ที่เราจะต้องใช้ร่วมกันกับคนในโครงการ ซึ่งเราจะปรับเปลี่ยนต่อเติมตามใจเราหลังซื้อไม่ได้ซะด้วย ดังนั้นเราจึงต้องเช็กและหาข้อมูลในส่วนนี้ให้ดี ๆ โดยวันนี้เราจะไปดูกันว่ามันมีความสำคัญอย่างไรบ้าง 

 

1.ความปลอดภัย

เรื่องความภัยเนี่ยเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งเลยนะคะ เพราะมันเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นอันตรายจากเพลิงไหม้ แผ่นดินไหว หรือไฟดับ ซึ่งคอนโดสมัยใหม่ส่วนใหญ่จะสร้างได้ตามโครงสร้างถูกแบบตามกฎหมาย ตามมาตรฐานรองรับเรื่องไฟไหม้ แผ่นดินไหว และระบบสำรองไฟที่พร้อมอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีอันตรายจากคนด้วยนะคะ อันนี้น่ากลัวที่สุดเลยค่ะ เพราะสมัยนี้ขโมย โรคจิต และอาชญากรมันมีเยอะจริง ๆ ระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การเข้าออกจะต้องมีความยุ่งยากพอสมควรจึงจะทำให้มั่นใจได้ว่าคอนโดที่คุณเลือกมีความระบบรักษาความปลอดภัยที่ไว้ใจได้

 

ลิฟต์ล็อกชั้น ระบบนี้จะช่วยกรองคนได้ดีนะคะ ใครไม่มีการ์ดสแกนก็ขึ้นลิฟต์ไม่ได้ แต่!!! อย่าลืมดูระบบความปลอดภัยตรงบันไดหนีไฟด้วยนะคะ ว่ามีระบบสแกนการ์ดเวลาเข้าออกด้วยหรือไม่

 

ระบบ Access card การใช้ระบบนี้จะไม่ใช้กุญแจทั่วไปค่ะ แต่จะใช้เป็นแบบที่ใช้การ์ดเปิดค่ะ ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้มากขึ้น

 

บันไดหนีไฟ มีการวางตำแหน่งที่ดี เป็นตำแหน่งที่ทุก ๆ ห้องในคอนโดจะต้องมาที่บันไดหนีไฟได้สะดวก ไม่แออัดจนเกินไป และต้องมีผังของคอนโดที่แสดงจุดบันไดหนีไฟติดไว้หน้าลิฟต์ทุกชั้น นอกจากนี้ยังควรติดถังดับเพลิงไว้ทุกชั้น

 

ระบบสปริงเกอร์  ระบบจับควัน และ ถังดับเพลิง ควรมีการติดตั้งระบบสปริงเกอร์และระบบจับควันไว้ทุก ๆ ห้องรวมทั้งทางเดินทุกชั้น และหากมีการตกแต่งฝ้าเพดานในคอนโด ห้ามโยกย้ายหรือปิดบังตำแหน่งของหัวสปริงเกอร์และหัวดักควัน โดยเด็ดขาด

 

ระบบ รปภ. และการจัดการภายใน จะต้องมีความเข้มแข็งและมีระเบียบวินัย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีความน่าเชื่อถือได้และมีไหวพริบดี แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ และให้การบริการดี

 

 


 

2.ความหนาแน่น

อัตราความหนาแน่นนี่แหละค่ะ คือสิ่งที่เราใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าเราต้องแชร์พื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวก กับคนในปริมาณเท่าไร เรื่องนี้จะมีผลกับความน่าอยู่หรือน่าลงทุนของโครงการอย่างมาก หากมีความหน่าแน่นมาก ๆ มันจะมีผลทั้งกับการอยู่อาศัยที่ต้องแย่งกันอยู่แย่งกันใช้แล้ว ยังมีผลกับการขายหรือการปล่อยเช่าอีกด้วย โดยมีดูประเด็นหลัก ๆ เลยนะที่ต้องดู

 

ที่จอดรถ

เชื่อว่าหลายคนก็ต้องมีรถส่วนตัวใช้กันอยู่แล้ว หากกำลังหาซื้อคอนโดอยู่ก็คงมองหาคอนโดที่มีที่จอดรถให้ เรื่องจอดรถนี้นอกจากอัตราส่วนของความหนาแน่นแล้ว อันนี้ต้องดูจำนวนจริง ๆ ของปริมาณที่จอดรถประกอบด้วยค่ะ ความเป็นไปได้ในการต้องการที่จอดรถคร่าว ๆ เราสามารถดูภาพรวมได้จาก เปอร์เซ็นต์ที่จอดรถ และจำนวนรถที่มีอยู่จริงค่ะ

 

ลิฟต์

เรื่องนี้ความหนาแน่นเป็นเกณฑ์สำคัญเลยค่ะ โดยเฉพาะช่วงเวลาเช้ากับเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่คนออกไปทำงานหรือกลับจากทำงาน ที่บางทีถึงขั้นต้องแย่งกันใช้ ต้องรอคิวกันวุ่นวาย ซึ่งเราสามารถหาอัตราส่วนการใช้ลิฟต์ได้จากจำนวนยูนิตต่อจำนวนลิฟต์โดยสารที่โครงการมีไว้บริการ บางโครงการจะแยก Passenger lift และ Service lift หรือลิฟต์ขนของที่แม่บ้านใช้ขนยะแยกกัน ซึ่งโครงการ High rise ส่วนใหญ่จะแยก Service lift ออกไป ไม่ใช้ปนกันค่ะ

 

สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญเช่นกันที่จะต้องพิจารณาจากความหนาแน่น อย่างสระว่ายน้ำ แต่ละโครงการอาจจะมีขนาดไม่เท่ากัน โดยส่วนใหญ่คอนโด High Rise โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 25 x 12.5 เมตร ต่อ 400 ยูนิต ถ้าหากเป็นคอนโด Low Rise ขนาดจะอยู่ที่ประมาณ 7 x 15 เมตร ยูนิตไม่ควรจะเกิน 300 ยูนิต ไม่งั้นคงได้แย่งกันใช้สระว่ายน้ำแน่ ๆ  ส่วนฟิตเนสก็ควรมีอุปกรณ์เพียงต่อการใช้บริการ และห้องก็ควรโปร่งโล่ง กว้างขวาง จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาออกกำลังกายค่ะ

 

เรื่องความสะดวกสบายนี่เป็นเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในคอนโด ว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการเลือกห้องด้วยนะคะ ว่าห้องที่เลือกนั้นอยู่ใกล้ไกลจากพื้นที่นั้น ๆ เท่าไร นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานแล้ว ว่าชอบแบบนี้หรือไม่ เราควรสำรวจตัวเองก่อนว่าเราต้องการแบบไหนและต้องการอะไร โดยคำนึงถึงการใช้งานในระยะยาวด้วยนะคะ

 



 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ความคิดเห็น