พาชมคอนโด “KnightsBridge Space Ratchayothin” ฉีกรูปแบบการอยู่อาศัยแบบเดิมๆกับ “Duo Space” เชื่อมต่อทุกรูปแบบชีวิตบนทำเลใจกลางรัชโยธิน
พาชมคอนโด “KnightsBridge Space Ratchayothin” โครงการล่าสุดของซีรี่ย์ SPACE จาก ORIGIN ที่กลับมาสร้างสรรค์พื้นที่เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ฉีกรูปแบบเดิมๆ ด้วยดีไซน์ “Duo Space” ความสูงห้องถึง 4.2 เมตร บนทำเลแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเส้นพหลโยธิน ปากซอยพหลโยธิน 27 หนึ่งในทำเลศักยภาพการเชื่อมต่อชีวิตในทุกรูปแบบของย่านรัชโยธิน
เจาะลึกทำเล
ทำเลเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อคอนโด ซึ่งย่านรัชโยธิน ถือได้ว่าเป็นทำเลที่มีความคับคั่งไปด้วยผู้คน แสดงถึงความสมบูรณ์ของพื้นที่ ทั้งห้างสรรพสินค้าที่ตอบรับทุกการช้อปปิ้งและความบันเทิง เช่น เมเจอร์รัชโยธิน, เซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนียนมอลล์, เจเจมอลล์ รวมทั้งอาคารสำนักงานชั้นนำ อย่าง อาคารสำนักงานเอสซีบี , ตึกช้าง, สำนักงานใหญ่การบินไทย, อาคารสำนักงานทีเอ็มบี, อาคารสำนักงาน ป.ต.ท.
นอกจากนี้ ย่านรัชโยธิน ก็ยังมีสถาบันการศึกษาชั้นนำรวมทั้งโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลวิภาวดี, โรงพยาบาลเปาโล, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม, โรงเรียนหอวัง หรือหากต้องการพักผ่อนด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย ก็มีสวนธารณะที่เดินทางไปได้สะดวก อย่าง สวนจตุจักร, สวนรถไฟ จึงเรียกได้ว่าเป็นย่านที่มีทุกไลฟ์สไตล์อยู่ด้วยกัน ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์
เซ็นทรัลลาดพร้าว
โรงพยาบาลเปาโล
สวนรถไฟ
Holm Humble ร้านคาเฟ่ต์สไตล์อบอุ่นที่ไว้คอยต้อนรับทุกคนในบรรยากาศเหมือนบ้าน
ภาพจาก ; https://www.facebook.com/holmhumble/
V38 Fitness
ฟิตเนสที่มีห้องจำลองสถานการณ์ความสูง ที่เรียกว่า อัลติจูด ให้คุณได้สัมผัสประวนการณ์ใหม่ๆ พร้อมด้วยเครื่องสร้างคลื่นเสมือนจริงในสระว่ายน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่ ถนนวิภาวดีรังสิต ซอย 38
ทำเลรัชโยธินยังเป็นทำเลที่มีการพัฒนาเป็น CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าในอนาคตอีกหลายเส้น ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียว, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีเหลือง ทำเลนี้มีการพัฒนาพื้นที่และแหล่งงานในอนาคต เห็นได้จากโครงการ Mixed Use Project ซึ่งเป็นโครงการของบีทีเอส + จีแลนด์ รวมถึงโครงการสมาร์ทซิตี้ 200 ไร่ เมกะโปรเจกต์จาก ปตท. สกายวอล์กเชื่อมต่อสถานีขนส่งหมอชิตเก่า-ใหม่ ซึ่งเป็นแนวโน้มการเติบโตที่ดี ทำให้พื้นที่นี้มีความน่าลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งตลาดคอนโดของย่านรัชโยธินเองก็มีอัตราการขายที่ทะยานขึ้นเรื่อยๆจากปี 2014
การเดินทางในพื้นที่รอบโครงการ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีพหลโยธิน 24 ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงทองหล่อ, สยาม อโศก ได้โดยตรง หรือสามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีหมอชิต โดยคาดว่าน่าจะสร้างเสร็จในปี 2563 การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งดอนเมืองโทลเวย์เพื่อไปยังรังสิต, หรือเชื่อมต่อถนนวิภาวดีรังสิต หรือถนนรัชดาภิเษกได้ไม่ไกลจากโครงการ
สถานีพหลโยธิน 24 ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 20 เมตร
สำรวจการเดินทาง
เริ่มต้นที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ขับมุ่งหน้าไปทางถนนพหลโยธินฝั่งขาออก
ขับตรงมาเรื่อยๆ เพื่อมุ่งหน้าสู่โครงการ
ตรงมาอีกไม่ไกลจะเจอกับเซ็นทรัลลาดพร้าวที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ และ ห้างเทสโก้ โลตัส ทางขวามือ
ให้สังเกตตึกช้างทางขวามือ เนื่องจากโครงการจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับตึกช้าง (ภาพจากหน้าโครงการ)
ผังแสดงที่ตั้งโครงการ “ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน” สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีเหลืองได้อย่างสะดวก
จะเจอกับโครงการ “ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน” ที่ตั้งอยู่ฝั่งทางด้านซ้ายมือ
โครงการจะตั้งติดกับสถานีรถไฟฟ้า พหลโยธิน 24 ( มุมมองทางเดินด้านหน้าโครงการ)
มุมมองจากในโครงการผ่านถนนพหลโยธิน 27 จะเห็นการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ซอยพหลโยธิน 27 ซึ่งเป็นถนน 2 เลน ด้านข้างโครงการ
ซอยพหลโยธิน 29 ซึ่งเป็นถนน 2 เลน ถัดเลยไปจากโครงการ
เจาะลึกโครงการ“ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน”
เจ้าของโครงการ: บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ประเภท: High Rise Condominium
ที่ดิน: 2-2-74.1 ไร่
ที่ตั้งโครงการ: ถนนพหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. (Google map: 13.825284, 100.566812)
จำนวนชั้น: 33 ชั้น, 1 อาคาร
จำนวนยูนิต: 488 ยูนิต
ความสูงห้อง: 4.2 เมตร
ที่จอดรถ: อาคารจอดรถอัตโนมัติ 70% ของจำนวนห้องพัก
แบบห้องพัก:
– 1 Bedroom (22.8-30.9 sqm)
– 1 Bedroom Plus (35.0-35.4 sqm)
– 2 Bedroom (54.3-61.8 sqm)
สิ่งอำนวยความสะดวก:
– ล็อบบี้
– Co-Working Space
– Cafe 24
– สวนลอยฟ้า ชั้น 33
– ระบบ Auto parking
วิเคราะห์ที่ตั้ง
ทิศเหนือของโครงการจะติดกับ KnightsBridge Prime Ratchayothin แต่จะไม่ได้บังวิวซะทีเดียวเนื่องจากตัวอาคารเป็นการวางเยื้องกันไปทางด้านขวาบน ทางด้านทิศใต้ติดถนนพหลโยธิน 27 วิวเป็นอาคารที่พักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้นซึ่งอาจทำให้ตัวอาคารรับแดด แต่การวางตัวของโครงการทำให้เกิดลมถ่ายเทช่วยผัดผ่านความร้อนออกไปได้ระดับหนึ่ง ทางสำหรับทิศตะวันออกจะเห็นสถานีรถไฟฟ้า และตึกช้าง เป็นวิวสำหรับคนที่ชอบมุมมองของเมือง ทางทิศตะวันตก เป็นมุมมองที่ไม่ได้มีตึกใดบัง เป็นวิวที่ดีของโครงการ
ผังโครงการ
ชั้น 1 ประกอบด้วยพื้นที่ Café 24, Co-Working Space, ที่จอดรถ, พื้นที่สวนสวนตั้งแต่ทางเดินจนเข้าสู่สวน Co-Living Garden พื้นที่แต่ละส่วนจะแยกออกมาเป็นส่วนๆ เพื่อให้การเข้าถึงแต่ละพื้นที่สร้างความเซอร์ไพร์ส ให้กับผู้ใช้งานตามคอนเซ็ปต์ของโครงการ พื้นที่ของโครงการไม่ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับที่ดิน ตัวอาคารจัดวางเป็นรูปตัว L เส้นทางการเดินรถยนต์สามารถ Drop-Off ที่ด้านหน้าอาคาร แล้ววนออกหรือสามารถเข้าไปที่ลานจอดรถอัตโนมัติก็ได้
พื้นที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่ของล็อบบี้อาคาร และพื้นที่ชั้นลอยของ Café 24 และ Co-Working Space
พื้นที่ชั้น 14-30 เป็นส่วนที่พักอาศัย ทางเดินแยกเป็น 2 แกนตามผังอาคาร ในแต่ละชั้นมี 26 ห้อง ต่อลิฟต์ 4 ตัว ถือว่ายังไม่ได้หนาแน่นมาก พื้นที่มุมของอาคารจะเป็นห้อง 1 ห้องนอนขนาดใหญ่สุดของที่นี่คือ 35 ตารางเมตร ซึ่งห้องที่แนะนำคือห้อง 23 และ 24
ชั้น 31-32 สำหรับชั้นนี้จะมีพื้นที่ของ 2 ห้องนอนเพิ่มเติมเข้ามา ถ้าใครอยากได้คงต้องรีบจับจองเพราะมีเพียง 6 ห้องทั้งอาคาร แต่ละห้องเรียกว่าได้มุมดีที่สุดไปด้วย
ชั้นดาดฟ้า เป็นพื้นที่ของสวนที่ถูกจัดไว้เพื่อให้สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พร้อมทั้งเปิดมุมมองวิวให้กับลูกบ้านในโครงการ ได้มีจุดนั่งพักผ่อนที่แทรกไปกับเส้นสายความเป็นธรรมชาติที่เรามีอยู่ในทุกพื้นที่ โดยมีการออกแบบให้มีพื้นที่ SUNSET AMPHITHEATER ที่สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่จุดสูงสุดของโครงการได้
สิ่งอำนวยความสะดวกโครงการ
เมื่อเดินเข้ามาในพื้นที่โครงการจะเจอกับสวนทางด้านหน้าเป็นส่วนแรก โดยที่นี่จะเป็นจุดแรกในการเปิดมุมมองการพักผ่อนด้วย Landscape Corridor ที่มีทางเดินม่านหมอก และต้นไม้ใหญ่ทำให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย
เมื่อเดินต่อมาถึงล็อบบี้อาคาร ก็จะเห็นการตกแต่งที่เป็นแนวอวกาศนิดๆ เน้นเส้นสายที่นำสายตาไปสู่พื้นที่รอบๆ ด้วยการดีไซน์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ Striking Space ให้แต่ละพื้นที่ดูตื่นตาและโดดเด่นอยู่ตลอดเวลา
สำหรับโครงการมีพื้นที่คาเฟต์ ให้นั่งผ่อนคลายหรือนัดคุยงานกับเพื่อนชิวๆ ยามบ่าย ด้วยพื้นที่ Double Space ที่เปิดโล่งและการตกแต่งแบบพรีเมียม
และเมื่อเข้ามาทางด้านหลังของอาคารจะพบกับพื้นที่ Co-Working Space ที่เปิดมุมมองรับสวน และสร้างสรรค์พื้นที่ให้กับการนั่งทำงาน ด้วยบันไดที่มีเก้าอี้ที่สามารถมานั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือ บรรยากาศสวยโดดเด่นเหมือนอยู่เมืองนอก พร้อมมองวิวสวนและ Feature Pool ที่มีเส้นสายและลวดลายที่ดึงดูดสายตา
สำหรับสวนด้านหลัง เป็นสวนที่มีลูกเล่นและเส้นสายที่ดูโมเดิร์น ปิดล้อมพื้นที่เสมือนได้เข้ามาพักผ่อนและตัดขาดจากพื้นที่ภายนอก พร้อมมีที่นั่งผักผ่อนที่ออกแบบพื้นที่ให้ร่มตลอดทั้งวัน และเชื่อมต่อ Co-Living Garden เข้ากับพื้นที่ Co-Working Space
ระบบ Home Automation ระบบที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ระบบ Home Automation เป็นเทคโนโลยีสุดล้ำที่จะมาช่วยให้การอยู่อาศัยของลูกบ้านภายในโครงการ ง่ายขึ้นด้วยการควบคุมการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องด้วยระบบไร้สาย เช่น ไฟฟ้าแสงสว่าง, เครื่องปรับอากาศ, ม่าน, ระบบล็อค ด้วยแอปพลิเคชั่นจากโครงการ ไม่ต้องกลัวเรื่องระบบความปลอดภัยอีกต่อไป เพราะสามารถเช็คระบบล็อคง่ายๆได้ผ่านมือถือ
ส่องห้องตัวอย่าง
จุดเด่นของห้องพักในอาคารนี้ คือการให้พื้นที่เพดานสูงมากถึง 4.2 เมตร ทำให้พื้นที่ใช้งานทุกพื้นที่ภายในห้องสามารถเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งแนวแกน X,Y หรือแนวแกน Z เองหมดห่วงเรื่องการเสียพื้นที่ไปได้เลย สำหรับโครงการ “ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน” ห้องทุกห้องเป็นการขายแบบ Fully Fitted คือ รวม Built-In ครัว พร้อมเตาไฟฟ้า + ที่ดูดควัน ไม่ได้รวมการตกแต่งอื่นๆเช่น พื้นที่เก็บของ
– Vertical Space: พื้นที่ทางตั้งเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการเป็นพื้นที่เก็บของบนส่วนอาบน้ำ ในรูปแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
– More Space : พื้นที่ทั้งภายในห้องและพื้นที่ส่วนกลางที่มากขึ้น ทำให้สามารถใช้ชีวิตในพื้นที่ได้มากกว่า
– Flow Space : การเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารด้วยการออกแบบ Space ทีมีการเล่นระดับ เล่นระดับพื้นที่โถงเพดานสูง มีการออกแบบพื้นที่ใช้งานขนาดใหญ่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้เปิดรับมุมมองใหม่ๆที่สร้างสรรค์มากกว่าเดิม
ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตารางเมตร
ห้องในรูปแบบนี้จัดวางตัวในแนวยาวแบ่งพื้นที่ด้านหน้าเป็นสัดส่วน เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับห้องครัวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และส่วนของห้องน้ำ มีบานสไลด์กระจกเป็นสัดส่วนกั้นระหว่างห้องครัวกับพื้นที่ห้องนอน ที่สำคัญคือมีพื้นที่ “Duo Space” เพิ่มอีก 10 ตร.ม. (โดยประมาณ)
ห้องตกแต่งด้วยโทนสีขาวพร้อมด้วยการใช้แสงที่ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้นไปอีก
มือจับแบบ Digital Door Lock ของ Samsung ที่ได้รางวัลมากมายสวยทั้งดีไซน์และความปลอดภัย โดยโครงการส่งมอบให้ทุกยูนิต
เข้ามาภายในห้อง มองตรงไปยังห้องนั่งเล่น สำหรับห้องครัวใช้พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคโทนสีอ่อน ทำความสะอาดง่าย
พื้นที่ครัว ให้เตาไฟฟ้า + ที่ดูดควัน+ อ่างล้างจาน ทั้งหมดของ Hafele ซึ่งเป็นแบรนด์คุณภาพดี
ตู้และบานเปิดทั้งหมดเป็น Soft Close (ตกแต่งเป็นไอเดีย ไม่ได้รวมอยู่ในห้องแบบ Fully fitted)
ห้องน้ำตกแต่งพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตสีเทาเข้ม พร้อมด้วยผนังกระเบื้องเซรามิคอ่างล้างหน้ามาพร้อมกับกระจกเต็มบาน
โดยสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นของ TOTO หรือเทียบเท่า
ส่วนของห้องอาบน้ำมี Rain Shower พร้อมด้วยกระจกบานนิรภัยบานเปิดพร้อมขอบด้านล่าง เพื่อป้องกันน้ำจากส่วนเปียกไหลออกไปด้านนอก
พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่น พื้นตกแต่งด้วยลามิเนต โคมไฟเป็นแบบดาวน์ไลท์ จัดเป็นสัดส่วนด้วยกระจกบานเลื่อนกั้นระหว่างห้อง
ภายในห้องมีโต๊ะทำงานเป็นสัดส่วน
มุมมองไปยังพื้นที่ “Duo Space” ที่เพิ่มพื้นที่ให้กับห้องถึง 10 ตารางเมตร โดยมีพื้นที่ใต้บันไดก็ออกแบบเป็นชั้นวางของทำให้ทุกพื้นที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนของห้องนอน ตกแต่งเป็นกระจกเพื่อให้ห้องดูกว้างขึ้นกว่าเดิม
มีพื้นที่ของห้องแต่งตัว เป็นประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเป็นสัดส่วน โดยทางโครงการตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อให้การใช้พื้นที่เกิดประโยชน์สูงสุด ได้รวมอยู่ในห้อง
บรรยากาศภายในห้องแต่งตัว
บรรยากาศของห้องนั่งเล่นด้วยความสูงระดับ 4.2 เมตร
สำหรับพื้นที่ระเบียง ทางโครงการไม่ได้ให้พื้นที่มากนัก เนื่องจากในส่วนของห้องนั่งเล่นมีกระจกสามารถรับมุมมองด้านนอกอาคารได้
หน้าต่างที่เปิดได้ในส่วนของห้องนั่งเล่น ที่เหลือจะเป็นกระจกบานติดตาย
ห้อง 1 ห้องนอนแบบ Extra ขนาด 26.50 ตารางเมตร
ห้องในรูปแบบนี้จะจัดอยู่ในทางด้านซ้ายของอาคาร แตกต่างจากรูปแบบแรกโดยการเพิ่ม Bay window มา และออกแบบให้กระจกเข้ามุมดีไซน์เฉียง เปิดรับมุมมองได้เต็มที่ พร้อมทั้งช่วยปกป้องแสงแดดและความความร้อนที่จะเข้ามาในห้อง ในรูปแบบนี้ห้องจะมี มีพื้นที่ “Duo Space” เพิ่มอีก 10 ตร.ม. (โดยประมาณ)
ห้องนี้จะดีไซน์ให้รู้สึกถึงความเป็นอวกาศของ Space ด้วยการใช้สีและแสงไฟเป็นเส้นๆ
ห้องครัวจะเหมือนกับรูปแบบแรกคือ พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคผิวมัน มองเข้าไปจะเห็นกระจกบานเลื่อนคอยกั้นความเป็นสัดส่วนของพื้นที่
ส่วนของห้องนั่งเล่น ปูด้วยพื้นลามิเนตลายไม้ พร้อมด้วยไฟดาวน์ไลท์และกระจกขนาดใหญ่
พื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหารภายในห้อง
เมื่อเปิดผ้าม่าน จะมองเห็นกระจกออกแบบให้เข้ามุม ทำให้สามารถเปิดรับวิวได้เต็มที่
ส่วนของกระจกที่คอยเปิดมุมมองให้กับห้อง พร้อมทำให้ห้องนั่งเล่นมองวิวเมืองด้วยกระจกดีไซน์เฉียงแบบ Bay Window
ฟังก์ชันทุกพื้นที่สามารถใช้งานและเก็บของได้ แม้กระทั่งพื้นที่ใต้บันได
“Duo Space” ช่วยสร้างบรรยากาศในห้องให้ดูสูงโปร่งและมีมิติ ถือเป็นจุดขายสร้างความแตกต่างจากคอนโดโครงการอื่นๆ
พื้นที่ด้านบนส่วนของห้องนอน สามารถเพิ่มเติมเป็นพื้นที่ห้องแต่งตัวได้
พื้นที่ห้องแต่งตัว เป็นตัวอย่างให้สำหรับคนที่ต้องการตกแต่งเป็นแนวนี้
มุมมองพื้นที่ห้องนั่งเล่น
ส่วนของห้องครัวจะใช้เตาไฟฟ้า + ที่ดูดควัน+ อ่างล้างจานของ Hafele เหมือนกับห้องรูปแบบอื่นๆ บานประตูทั้งหมดเป็นแบบ Soft close
ส่วนของสวิตซ์ ไฟ เป็นสีขาวดีไซน์เรียบง่าย
ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ทั้งหมดของ TOTO พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ มีขอบกั้นระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง
ห้องอาบน้ำมีทั่งฝักบัวสายอ่อนและ Rain Shower จาก TOTO
ส่วนของระเบียงก็ให้พื้นที่เล็กน้อย สามารถใช้ตากผ้าได้ แต่ถ้าชมวิวแนะนำชมจากในห้องจะเต็มอิ่มมากกว่า
ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 35.80 ตารางเมตร
การจัดห้องเหมือนกับ 2 รูปแบบแรกคือห้องวางตัวเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ด้วยพื้นที่ห้องที่มากขึ้นทำให้พื้นที่การใช้งานมีมากขึ้น สามารถจัดพื้นที่เป็นสัดส่วนได้มากยิ่งขึ้น มีพื้นที่ “Duo Space” เพิ่มอีก 12 ตร.ม. (โดยประมาณ) สามารถใช้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์หรือพื้นที่ห้องนอนเพิ่มอีก 1 ห้องก็ได้
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับห้องครัว ซึ่งในรูปแบบนี้ห้องครัวจะวางในแนวแคบแต่กว้างกว่ารูปแบบอื่น พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิค พร้อมด้วยเครื่องครัวจาก Hafele
ส่วนของพื้นที่เก็บของที่ทางโครงการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
ถัดมาจะเป็นส่วนของพื้นลามิเนต พร้อมด้วยไฟดาวน์ไลท์ ด้วยเพดานสูงถึง 4.2 เมตร ทำให้เปิดรับมุมมองที่มากกว่า
โดยห้องรับแขกจะหันโซฟาออกทางกระจกเพื่อเปิดรับวิวภายนอกอาคาร แต่หากใครกลัวเรื่องแสงแดดแนะนำให้มีม่านสองชั้น เพื่อให้ม่านทึบช่วยกันแสงในช่วงบ่ายได้
มุมมองเมื่อมองไปยังห้องนอน ห้องครัวและพื้นที่ “Duo Space”
พื้นที่ภายในห้องนอน เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างพอดีตัว มีหน้าต่างขนาดใหญ่คอยเปิดรับแสงสว่างเข้ามาภายในห้อง
ส่วนของตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอน
พื้นที่เก็บของที่สามารถจัดเก็บได้ในทุกพื้นที่แม้กระทั่งพื้นที่ใต้บันได
พื้นที่ “Duo Space” ด้านบนก็สามารถปรับเป็นห้องนอน หรือห้องเอนกประสงค์ก็ได้
พื้นที่ห้องแต่งตัว
ทุกส่วนในห้องถูกสร้างให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากที่สุด ด้วยการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บในทุกจุด
พื้นที่ห้องน้ำยังคงใช้การจัดวางที่ไม่ได้ต่างจากรูปแบบแรก ใช้กระเบื้องแกรนิตโต้สำหรับงานพื้น
ส่วนของห้องอาบน้ำ กั้นด้วยกระจกนิรภัย
โครงการ “ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน” เป็นโครงการที่ตอบโจทย์ทั้งทำเล ที่มีทุกสิ่งไว้คอยรองรับทุกความเคลื่อนไหวในชีวิต ทั้งพื้นที่ผักผ่อน รวมทั้งความน่าตื่นตาตื่นใจในพื้นที่คอนโด ที่มีการออกแบบที่ทำให้ทุกพื้นที่สามารถใช้งานได้มากกว่า ด้วยพื้นที่ “Duo Space” และพื้นที่ที่ตอบโจทย์วัยรุ่นยุคใหม่อย่าง Café และ Co-Working Space รวมทั้งตัวห้องเองก็ดีไซน์ทุกฟังก์ชันให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกพื้นที่
หากใครสนใจสามารถเข้าไปดายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://origin.co.th/knightsbridgespace
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าจองรอบออนไลน์ ในราคาพิเศษ โดยลงสิทธิ์เพื่อเข้าจองได้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.-7 มี.ค.นี้ โดยจะได้ส่วนลดพิเศษ ในวันจองจริง 8 มี.ค.นี้ สูงสุดถึง 300,000.-*
วีธี Pre-Booking
1. เข้าไปชมข้อมูล เล็งห้องที่ชอบไว้ในใจ
2. ลงทะเบียนจองสิทธิ์
3. ยืนยันอีเมล
โดยวันที่ 8 มีนาคม จะเปิดจองเที่ยงวัน – 3 ทุ่ม ใครจองก่อนได้สิทธิ์ก่อน สำหรับ วิธีการก็ไม่ยากเพียงแค่เข้าเว็บไซต์ของโครงการ
1. กรอกหมายเลขบัตรประชาชน
2. เลือกโครงการที่สนใจ
3.เลือกยูนิต/ชั้น
4. จอง/ชำระเงิน
เพียง 4 ขั้นตอน ก็ได้สิทธิเป็นเจ้าของคอนโด “ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน” ได้แล้วง่ายๆ
โดยจะเปิดจองสุดเอ็กคลูซีฟเพียง 100 ยูนิตแรกเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น KnightsBridge SPACE พระราม 9, KnightsBridge SPACE รัชโยธิน และ KnightsBridge collage สุขุมวิท 107 พร้อมส่วนลดมากมายที่รออยู่ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 020 300 000 หรือ ลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ https://goo.gl/QBTeZf