"ทิวทะเลเอสเตท" เดินหน้าพัฒนา Commercial Area และ Baba Beach Club Hotel & Residences Hua Hin ให้เป็นสถานที่ Landmark ของชะอำ-หัวหิน
บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด บริษัทในเครือของ ชาญอิสสระ เดินหน้าพัฒนา Commercial Area บนพื้นที่อาณาจักรทิวทะเลเอสเตทในพื้นที่ทั้งหมด 110 ไร่ แต่ปัจจุบันได้ใช้พื้นที่ไปแล้วกว่า 50 ไร่ ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Baba Beach Club Hotel & Residences Hua Hin โรงแรมติดชายหาด จำนวน 18 ห้องนอน และ “บ้านโชค” ร้านอาหาร คาเฟ่ ที่ถูกดัดแปลงมาจากบ้านพักตากอากาศเก่าแก่สไตล์หัวหินโคโลเนียลของตระกูลโชควัฒนา ทั้งนี้ยังรวมไปถึงโครงการที่อยู่อาศัยอีก 3 โครงการ คือโครงการบ้านทิวทะเล อความารีน (Aquamarine) โครงการบ้านทิวทะเล บลูแซฟไฟร์ (Blue Sapphire) และโครงการบลู (Blu)
ทิวทะเลเอสเตท
โครงการบ้านทิวทะเล อความารีน (Aquamarine)
โครงการบ้านทิวทะเล บลูแซฟไฟร์ (Blue Sapphire)
โครงการบลู (Blu)
โดย Commercial Area ที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้ จะตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของโครงการ บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Art Park และเน้นความเป็น Tropical Dessert Garden การจัดสวนที่ให้บรรยากาศทะเลทรายและพันธุ์ไม้ในเขตร้อน ในส่วนของ Landscape ออกแบบมาเพื่อให้ครอบครัวได้มาทานอาหารและใช้เวลาพักผ่อนร่วมกัน
ภายใน Commercial Area ยังประกอบไปด้วยสนามเด็กเล่น และ จุดถ่ายภาพต่างๆ เช่น ขบวนรถไฟที่ถูกออกแบบให้เป็นคาเฟ่และร้านไอศกรีมอีกด้วย และยังมีปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ที่ออกแบบได้แปลกใหม่และทันสมัย และหากท่านต้องการบริการล้างรถหรือ EV Charger ก็สามารถมาใช้บริการภายในบริเวณปั๊มได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยัง Doggy Dog Park เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยงที่ต้องการนำสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นและผ่อนคลาย นอกเหนือจากนั้นแล้วหากท่านต้องการบริการล้างรถหรือ EV Charger ก็สามารถมาใช้บริการภายในบริเวณปั๊มได้เช่นกัน และมากไปกว่านั้นบริเวณโดยรอบของพื้นที่ Commercial Area ยังเตรียมพัฒนา my little farm ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับผักสวนครัวต่างๆ และในช่วงวันหยุดยาวจะมีการจัดกิจกรรม Food Truck หรือ Flea Market ขึ้นเพื่อสร้างสีสันและความน่าสนใจให้กับ Commercial Area แห่งนี้ให้เป็น Landmark of the South หรือ Landmark of Cha Am- Hua Hin นั่นเอง
สำหรับปั้มน้ำมันดังกล่าว ทางโครงการได้ร่วมมือกับ Shell ในการพัฒนารูปแบบของปั้มด้วยการออกแบบให้มีความทันสมัย แตกต่างจากปั้มทั่วๆ ไป โดยมีระบบให้บริการหัวจ่ายน้ำมันจำนวน 2 แท่น 4 ตู้จ่าย นอกจากนี้ยังได้ประสานคัดสรรร้านค้าต่างๆ มาร่วมเปิดร้านให้บริการ อาทิ Lawson 108 ร้านสะดวกซื้อชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีร้าน AF-FO-GA-TO ร้านไอศครีม-เครื่องดื่ม จากโรงแรม Baba Beach Club มาเปิดบริการให้ทุกท่านได้ลิ้มรสความอร่อยกันทุกวัน
นอกจากในส่วนของ Commercial Area แล้วในปัจจุบันอาณาจักรทิวทะเลเอสเตท ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาบาบาบีช เรสซิเดนซ์ พูลวิลล่า ชะอำ-หัวหิน เฟสใหม่ จำนวน 7 ยูนิต มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้นที่ 33.9 ล้านบาท บนพื้นที่รวม 3 ไร่ ออกแบบในสไตล์นีโอโคโลเนียล โดย บริษัท ฮาบิต้า จำกัด โดยเป็นพลูวิลล่า 3 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ ตกแต่งแบบ Fully Furnished ทั้งหลัง พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว อีกทั้งยังสามารถเข้ามาใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมบาบาบีชคลับหัวหิน อาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สปา สวนในสไตล์ทรอปิคอล ร้านอาหาร และพื้นที่สันทนาการทั้ง Indoor และ outdoor พร้อมชิลล์บาร์บริเวณสระว่ายน้ำริมหาดได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันได้เริ่มก่อสร้างแล้วและคาดว่าห้องตัวอย่างจะแล้วเสร็จพร้อมให้ลูกค้าได้เข้าเยี่ยมได้ประมาณ ไตรมาส 1 ปี 2563
ขณะเดียวกันยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาส่วนต่อขยายโรงแรมบาบา บีช คลับ หัวหิน เมนโฮเทล อาคารสูง 12 ชั้น จำนวน 47 ห้อง มูลค่าโครงการ 1,500 พันล้านบาท ภายใต้แนวคิด Neo Colonial พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ Lobby , Lounge , All-Day Dining , Ballroom , Meeting Room , Kids Club , Main Pool , Spa , Gym โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมรองรับการให้บริการในปลายปี 2563
ทั้งหมดนี้คือความตั้งใจของโครงการที่ต้องการจะสร้างพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นสถานที่ Landmark ของชะอำ-หัวหิน โดยเมื่อทุกๆ ท่านที่เดินทางมาเที่ยวหัวหิน เพียงก้าวเข้ามาภายในอาณาจักรทิวทะเลเอสเตทแห่งนี้ท่านก็จะได้รับความสุข ความสะดวกสบาย คอยให้บริการอย่างครบรูปแบบ ภายใต้ความเป็นธรรมชาติ ของทุกพื้นๆ ที่ที่ท่านได้ก้าวเข้ามาสู่อาณาจักรทิวทะเลเอสเตทแห่งนี้