หลงเสน่ห์ "ทองหล่อ-เอกมัย" ไม่ต้องฝันไกล…ถ้าอยากอยู่ตรงนี้แบบเอื้อมถึงได้

 
“ทองหล่อ-เอกมัย” ย่านธุรกิจสร้างสรรค์  ร้านค้านำเทรนด์  และแหล่งที่พักอาศัย ของเมืองกรุง  จากอดีตจนถึงปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง สร้างสีสันและเปิดมุมมองใหม่ๆให้กับทุกไลฟ์สไตล์ เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ชาวไทยและต่างชาติ ต่างเทใจหลงรัก

ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (กรุงเทพฯ – ตราด) หรือ ชื่อที่รู้จักกันคือ “ถนนสุขุมวิท” เป็นถนนสายเศรษฐกิจที่มีย่านสำคัญๆของเมืองอยู่หลายแห่ง ไล่เรียงกันมาตั้งแต่ เพลินจิต นานา อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย ซึ่งแต่ละย่านก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามบริบทของพื้นที่ โดยวันนี้เราจะพูดถึงย่านไฮโซของเมืองกรุงฯ “ทองหล่อ – เอกมัย” หรือ “ถนนสุขุมวิท55 – สุขุมวิท63” แหล่งรวมไลฟ์สไตล์สุดฮิป ที่มีความน่าสนใจและมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน

 

 

ซอยทองหล่อเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นตามชื่อเดิม ของเจ้าของที่ดินเมื่อสมัยสงครามโลก คือ ร.ท. ทองหล่อ ขำหิรัญ ร.น. (ยศสูงสุด และชื่อเปลี่ยนใหม่ภายหลังเป็น พล.ร.ต.ทองหล่อ (ทหาร) ขำหิรัญ) อดีตสมาชิกคณะราษฎรซึ่งกระทำการปฏิวัติสยาม เมื่อปี พ.ศ. 2475

ภาพถ่าย พลเรือตรีทองหล่อ (ทหาร) ขำหิรัญ

 

บรรยากาศร้านเบเกอรี่ภายในซอยทองหล่อ เมื่อย้อนไปประมาณ 30 ปีก่อน

 

รูปแบบสถาปัตยกรรมในยุค 80 ที่ยังสามารถพบเห็นได้อยู่ บนถนนเส้นนี้

 

บรรยากาศของ “ทองหล่อ – เอกมัย” จะเป็นย่านไลฟ์สไตล์ชั้นนำ และแหล่งธุรกิจสร้างสรรค์ของเมือง เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว กิน ดื่ม สังสรรค์  เหมาะสำหรับเหล่าวัยทำงาน และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มักจะมีกำลังทรัพย์มากพอสมควร เพราะเป็นย่านที่ดินราคาแพง สินค้าและบริการจะเน้นคุณภาพดี  นอกจากนั้นยังเป็นย่านที่เหมาะกับวิถีชีวิตแบบครอบครัว เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ สถานศึกษา โรงพยาบาล คลินิก สถานเสริมความงาม ฯลฯ สามารถใช้ชีวิตร่วมกันในหนึ่งวันได้อย่างสะดวกสบาย

 

Gateway เอกมัย ศูนย์การค้าแหล่งแฮงค์เอ้าท์ ภายในมีอาหารนานาชาติให้เลือกชิม แต่สำหรับคนที่รักอาหารญี่ปุ่น ต้องบอกว่าที่นี่เป็นศูนย์กลางของร้านอาหารญี่ปุ่นได้เลย เพราะจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดเยอะมากเป็นพิเศษ

 

ซอยเอกมัย อีกย่านเศรษฐกิจ ร้านค้า และ โซนพักอาศัย ที่สำคัญของกรุงเทพฯ

 

ด้วยความเพรียบพร้อมของคุณสมบัติต่างๆนี้ “ทองหล่อ – เอกมัย” จึงได้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยยอดนิยมของทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มชาวญี่ปุ่น เพราะตามประวัติในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ซอยทองหล่อถูกใช้เป็นทางผ่านของกองทัพญี่ปุ่น จึงเกิดการสร้างแหล่งอาศัยของชาวญี่ปุ่่นขึ้นมา จึงได้มีชาวญี่ปุ่นมาอาศัยอยู่มากในโซนพร้อมพงษ์จนถึงทองหล่อ จนกลายเป็นย่านชุมชนชาวญี่ปุ่นประจำเมืองไทยไปโดยปริยาย ส่วนกลุ่มคนไทยก็จะกระจายมาอยู่ทางโซนเอกมัย ที่เป็นโซนบ้านเดี่ยวของคนมีฐานะดี ใจกลางกรุงเทพฯมาตั้งแต่อดีต

 


 

เสน่ห์การเดินทางที่หลากหลาย ทั้งรถ เรือ และรถไฟฟ้า

.

“ซอยทองหล่อ – เอกมัย” เป็นถนนที่ตัดเชื่อมจากถนนสุขุมวิท เข้าถึงถนนเพชรบุรี ระหว่างซอยเต็มไปด้วยซอยซอกแซกเชื่อมไปยังซอยต่างๆได้อยู่มาก โดยระหว่างซอยทองหล่อ-เอกมัย จะเชื่อมกันได้2 ทาง คือ ซอยทองหล่อ10 เชื่อมไปออก ซอยเอกมัย5 และทาง ซอยแจ่มจันทร์ ทำให้มีทางเข้าออกที่สะดวกให้เลือกได้หลายทาง เลือกใช้ยานพาหนะได้ตามความสะดวก ตั้งแต่รถยนต์ส่วนตัว(แต่จะลำบากเรื่องที่จอดรถ) แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ไปจนถึงรถเมล์ มี Mini Bus วิ่งภายในซอยทองหล่อ รวมถึง มีเมล์แดงสาย 23 , 72 และ รถกระป๊อ วิ่งในซอยเอกมัย นอกจากทางบก ก็จะมีรถไฟฟ้า BTS อยู่ปากซอยถึง 2 สถานี คือ สถานีทองหล่อ และ สถานีเอกมัย แถมในอนาคตก็จะยังมีการสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวสายสีเทา วัชรพล – ท่าพระ ซึ่งจะทำให้มีสถานีเพิ่มขึ้นอีกถึง 4 สถานี ภายในซอยทองหล่อ และนอกจากรถไฟฟ้าที่ต้นซอย ก็ยังมีทางเรือที่ท้ายซอยคือ ท่าเรือทองหล่อ และ ท่าชาญอิสระ เรียกได้ว่ามีทางเลือกมากมายในการเดินทางให้เลือกได้ตามสะดวกแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของย่านนี้ก็ว่าได้

 

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่แสนสะดวก มาลงที่ปากซอยทองหล่อ

 

“ทองหล่อ – เอกมัย” 2 สถานีสุดฮอต แหล่งแฮงเอ้าท์ที่คนรุ่นใหม่ต้องมาเยือน

 

การเดินทางด้วยมอร์เตอร์ไซด์รับจ้าง ในซอยทองหล่อ ที่มีความคล่องตัว ฝ่ารถติด ถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว

 

รถเมล์แดง ที่วิ่งในซอยทองหล่อ มีค่าบริการเพียง 7 บาท ตลอดสาย

 

เปิดมุมมองใหม่ๆในการใช้ชีวิต ลองขึ้นรถเมล์แดงในวันหยุดอย่างวันอาทิตย์ สะดวกและง่ายดาย อีกวิถีการเดินทางสบายๆที่ชาวกรุงอาจมองข้ามไป

 

หรือจะเดินทางมา ซอยทองหล่อ ด้วยเรือคลองแสนแสบ ไม่ต้องทนกับรถติด ในราคาเริ่มต้นเพียง 10 บาทเท่านั้น

 

“ซอยทองหล่อ และ เอกมัย” ยังสามารถเชื่อมต่อทะลุไปยัง ถนนเพชรบุรี ได้สะดวก โดยสามารถมุ่งหน้าต่อไปยังประตูน้ำ  หรือถนนพระราม 9 ได้ไม่ยาก

มองไปเจอคอนโดมิเนียม “เดอะ แคปปิตอล เอกมัย-ทองหล่อ”  ตั้งอยู่ใกล้ปากซอยทองหล่อฝั่งด้านถนนเพชรบุรี

 

และลงสำรวจ “ทองหล่อ – เอกมัย”  ถือเป็นอีกที่สุดของย่านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ กิน อยู่ เที่ยว ทำงาน  แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกได้อย่างครบครัน

 


 

กินง่าย อยู่สบาย เลือกได้ตั้งแต่ Street food จนถึงร้านอาหารระดับหรู

 

อย่างที่บอกไปว่า “ทองหล่อ – เอกมัย” เป็นย่านแห่งไลฟ์สไตล์ ที่เหมาะกับทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน และถึงรูปแบบครอบครัว จึงเป็นธรรมดาที่จะมีอาหารการกินมากมาย ให้เลือกได้ตามความชื่นชอบแต่ละคน ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีเสน่ห์แตกต่างกันไป ตั้งแต่อาหารธรรมดาริมถนนแบบไทยๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวเนื้อระดับตำนาน “วัฒนาพานิช” ในซอย เอกมัย 10  ที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปี

 

ข้าวเหนียวมะม่วง ปากซอยทองหล่อ เห็นความเหลืองอร่ามดังสีทองของมะม่วงสุก ของโปรดของใครหลายคน ชวนให้น้ำลายไหลทุกครั้งที่เดินผ่าน

 

อาหารปิ้งย่าง ยากิโทริ ในแบบฉบับสไตล์ญี่ปุ่น Toritama Bangkok

 

Ekkamai Macchiato  ร้านกาแฟบรรยากาศดีภายในซอยเอกมัย 12

 

Xiao Chi ร้านอาหารจีน Street food อินเตอร์ แนวใหม่ ที่พร้อมเสริฟ์ในสไตล์ฟิวชั่น

 

บุฟเฟต์ปิ้งย่างพรีเมี่ยมสไตล์ญี่ปุ่น เหมาะกับกลุ่มเพื่อนอย่าง “Seiniku-ten”

 

ร้านซูชิห้ามพลาดอย่าง “Joushitsu Sushi”

 

ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นอย่าง “Mellow Restaurant & Bar”

 

อาหารไทยสุดหรูก็มี “Supanniga Eating Room”

 

หรือจะแวะชิมร้านอาหาร Street Food  ก็สามารถหาของกินอย่างอิ่มอร่อย ในราคาสบายกระเป๋าได้เช่นกัน

 

กล้วยแขกร้าน ริมซอยทองหล่อ ที่เริ่มต้นเพียงถุงละ 20 บาท

 

ก๋วยเตี๋ยวทานง่ายๆ  กินอิ่มแล้วตังค์ยังเหลือเพียบ

 

ข้าวมันไก่ร้านดัง บุนตงเกียรติ ที่เชื้อเชิญมาชวนให้ลองชิม

 


 

ไปทำงานได้ง่ายๆ เข้าสู่ใจกลาง CBD ได้ไม่กี่นาที

ด้วยทำเล “ทองหล่อ – เอกมัย” เป็นจุดที่เชื่อมต่อความสะดวกในการเดินทางไปยังแหล่งธุรกิจสำคัญของเมืองกรุง ไม่ว่าจะมุ่งหน้าไปเพชรบุรี เดินทางไปไม่ไกลก็จะเป็นย่าน New CBD แยกพระราม 9  หรือตรงมาทางสุขุมวิท  เข้าสู่พร้อมพงษ์ และ อโศกได้เพียง 1-2 สถานี  หรือจะมุ่งหน้าไปทางด่วน หรือจะออกนอกเมืองก็ง่ายนิดเดียว

 

ย่านธุรกิจใหม่ในอนาคต New CBD บนแยกพระราม 9

 

ย่านธุรกิจของ เอกมัย ปากซอยสุขุมวิท 63

 

บนเส้น ถนนเพชรบุรี จะเป็นแหล่งงานมีอาคารสำนักงานตั้งอยู่เรียงราย

 

สถานี BTS พร้อมพงษ์ จะมีห้างสรรพสินค้าระดับแม่เหล็กของกรุงเทพฯ รวมถึงเป็นแหล่งที่ตั้งของอาคารสำนักงานและบริษัทชั้นนำ

 

อโศกมนตรี แหล่งธุรกิจสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

 


ตอบรับการใช้ชีวิตทุกเชื้อชาติ บนทำเลที่มีความเป็นสากล

จะเห็นได้ว่า“ทองหล่อ – เอกมัย” ถือเป็นย่านไลฟ์สไตล์สุดฮิปชั้นนำอย่างแท้จริง ด้วยความหลากหลายและมีความเป็นสากลรองรับการใช้ชีวิตของคนทุกเชื้อชาติ ไม่ว่าจะทำงาน ท่องเที่ยว กิน ดื่ม สังสรรค์ ปาร์ตี้ นั่งชิล จิบกาแฟ ทานขนม ออกกำลัง เสพงานศิลป์ ฯลฯ ก็มีพร้อมทุกๆอย่างให้คุณใช้ชีวิตได้แบบ All Day – All Night

 

การนั่งทำงานจากแล็ปท็อป พร้อมจิบกาแฟกลิ่นหอมไปด้วย ถือเป็นเรื่องปกติของย่านนี้

 

นั่งรถมาตั้งไกลเพื่อมาตัดผมที่ทองหล่อ เหตุผลง่ายๆ คือ ชอบ

 

ในวันอาทิตย์ที่ไม่เร่งรีบ สามารถใช้เวลาว่าง จิบกาแฟ นั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ ได้อย่างสุดสบาย ในร้านคาเฟ่สวยๆ

 

วันหยุดจะเห็น คู่รัก หนุ่ม-สาว ใช้เวลาว่างเดินเล่น หาร้านอร่อย หรือทำกิจกรรมร่วมกัน

 

เห็นปุ๊บต้องหยุดเซลฟี่  Street Art บนผืนผนังตึก 4 ชั้น  แลนด์มาร์กใหม่ย่านเอกมัย ผลงานของ OCTOBER29 x NOLANOLEE 

 

ในซอยทองหล่อ จะได้พบคอมมูนิตี้มอลล์สุดฮิปได้ไม่ยาก อย่าง The Commons ซอยทองหล่อ 17 ที่ได้รวมร้านอาหารและร้านช๊อปปิ้งดีๆ ไว้ในที่เดียวกัน

 

ความเป็นสากลของ“ทองหล่อ-เอกมัย” เชื้อเชิญให้ชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ นักเดินทาง นักท่องเที่ยว รวมทั้งคนในพื้นที่ ต่างเข้ามาจอยกันได้ไม่ยาก


 

เสน่ห์ของ”ทองหล่อ-เอกมัย” ที่ไม่เคยหลับไหล

เมื่อไม่รู้ว่าจะรีบนอนไปทำไม ลองมาใช้ชีวิตแบบไนท์ไลฟ์กับบาร์สุดฮิป  Violett ในซอยทองหล่อ 10 ที่มี DJ สุดคูลเปิดเพลงได้โดนใจ

 

Backstage Bar  ค๊อกเทล บาร์ ที่นับว่าดีที่สุดแห่งนึงของกรุงเทพฯ

 

Blaq Lyte ผับที่ให้บรรยากาศสุดจัดจ้าน ด้วยแสงนีออน ทำให้รู้สึกปลดปล่อยเหมือนได้ไปอยู่ในโลกใบใหม่

 

เมื่อถูกต้องมนต์สะกดในเสน่ห์ของ “ทองหล่อ-เอกมัย” ย่านไลฟ์สไตล์สุดฮิปที่ไม่เคยหลับไหล  หลายคนอยากมาสัมผัสอย่างใกล้ชิด และหลายคนใฝ่ฝันที่จะได้อาศัยบนทำเลนี้ เพราะต่างก็รู้กันดีว่าราคาที่พักบนทำเลนี้แพงมาก  แต่นับว่ายังมีโอกาสที่ดี ยังมีคอนโดมิเนียมช่วยทำให้ฝันเป็นจริงกับ  “THE CAPITAL EKAMAI-THONGLOR” สะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ ในราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้  ภายใต้คอนเซ็ปท์ The New Definition Of Lifestyle  ด้วยดีไซน์แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของมหานคร ปารีส – ฟลอเรนซ์  พร้อมฟังก์ชั่นที่สะดวกสบายเหนือระดับ ด้วยเพดานห้องพักสูงโปร่งถึง 3 เมตร และ  3.4  เมตร รวมถึงสระว่ายน้ำส่วนตัวสำหรับห้องเพ้นท์เฮ้าส์  

 

สำหรับ “THE CAPITAL EKAMAI-THONGLOR”  มีความสูง 27 ชั้น  บนเนื้อที่ 2 ไร่ 21 ตารางวา  จำนวน 281 ยูนิต โดดเด่นด้วยห้องพักอาศัย  2 สไตล์ ได้แก่  Paris และ Florence  มีให้เลือกทั้ง 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และเพ้นท์เฮ้าส์ (Penthouse) ขนาดห้องเริ่มตั้งแต่ 30-175 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่ครบครัน อาทิ ห้องสมุด Lounge บริเวณชั้นล็อบบี้  สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 40 เมตร บริเวณชั้น 7  รวมถึง สระว่ายน้ำเด็ก จากุชชี่ และ Hanging Fitness ที่ชั้น 8  Private wine cellar ที่ชั้น 8 และ สวนขนาดใหญ่ให้ความร่มรื่น พื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร บนชั้น 7-8 และ สวนลอยฟ้า (Rooftop Garden) พื้นที่ประมาณ 450 ตารางเมตร บนชั้น 27  สามารถเปิดรับมุมมองได้กว้าง 360 องศา พร้อมด้วย Access Card ที่เข้าถึงเฉพาะชั้นห้องพักของแต่ละบุคคล รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. โดยภายในโครงการมีพื้นที่จอดรถประมาณ 70% ตั้งแต่บริเวณชั้น 1-6

 

ห้องพักในโครงการ “THE CAPITAL EKAMAI-THONGLOR”  บรรจงออกแบบได้อย่างมีเอกลักษณ์ แฝงกลิ่นอายความคลาสสิคในสไตล์ยุโรป มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ที่ตกแต่งได้อย่างหรูหรามีระดับ

 

“THE CAPITAL EKAMAI-THONGLOR” สะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์  ในราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้   กับ 6 ยูนิตพิเศษ แต่งครบ พร้อมอยู่ ชมห้องจริง วิวจริง ฟรี! ค่าใช้จ่ายวันโอน เริ่ม 4.8 ล้านบาท* วันนี้ – 30 พ.ย. 60 สอบถามโทร 02 789 9000 หรือเว็บไซต์ https://www.kpnland.com/project/The_Capital_Thonglor

 



ความคิดเห็น