"Knightsbridge Prime Sathorn" ดูเพล็กซ์คอนโดบนทำเล CBD "สาทร-นราธิวาสฯ"

หากกล่าวถึงทำเลที่ใกล้ย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร ที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัยคงหนีไม่พ้นย่านสาทร-นราธิวาสฯ ที่เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ย่านนี้หรือแม้กระทั่งชาวออฟฟิศทั้งหลายที่ต้องการหาที่อยู่ในช่วงวันธรรมดา เพื่อประหยัดเวลาการเดินทาง ซึ่งนับวันการจราจรในมหานครของเรานับจะทวีคูณความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆอีกทั้งจำนวนประชากรแฝงที่เพิ่มขึ้นทำให้ที่อยู่อาศัยเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง ย่านสาทร-นราธิวาสฯ เอง ถือว่าเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง โครงการคอนโดมิเนียมหลายเจ้าก็มาเปิดตัวโครงการบนทำเลแห่งนี้ บางโครงการติดปัญหาด้านการก่อสร้าง บางโครงการก็ยังขายไม่หมด ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายอย่างมากสำหรับ Developer ไฟแรงอย่าง Origin Property ที่ถือกำเนิดโครงการใจกลางเมืองโครงการแรก ว่าจะแก้โจทย์ทำเลแห่งนี้ให้ตัวโครงการของตัวเอง แตกต่างจากโครงการละแวกนี้ได้อย่างไร ด้วยวิธีไหน และจะน่าสนใจมากเพียงใด เราลองมาทำความรู้จักกับโครงการ Knightsbridge Prime Sathorn กันนะครับ

knightsbridge-prime-sathorn-001

 

ทำเลสาทร-นราธิวาสฯ นับว่านานทีปีหนจะมีโครงการมาเปิดตัวเพียวแต่ไม่กี่โครงการเท่านั้น เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านที่ดินและการเดินทางที่ไม่เชื่อมต่อกับ BTS เท่าไหร่นักเห็นจะต้องพึง BRT แทน ซึ่งในอนาคตจะแปรเปลี่ยนไป โดยมีข่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา (Monorail)กำลังจะมาแทนที่ BRT ก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ทำเลนี้ไม่สามารถทดแทนทำเลอื่นได้นั้นก็คือ การเข้าสู่ CBD ใจกลางมหานครกรุงเทพได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว จะขับรถ นั่ง BRT หรือแม้กระทั่งเดินไปทำงานก็ยังได้ สามารถแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นก่อนเข้างานได้อีกมากมาย ไม่ต้องเร่งรีบ ในขณะเดียวกันก็เป็นทำเลที่สงบสุข ไม่พลุกพล่าน ตอบโจทย์สำหรับชาวออฟฟิศในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี

knightsbridge-prime-sathorn-002

 

โครงการ Monorail สายสีเทา (วัชรพล-พระโขนง-สะพานพระรามเก้า-ท่าพระ)
โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเทา เป็นเส้นทางใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2552 ในรูปแบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี พ.ศ. 2560 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี และคาดว่าจะเปิดใช้บริการได้ในปี พ.ศ. 2562 โดยจะเริ่มก่อสร้างช่วงวัชรพล – ลาดพร้าว – พระรามสี่ก่อน หลังจากนั้นจึงจะก่อสร้างในช่วงพระรามสี่-สะพานพระรามเก้า ซึ่งทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในช่วงนี้

knightsbridge-prime-sathorn-003

 

แนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา (ช่วงพระรามสี่-สะพานพระรามเก้า) ส่วนช่วงพระรามสาม-ท่าพระเป็นส่วนต่อขยายในอนาคต สถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุด คือ สถานีนราธิวาสฯ (GL26)

knightsbridge-prime-sathorn-004

 

ถนนนราธิวาสฯ มีชื่อเต็มว่า “ถนนนราธิวาสราชนครินทร์” ซึ่งถนนนี้มีความยาวประมาณ 5.1 กิโลเมตร เริ่มจากถนนสุรวงศ์ ไปตามคลองตรงกลางถนน คือคลองช่องนนทรี ตัดกับถนนสีลม และถนนสาทรซึ่งเป็นสี่แยกที่สำคัญของย่านธุรกิจในกรุงเทพฯ เรื่อยมาตัดกับถนนจันทน์และถนนจันทน์เก่า จากนั้นตัดกับถนนรัชดาภิเษกและไปสิ้นสุดที่ถนนพระราม 3 บริเวณแยกพระราม 3-นราธิวาส ถนนนราธิวาสฯ นับว่าเป็นถนนที่มีความกว้างพอสมควร กว้างถึง 60 เมตร จำนวน 8 ช่องจราจร ซึ่งทำให้ที่ดินริมถนนนี้มีตึกสูงมากมาย และล่าสุดตึกที่สุดในประเทศไทยได้ เปิดตัวโครงการไปเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมากับ “MahaNakhon” (มหานคร) ตึกระฟ้าสูง 314.2 เมตร จำนวน 77 ชั้น ถือเป็น Landmark แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย

knightsbridge-prime-sathorn-005

 

เส้นทางสาทร-นราธิวาส ถือเป็นเส้นหลักสำคัญในการเดินทางของผู้อยู่อาศัยย่าน นางลิ้นจี่ สาธุประดิษฐ์ พระรามสาม และเป็นเส้นที่เชื่อมต่อมาจากพระรามสี่ฝั่งท่าเรือคลองเตย ซึ่งเส้นพระรามสี่เท่าที่ทราบดีอยู่แล้วว่าการจราจรหนาแน่น พระรามสามจึงเป็นเส้นทางสู่สาทรได้สะดวก ผ่านแยกรัชดา-นราธิวาสฯ เข้าสู่เส้นนราธิวาสฯ มุ่งตรงเข้าสู้สาทรได้อย่างง่ายดาย เส้นนราธิวาสฯ เองสามารถออกจากเมืองได้โดยทางด่วน ไม่ว่าจะไปทางบางนา พระรามสองหรือแจ้งวัฒนะก็สะดวกทั้งนั้น ถือว่าใช้ชีวิตอยู่จุดศูนย์กลางย่านธุรกิจอย่างสาทรได้อย่างแท้จริง

knightsbridge-prime-sathorn-006

 

ที่ตั้งของโครงการ

Knightsbridge Prime Sathorn ตั้งอยู่บนแปลงที่ดิน เดิมคือพื้นที่ของปั๊มน้ำมันเชลล์ ใกล้กับสถานี BRT อาคารสงเคราะห์ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาวิ่งผ่านหน้าโครงการ ตัวโครงการอยู่ติดถนนนราธิวาสฯ ง่ายต่อการเข้า-ออก โดยปั๊มเชลล์จะหมดสัญญาเช่าประมาณเดือนมิถุนายนปี 2560

knightsbridge-prime-sathorn-007

 

พื้นที่ปั๊มน้ำมันเชลล์ ด้านหลังเป็นพื้นที่สีเขียว โดยจะเห็นได้ว่าตัวโครงการอยู่ใกล้กับสถานี BRT อาคารสงเคราะห์ เดินเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น

knightsbridge-prime-sathorn-008

 

ด้วยศักยภาพของทำเลสาทร-นราธิวาสฯ เองเป็นเหตุให้ในช่วง 1-2 ปีมานี้ไม่มีโครงการใหม่เปิดตัวเลย เห็นแต่จะมีโครงการ The Hudson Sathorn เท่านั้น แต่โครงการนี้เป็นการนำ Apartment มาปรับโฉมใหม่เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low-rise ซึ่งอยู่ในซอยสาทร 7 หากวัดจากโครงการที่เปิดตัวริมถนนนราธิวาสฯ ตั้งแต่แยกสาทร-นราธิวาสไปจนถึงแยกรัชดา-นราธิวาสฯ ยังไม่มีโครงการใหม่เปิดตัวเลย ถือว่าเงียบไปพักใหญ่พอสมควร สำหรับทำเลนี้ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเป็นทำเลที่น่าสนใจและเหมาะแก่การอยู่อาศัยอยู่พอสมควร ทาง Origin Property หรือเราเรียกกันสั้นๆ ว่า Origin ได้ปักหลักโครงการทำเลในเมืองตัวแรกของ Origin ปกติเราจะเห็น Developer รายนี้จะพัฒนาโครงการตามชานเมืองซะเป็นส่วนใหญ่และแถบศรีราชาจับกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็น Developer ที่มีชื่อเสียง ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ปี 2552 จนปัจจุบันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา และโครงการ Knightsbridge Prime Sathorn เป็นโครงการลำดับที่ 34 ของบริษัท ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 3,800 ล้านบาท จึงเชื่อมันในศักยภาพของบริษัทว่าสามารถพัฒนาโครงการได้อย่างเต็มที่ หลังจากที่ปิดการขายไปหลายโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

knightsbridge-prime-sathorn-009

 

โครงการล่าสุดในทำเลที่ Origin ถือว่าเป็น Pilot project ที่จะขยายนามของบริษัทให้คนทั่วไปได้ที่รู้จัก Origin ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการแรกของ Origin เลยที่อยู่ในเมืองและทำเลศักยภาพ เป็นที่น่าสนใจมากในขณะนี้ เมื่อเราย้อนมองดูโครงการรอบๆ แล้วไม่ว่าจะเป็น RHYTHM Sathorn , Nara9 หรือโครงการอื่นๆ ในย่านนี้ตามซอย จะพบว่ารูปแบบส่วนใหญ่นั้นจะเป็นห้องสตูดิโอ, 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน การที่จะสร้างความแตกต่างและสิ่งแปลกใหม่คงหนีไม่พ้นการนำเสนอรูปแบบห้องที่น่าสนใจมากกว่าเดิม ครั้งนี้ทาง Origin เองทำการบ้านมาหนักพอสมควรเพราะการที่จะเปิดโครงการใหม่ แถมยังในเมืองนั้นมีความท้าทายและต้องสร้างความเชื่อมั่นพอสมควร ซึ่งเราจะเห็นได้จากการที่บริษัทให้ความสำคัญกับการออกแบบสถาปัตยกรรมและการออบแบบตัวห้องพักเองนั้น โดยทาง Origin วิเคราะห์มาเป็นอย่างดีแล้วว่า โครงการ Knightsbridge Prime Sathorn ตัวใหม่ตัวนี้ positioning ของโครงการจะต้องอยู่ตำแหน่งไหนของตลาดนี้ ที่จะกว้าน Demand ที่มีความต้องการประเภทนี้มาเป็นลูกค้าของ Origin ให้ได้ ตามกราฟด้านล่างเห็นได้ว่า positioning ของโครงการนี้อยู่ในตำแหน่งที่ไร้คู่แข่ง การวางตัวอย่างชัดเจนทำให้ลูกค้าสามารถรับรู้ตัว detail ของโครงการได้มากกว่า เมื่อเทียบกับโครงการในละแวกเดียวกัน

knightsbridge-prime-sathorn-010

 

การออกแบบสถาปัตยกรรม

การออกแบบตัวอาคาร Knightsbridge Prime Sathorn ให้มีความทันสมัย โดดเด่นด้วยการออกแบบยูนิตที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ ภายใต้คอนเซ็ป New English ฝีมือจาก สำนักงานสถาปนิก A49 โดยมีคุณปอย เป็นหัวเรือใหญ่คนเดียวกับที่ออกแบบแอชตัน สีลมนั่นเอง โดยส่วนใหญ่ห้องของทางโครงการจะเป็นแบบ Deplex คือ ตัวห้องจะมีความสูงมากกว่าโครงการโดยทั่วไป สูงถึง 4.4 เมตร สามารถใช้สอยพื้นที่ในความตั้งให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมนั้นถือการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่จำกัดต้องมีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้นการออกแบบตัวยูนิตเองจึงสะท้อนมายัง Façade ของอาคารที่ให้ความรู้สึกสูงชลูดขึ้นจรดปลายฟ้า ที่สำคัญยังทำให้อาคารดูไม่แออัดจนเกินไป

knightsbridge-prime-sathorn-011

 

จุดที่โดดเด่นอีกส่วนหนึ่งก็คือ การวางผังอาคารที่บิดเป็นรูปร่างซิกแซก เพราะว่าด้านทิศเหนือจะอยู่ใกล้กับโครงการ Nara9 รวมถึง RHYTHM Sathorn ทำให้ต้องบิดผังอาคารเพื่อตอบรับมุมมองที่ดีกว่า โล่งกว่า วิวแต่ละยูนิตที่ได้ก็จะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะมุมที่บิด จะส่งผลให้ตำแหน่งองศาของห้องไม่เหมือนกับโครงการละแวกเดียวกัน แนวแกนอาคารจะมีทั้งหมดสองแกน เห็นได้ชัดว่าไม่มีห้องใดได้รับวิวปะทะกับโครงการที่เป็นตึกสูงด้านิศเหนือเลย

knightsbridge-prime-sathorn-012

 

วิวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (สาทรตอนปลาย)

knightsbridge-prime-sathorn-013

 

วิวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (สาทรตอนต้น)

knightsbridge-prime-sathorn-014

 

วิวทิศตะวันออกเฉียงใต้ (บางกระเจ้า แม่น้ำเจ้าพระยา)

knightsbridge-prime-sathorn-015

 

วิวทิศตะวันตกเฉียงใต้ (ถนนจันทน์ พระรามสาม สะพานพระรามเก้า)

knightsbridge-prime-sathorn-016

 

รายละเอียดโดยทั่วไปของโครงการ

โครงการ Knightsbridge Prime Sathorn มีขนาดที่ดิน 2-3-68.92 ไร่ มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 729 ยูนิต แบ่งเป็นส่วนพักอาศัย 726 ยูนิตและส่วนร้านค้า 3 ยูนิต

ส่วนยูนิตพักอาศัยมี 4 แบบ คือ
– Monoplex ขนาด 30 ตร.ม. จำนวน 126 ยูนิต
– Monoplex ขนาด 24 ตร.ม. จำนวน 106 ยูนิต
– Duplex ขนาด 30 ตร.ม.(พื้นที่ใช้สอย 44 ตร.ม.) จำนวน 266 ยูนิต
– Duplex ขนาด 24 ตร.ม.(พื้นที่ใช้สอย 37 ตร.ม.) จำนวน 228 ยูนิต

จำนวนที่จอดรถ 509 คัน คิดเป็น 70% จอดแบบระบบ Automation parking ทั้งหมด
เริ่มก่อสร้าง ไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ.2560
คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จ ไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ.2562

แปลนอาคารชั้นล่าง เป็นส่วนโถงต้อนรับขนาดใหญ่ มีส่วนร้านค้าจำนวน 3 ยูนิต เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พักอาศัยในโครงการ และที่จอดรถสำหรับ visitor จำนวน 18 คัน พร้อมพื้นที่สวนรอบโครงการ

knightsbridge-prime-sathorn-017

 

แปลนชั้นจอดรถ

knightsbridge-prime-sathorn-018

 

knightsbridge-prime-sathorn-019

 

แปลนชั้นที่ 15-23 ห้องแบบ Monoplex

knightsbridge-prime-sathorn-020

 

knightsbridge-prime-sathorn-021

 

แปลนชั้นที่ 24-42 ห้องแบบ Duplex

knightsbridge-prime-sathorn-022

 

แปลนชั้นที่ 43 ส่วนกลาง ชั้นสูงสุด (Amenity)
– Lap pool ยาว 35 ม. (รวมความยาวสระทั้งหมด 45 เมตร)
– Therapy pool
– Terrace
– Sky bath
– Metropolitan club
– Media club
– Fitness (Mezzanine floor)

knightsbridge-prime-sathorn-023

 

การออกแบบ Unit plan

ยูนิตห้องพักของโครงการนี้ถือว่าเป็นจุดชูโรงของโครงการเลยก็ว่าได้ เนื่องจาก supply บริเวณนี้แถบจะไม่มีเลยหรือถ้ามีก็จะราคาสูงมาก โดยทางโครงการให้น้ำหนักกับห้องแบบ duplex เป็นพิเศษ ความสูง floor to ceiling 4.40 เมตร ในสัดส่วนประมาณ 68% เลยทีเดียว ส่วนอีกประมาณ 32% จะเป็นห้องแบบ monoplex คือห้องความสูง floor to ceiling 2.65 เมตร โดยแต่ละแบบห้องจะมี 2 ขนาด คือ 24 และ 30 ตร.ม. โดยไฮไลท์ของโครงการก็เห็นจะเป็นห้อง duplex ที่ให้พื้นที่ใช้สอยชั้นลอยของแต่ละยูนิตที่เพิ่มเข้าแบบไม่คิดในโฉนดด้วย ซึ่งพื้นที่ชั้นลอยจะเป็นในส่วนของห้องนอนครับ

ห้อง Duplex ขนาด 24 ตร.ม.

แบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว แยกส่วน living และ kitchen and service อย่างชัดเจน ที่สำคัญเป็นครัวปิด รับแสงจากธรรมชาติด้วยกระจกสูงหน้ากว้างถึง 4.85 เมตร

 

knightsbridge-prime-sathorn-024

 

ภาพ section ของห้อง duplex 24 ตร.ม. แสดงให้เห็นว่าสามารถใช้งานได้จริงด้วยการออกแบบพื้นที่แนวตั้งทำให้ได้ประสิทธิภาพที่มากกว่า

knightsbridge-prime-sathorn-025

 

ห้อง Duplex ขนาด 30 ตร.ม.

ส่วนที่แตกต่างระหว่างห้อง duplex ขนาด 24 ตร.ม. คือ ความลึกที่เพิ่มเข้ามาอีก 0.95 เมตร ทำให้สามารถมีพื้นที่เพิ่มขึ้น ส่วนที่ถัดจากห้องครัว ซึ่งในแปลนทำเป็นห้องนอนเล็ก โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการถือว่าเป็น multipurpose room ก็ได้เช่นกันครับ

knightsbridge-prime-sathorn-026

 

ภาพ section ของห้อง duplex 30 ตร.ม. แสดงให้เห็นว่าพื้นที่เพิ่มขึ้นก็สามารถมีห้อง multipurpose room ได้เช่นกัน

knightsbridge-prime-sathorn-027

 

ห้อง Monoplex ขนาด 24 ตร.ม.

สำหรับห้อง Monoplex หรือ 1 ห้องนอนโดยทั่วไปนั่น จะอยู่ตั้งแต่ชั้น 15-23 เท่านั้น แปลนของห้องออกแบบมาตามฉบับมาตรฐานที่ 1 ห้องนอนควรมี แบ่งแยกโซน living , kitchen และห้องนอนได้ลงตัว

knightsbridge-prime-sathorn-028

 

พื้นที่ living เชื่อมกับห้องนอน

knightsbridge-prime-sathorn-029

 

ห้อง Monoplex ขนาด 30 ตร.ม.

ส่วนใหญ่ห้องขนาด 30 ตร.ม. จะเพิ่ม multipurpose room เข้ามาให้จะทำเป็นห้องนอนเล็กหรือห้องทำงานก็ได้ แต่สำหรับห้องนี้อาจจะดูแปลกตาไปสักนิด เพราะห้องครัวอยู่คั่นกลางระหว่างห้องน้ำและห้องนอน ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่หนักไปทาง living

knightsbridge-prime-sathorn-030

 

พื้นที่ส่วน livingเชื่อมต่อกับห้อง multipurpose ซึ่งในภาพเป็นห้องทำงานติดกับพื้นที่ระเบียง

knightsbridge-prime-sathorn-031

 

ภาพตัวอย่างภายในส่วนห้องนอน

knightsbridge-prime-sathorn-032

 

ใครเหมาะสมที่จะซื้อโครงการนี้?

เป็นที่แน่นอนว่าย่านสาทรจนไปกระทั่งสีลม คราคร่ำไปด้วยแหล่งออฟฟิศมากมาย ซึ่งถือเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญอย่างยิ่งของกรุงเทพฯ และประเทศไทย เป็น financial hub ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ อาทิเช่น บริษัท Audit firm ชื่อดังอย่าง PwC, KPMG, Deloitte สำนักงานใหญ่ของธนาคารหลายแห่ง อาทิ ธนาคารกรุงเทพ, UOB, Standard Chartered, TISCO, BTMU (Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ) และบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทเงินทุน Law firm อีกมากมาย ทั้งนี้รายได้ของคนกลุ่มนี้ทั้งพนักงาน ห้วหน้า ผู้บริหารระดับกลาง ถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของโครงการ นอกจากนี้กลุ่มผู้ปกครอง นักเรียนในโรงเรียนละแวกนี้ เช่น โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถมและมัธยม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และสถานศึกษาชั้นนำ อีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจ คือชาวต่างชาติอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่รู้จักย่านสาทรอยู่แล้วและชอบอาศัยอยู่บริเวณนี้ค่อนข้างมาก

โดยทาง Origin เองทำ package price มาในราคาที่เหมาะสม เริ่มต้นเพียง 3.2 ล้านบาท โดยห้อง duplex เริ่มต้นเพียง 4.5 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของโครงการอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท/ ตร.ม. ซึ่งราคานี้สามารถจับต้องได้ จึงเชื่อว่าด้วย product ที่แตกต่างและมีทำเลที่โดดเด่น น่าจะทำยอดขายและเป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี

knightsbridge-prime-sathorn-033

 

หากท่านสนใจโครงการ Knightsbridge Prime Sathorn เปิดจองครั้งแรกวันที่ 1-2 ตุลาคมนี้ ที่โรงแรมโซ โชฟิเทล แบงค็อก และสามารถเข้าชม Sales gallery ก่อนช่วงเปิดจองได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายานนี้ ที่โครงการครับ

สามารถเข้าไปลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://knightsbridge-sathorn.origin.co.th/Sathorn

ความคิดเห็น