ถอดรหัสปรากฏการณ์ความสำเร็จของ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ "MY LIFE. MY ORIGIN"

ถ้าพูดถึงธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจที่หลายคนอยากเข้าร่วมในธุรกิจนี้ เพราะมีมูลค่าตลาดมหาศาลปีละหลายแสนล้านบาท ทำให้มีดีเวลอปเปอร์และบริษัทหน้าใหม่ๆเข้ามาแข่งขันในตลาดปีละหลายราย ซึ่งการที่บริษัทเล็กๆจะทะยานขึ้นสู่การเป็นผู้นำตลาดได้นั้นเป็นไปได้ยาก เหมือนการเข็นครกขึ้นภูเขา เพราะเป็นธุรกิจที่มีความแปรผันตามสภาพเศรษฐกิจอีกทั้งยังมีเจ้าตลาดที่มีเงินทุนหนาและมีแลนด์แบงค์สะสมคอยคุมเกมอยู่ ยากที่รายใหม่จะเข้าเจาะฐานลูกค้าหรือมาร์เก็ตแชร์  แต่ไม่น่าเชื่อมาวันนี้มีบริษัทหนึ่ง ที่ใช้เวลาเพียง 9 ปี ทะยานสู่บริษัทอสังหาชั้นนำได้อย่างรุนแรงทรงพลัง และล่าสุดจากการที่ได้เข้าไปเข้าถือหุ้นของบริษัทพราวด์ เรสซิเดนซ์ ยิ่งทำให้บริษัทนี้ครบเครื่องเหมือนเสือติดปีกเลยทีเดียว

.

วันนี้เราจะมาไขความสำเร็จกับบริษัทที่ว่า นั่นก็คือ “บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)” ที่ได้ประกาศความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่องถึง 8 ปี จากการเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2009 ตามมาด้วยโครงการทั้งสิ้นกว่า 35 โครงการ กับยอดขายปัจจุบันที่พุ่งทะลุกว่าหมื่นล้านบาท

 

จุดกำเนิด ORIGIN PROPERTY

ORIGIN PROPERTY เริ่มจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ปี 2552  โดยครอบครัวจรูญเอก (นายพีระพงศ์ จรูญเอก และนางอารดา จรูญเอก) ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 10 ล้านบาท โดยทั้ง 2 บุคคล มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาฯมากกว่า 10 ปี โดยเริ่มแรกจากการดำเนินธุรกิจอสังหาฯประเภทเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์  ต่อมาในปี 2552 ครอบครัวจรูญเอกเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จึงได้ก่อตั้ง บริษัทฯ ขึ้น โดยเริ่มพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการแรก คือ  Sense of London สุขุมวิท 109  ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น จำนวน 162 ยูนิต มูลค่าโครงการ 198 ล้านบาท ซึ่งได้รับการการตอบรับเป็นอย่างดี และสามารถปิดการขายโครงการได้ จากความสำเร็จดังกล่าว ORIGIN จึงมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถจดจำชื่อของ ORIGIN ได้เป็นอย่างดี ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาฯประเภทคอนโดมิเนียมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

ความหมายของ ORIGIN

ORIGIN ได้พัฒนาตัวสินค้าให้สื่อถึงความหมาย ที่สะท้อนถึง ถิ่นกำเนิดหรือรากฐานที่แสดงความเป็นตัวเอง ไม่ต้องตามใคร ให้สามารถใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเองได้อย่างที่ต้องการ  โดยมีสิทธิ์ขาดในการครอบครองคอนโดมิเนียมแบบฟรีโฮลด์ในราคาที่คนทั่วไปสามารถจับต้องได้  พร้อมทั้งมีฟังก์ชันและไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้วยรากฐานดั้งเดิมด้วย ซึ่งไม่สามารถหาได้จากคอนโดมิเนียมอื่นๆ เหมือนกับจุดยืนของแคมเปญ  “MY LIFE. MY ORIGIN”

“หมดยุคคนแห่อยู่ในเมือง ถึงยุคใช้ชีวิตแบบเป็นตัวเองในถิ่นทำเลที่คุ้นเคย”

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

 

 

จับตลาด BLUE OCEAN บนทำเลที่คุ้นเคย

ORIGIN มุ่งมั่นในกลยุทธ์ BLUE OCEAN ไปในทำเลที่คู่แข่งน้อยแต่มุ่งพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์กับคนในพื้นที่ 

 “เราค้นพบว่า สาเหตุที่ยอดขายตลอด 8 ปีที่ผ่านมาของเราเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเราสามารถเข้าถึงตลาดผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมในแต่ละทำเล ยอดขายหลายๆ โครงการของเราเป็นผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมในทำเลนั้นกว่า 70% สะท้อนว่าความสุขของลูกค้าของเรา คือการได้มีที่อยู่อาศัยในทำเลที่เขาคุ้นเคย ติดรถไฟฟ้า และนี่จึงเป็นที่มาของแบรนดิ้งแคมเปญ “MY LIFE. MY ORIGIN” เราอยากให้ทุกคนใช้ชีวิตในฝันแบบที่เป็นคุณ” นายพีระพงศ์ จรูญเอก กล่าวเพื่อสะท้อนแนวความคิดนี้

 

 

ORIGIN : พัฒนาโครงการโดยเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริง

ORIGIN PROPERTY ได้ทำการศึกษาอย่างต่อเนื่องแล้วจึงพบว่า  กว่า 70 % ของยอดขายนั้นมาจากคนดั้งเดิมในพื้นที่นั้นๆ สืบเนื่องจากปัจจุบันที่โครงข่ายของระบบรถไฟฟ้านั้นได้เข้าถึงทุกพื้นที่ การอาศัยใกล้ที่ทำงานจึงไม่ได้ตอบโจทย์อีกต่อไป เพราะด้วยรากฐานของคนไทยมีการเป็นอยู่ที่เป็นครอบครัวขยายเหมือนกับที่ญี่ปุ่น การเติบโตในย่านเดิมนั้นมีเรื่องราวที่น่าจดจำซ่อนอยู่ตลอดเวลา การไปมาหาสู่กับญาติก็เป็นเรื่องง่าย

จึงทำให้ ORIGIN PROPERTY ดึงจุดเด่นนี้ทำให้เกิดการสร้างคอนโดมิเนียมในย่านที่หลากหลายใกล้กับรถไฟฟ้า จับกลุ่มตลาดพรีเมี่ยมแมสได้อย่างเข้าใจและลงตัว สิ่งที่ ORIGIN PROPERTY เป็นคือการเห็นในสิ่งที่คนอื่นยังไม่เห็น

 

ภาพแสดงยอดขายที่พุ่งทะยานหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์

 

 

ORIGIN : สัมผัสได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียด ด้วยการให้ที่มากกว่า

นอกจากการใส่ใจในเรื่องของรายละเอียดของคอนโด ความเป็นอยู่แบบ “ซูเปอร์ฟาซิลิตี้”  ทำเลที่เข้าถึงความต้องการของตลาด ด้วยคอนเซ็ปท์ที่แปลกใหม่แล้ว ORIGIN PROPERTY  ดูแลลูกค้าด้วยการบริการที่เหนือกว่าด้วยการใส่ใจถึงรายละเอียด จัดกิจกรรมต่างๆให้กับกลุ่มลูกค้า มีช่องทางที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้หลากหลาย ทั้งทางเว็บไซต์ www.origin.co.th และเฟสบุ๊ค www.facebook.com/OriginPropertyGroup และเมื่อเร็วๆนี้ ยังมีการจัดคอนเสิร์ต ORIGIN FinFest Concert เพื่อตอบแทนลูกค้าและสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้า เป็นการยืนยันถึงความเข้าใจและความสำเร็จจากยอดขายที่พุ่งขึ้นตลอดเวลา

          

ORIGIN : มุ่งสู่ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร

นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการใหม่ ORIGIN PROPERTY ยังมองหาการพัฒนาให้เป็นกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายครบวงจรอสังหาริมทรัพย์ ที่ประกอบด้วย

1. ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential for sale Business) ที่ปัจจุบันได้โครงการมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท

2. ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก

3. ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์

พร้อมทั้งยังมีความเชี่ยวชาญและพร้อมที่จะพัฒนาธุรกิจต่างๆอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์ ORIGIN มีแนวโน้มที่จะโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

และล่าสุด ทาง ORIGIN  ได้เข้าซื้อหุ้น บริษัท พราวเรสซิเดนซ์ ขยายศักยภาพด้านการพัฒนาโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ ทำให้ตอนนี้เรียกได้ว่า ORIGIN PROPERTY เป็นผู้นำตลาดในทุก Segment ได้อย่างครบวงจร

 

 

 

ORIGIN : ความสำเร็จที่ท่วมท้นผ่านแบรนด์ ORIGIN PROPERTY

ORIGIN ได้พัฒนาสินค้าให้รองรับทุกกลุ่มฐานลูกค้าที่กระจายไปในแต่ละSegment ประกอบไปด้วย 3 Brand หลักๆ ได้แก่

.

1. Kensington (เคนซิงตัน)  

แบรนด์เริ่มต้น ที่มาด้วยมาดเท่ ในราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาทนิดๆ จับกลุ่มนักศึกษาและคนทั่วไปที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง  ด้วยภาพลักษณ์คอนโดสไตล์อังกฤษ เช่น  Kensington Bearing , Kensington Phahol – Kaset, Kensington Laemchabang – Sriracha, Kensington Kaset – Campus, KnightsBridge Duplex Tiwanon, Kensington  Phaholyothin 63  ที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายที่ปิดไปแล้วหลายโครงการ อาทิเช่น

Kensington Bearing คอนโดมิเนียมบนถนนสุขุมวิท 107   มีจุดเด่น สถาปัตยกรรมที่หรูหราสไตล์อังกฤษในราคาที่จัดต้องได้

 

Kensington Phahol – Kaset คอนโดมิเนียมสไตล์อังกฤษติดรถไฟฟ้า ใกล้ ม.เกษตร   มีจุดเด่น สถาปัตยกรรมอังกฤษที่ผสานเข้าลงตัวกับ Modern Loft

 

และ โครงการใหม่ที่กำลังเปิดตัว Kensington Sukhumvit-Theparak คอนโดมิเนียมสไตล์เท่ห์ Industrial British Loft ติดสถานีรถไฟฟ้า ทิพวัล   มีจุดเด่น คอนโดที่สูงที่สุดบนต้นถนนเทพารักษ์  กับส่วนกลางที่เพียบพร้อมเหนือความคาดหมาย

 

 

2. Notting Hill  (นอตติ้ง ฮิลล์)

แบรนด์คอนโดมิเนียมระดับกลาง ที่ทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่ ด้วยการดึงรูปแบบของความ Vintage เข้ามาใช้เพื่อสร้างจุดเด่นให้กับคอนโดมิเนียม พร้อมทั้งตอบโจทย์ด้วยฟังก์ชันที่คุ้มค่าด้วยการใช้งาน เช่น โครงการ Notting Hill Bearing, Notting Hill Tiwanon Kaerai, Notting Hill Phahol Kaset, Notting Hill Hydepark – สะพานใหม่, Notting Hill Sukhumvit – Praksa, Notting Hill Charoenkrung, Notting Hill Jatujak – Interchange, Notting Hill Laemchabang – Sriracha แต่ละโครงการเปิดตัวด้วยยอดพรีเซลล์อย่างท่วมท้น

Notting Hill – Sukhumvit 105    คอนโดมิเนียมโลวไร์ส สไตล์ British Loft   จุดเด่น การออกแบบที่เรียบหรูสไตล์อังกฤษ พร้อม 105 clubhouse คลับเฮ้าส์ส่วนตัว 3 ชั้นแห่งแรกและแห่งเดียว บนถนนลาซาล  ที่มียอดจองของเฟสแรกที่ขายไปแล้วกว่า 70%

 

Notting Hill Laemchabang – Sriracha  โครงการ Mix used model ทั้งคอนโดไฮไรส์ แบรนด์ Notting Hill กับ คอนโด Low Rise แบรนด์  Kensington ที่มาพร้อมด้วยคอมมิวนิตี้มอลล์และโรงแรม   จุดเด่น  เป็นโครงการ Mixed Use ที่มีทุกอย่างครบครัน ตอบทุกโจทย์ที่ผู้อยู่อาศัยต้องการ

 

 

3. Knightsbridge (ไนท์บริดจ์)

คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เหนือระดับได้อย่างลงตัว ด้วยคุณภาพของรายละเอียดระดับพรีเมี่ยม อย่าง โครงการ KnightsBridge Sky River Ocean, The Knight, KnightsBridge the Ocean Sriracha, KnightsBridge Skycity ด้วยความสำเร็จที่ปิดยอดจองภายใน 1 วันในโครงการ KnightsBridge Prime Sathorn

 

KnightsBridge Prime Sathorn คอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่ ใจกลางย่านสาทร  มีจุดเด่น ห้องแบบ Duplex ที่มาพร้อมพื้นที่จอดรถ 70% พร้อมวิวย่านพาโนรามา ย่านสาทร

 

KnightsBridge Sky River Ocean คอนโดมิเนียมที่ให้ใช้ชีวิตผ่อนคลายด้วยวิวโค้งแม่น้ำพร้อมกับสวนลอยฟ้า  มีจุดเด่น  วัสดุพรีเมี่ยมที่มาพร้อมกับวิวแม่น้ำและทะเล

 

KnightsBridge The Ocean Sriracha คอนโดมิเนียมที่มีวิวธรรมชาติที่งดงามที่ ศรีราชา  มีจุดเด่น เข้าถึงรากฐานของคนพื้นที่ด้วยการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับชาวญี่ปุ่น เนื่องจากในย่านนั้นมีชาวญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมาก

 

และโครงการใหม่ที่กำลังเปิดตัว Knightsbridge Phaholyothin-Interchange คอนโดมิเนียมดีไซน์เท่ห์ บนทำเลเชื่อมจุดตัดรถไฟฟ้า Interchange แยกหลักสี่ มีจุดเด่น Facilities ขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว่า 3,700 ตร.ม. และมีฟังก์ชั่นของส่วนกลางถึง 30 ประเภท รองรับทุกรูปแบบการใช้ชีวิต

 


 

ORIGIN ย้ำจุดยืนความสำเร็จของแบรนด์ด้วยซุปเปอร์สตาร์ “ณเดชน์ คูกิมิยะ”

ORIGIN PROPERTY ก้าวต่ออีกขั้นด้วย Campaign ใหม่  “MY LIFE. MY ORIGIN” เสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ ด้วยพรีเซ็นเตอร์อย่าง ณเดช คุกิมิยะ ที่สะท้อน หลากหลายภาพลักษณ์ไม่ว่าจะเป็น ลุยๆ ทันสมัย และเรียบหรู ได้อย่างลงตัวในทุกมุมมอง แต่ยังสามารถคงไว้ด้วยความเป็นตัวเอง เหมือนกับแบรนด์ ORIGIN PROPERTY

 

 

ณเดชน์ คือ คนธรรมดาที่มีสไตล์ เป็นตัวแทนของคนทั่วไปที่มีทั้งมุมเนี้ยบดูดี มุมเท่ๆ และมุมสบายๆ ไม่ต้องแต่งตัวหรูหรา สะท้อนภาพได้ตั้งแต่คอนโดมิเนียมแบรนด์เท่ห์แบบเรียบหรูอย่างไนท์บริดจ์ แบรนด์ที่มีความทันสมัยหรือโมเดิร์นอย่างน๊อตติ้ง ฮิลล์ และแบรนด์เท่ห์แบบลุยๆ อย่างเคนซิงตัน นอกจากนี้ยังเป็นคนตั้งใจทำงานเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และอ่อนน้อมถ่อมตนซึ่งตรงกันกับวิธีการทำงานแบบออริจิ้น”

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

 


 

เมื่อได้ ณเดชน์  มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เป็นการเสริมความเป็นตัวของตัวเอง ด้วยสโลแกน “ชีวิตในฝัน…แบบที่เป็นคุณ”  ทำให้จุดยืนของ ORIGIN PROPERTY  สามารถเข้าถึงคนทั่วไปได้ในทุกกลุ่ม โดยในปี 2017   ORIGIN PROPERTY ได้เปิดตัวโครงการใหม่ ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 8,400 ล้านบาท

 

1. Knightsbridge Phaholyothin-Interchange (ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน-อินเตอร์เชนจ์)   มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท 

 

 

2. Notting Hill Skyscraper@Central Rattanathibet  (นอตติ้ง ฮิลล์ สกายสแครปเปอร์ @ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์)  มูลค่าโครงการ  2,500 ล้านบาท

 

3. Notting Hill Sukhumvit 105 (นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105) เฟส 2  มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท

 

4. Kensington Sukhumvit-Theparak (เคนซิงตัน สุขุมวิท- เทพารักษ์) มูลค่าโครงการ  2,500 ล้านบาท

 

 

จากปรากฏการณ์ความสำเร็จของ ORIGIN จึงนับได้ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เพราะด้วยกลยุทธิ์และความใส่ใจในรายละเอียดทำให้ ORIGIN PROPERTY ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน

 

ภาพการปิดยอดจองภายใน 1 วันของโครงการ KnightsBridge Prime Sathorn

 

จึงนับได้ว่า ORIGIN PROPERTY สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จ ด้วยความเข้าใจ และการตอบโจทย์ลูกค้าที่มาจากคนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง พร้อมที่จะก้าวเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง โดยคงไว้ด้วยจุดเด่นในการออกแบบโครงการที่มีเอกลักษณ์ และการให้ที่มากกว่าเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัยที่โดดเด่น ในมุมมองใหม่ไม่ตามใครได้อย่างแท้จริงตามวิถี  “MY LIFE. MY ORIGIN”

 

ความคิดเห็น