ชาญอิสสระ พร้อมอวดโฉมบ้านอิสสระ บางนา สร้างความต่างการอยู่อาศัย มุ่งตอบโจทย์ทุกเจนเนอเรชั่น

 

ชาญอิสสระ เปิดตัวบ้านหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ “บ้านอิสสระ บางนา” โชว์ความต่างด้านดีไซน์ ฟังก์ชัน โดดเด่นเหนือระดับ ภายใต้คอนเซปต์ “ความภูมิใจที่ส่งต่อได้ The New Legacy Of Freedom” มั่นใจตลาดบ้านหรูโตต่อเนื่อง มองศักยภาพ ทำเลย่านบางนาฮอต โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม สาธารณูปโภคต่างๆ หนุนตลาดไฮเอนด์รุ่ง

 

 

 

นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมการพัฒนาตลาดบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ว่ายังมีการแข่งขันสูง ขณะที่การหาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมถือเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับผู้พัฒนาโครงการที่จะหาทำเลที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในย่านซีบีดี (Central Business District) หรือทำเลในย่านที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันต่างๆ

 

ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม รวมไปถึงสาธารณูปโภค โดยในส่วนของย่านบางนา ถือเป็นอีกย่านหนึ่งที่น่าสนใจ และท้าทาย สำหรับการพัฒนาตลาดบ้านเดี่ยว ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ล่าสุดบริษัท เตรียมเปิดตัวบ้านตัวอย่าง โครงการบ้านอิสสระ บางนา ซึ่งถือเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ หลังจากแถลงข่าวเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปี 2559 ที่ผ่านมา

 

สำหรับโครงการบ้านอิสสระ บางนา เป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพ ที่พัฒนาออกมาด้วยการสร้างความแตกต่างด้านที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า สอดแทรกการออกแบบบ้านที่ต้องอยู่สบาย ฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านครบครัน มีการนำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาใช้ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความสะดวกสบาย คุ้มค่า และปลอดภัยต่อการพักอาศัยให้มากที่สุด โดยมีบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) เป็นผู้รังสรรค์งานออกแบบบ้าน

 

 

 

“สิ่งสำคัญในการพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ นอกจากการมีโลเคชั่นที่ดีแล้ว เราต้องสร้างความแตกต่าง ทั้งการดีไซน์แบบบ้านให้มีความทันสมัย อยู่สบาย ฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านสะดวกสบาย รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาแทรกเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยให้กับทุกช่วงวัย อีกทั้งโครงการบ้านอิสสระ บางนา ยังนับว่าเป็นโครงการที่อยู่บนทำเลตัวเมืองชั้นนอกที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆ ได้แก่ กรุงเทพฝั่งตะวันออก อันเนื่องมาจากทำเลดังกล่าวได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไว้เรียบร้อยแล้ว

 

 

ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางคมนาคม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาทิ ศูนย์การค้าระดับ Regional Shopping Center อย่างเมกาบางนา หรือโครงการขนาดใหญ่แห่งใหม่ อย่างแบงค็อก มอลล์ รวมไปถึงการขยายตัวของอาคารสำนักงานอีกด้วย จึงเป็นโครงการที่เราพัฒนาออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของชาญอิสสระ ที่จะส่งต่อให้กับลูกค้า” นายสงกรานต์ กล่าว

 

ด้านนายเมธินทร์ จันทรอุไร กรรมการบริหาร บริษัทสถาปนิก 49 จำกัด (A49) ผู้ออกแบบโครงการบ้านอิสสระ บางนา กล่าวว่าจุดเด่นของการออกแบบบ้านอิสสระ บางนา คือการต้องการเน้นพื้นที่ใช้สอยที่มากเพียงพอ พร้อมทั้งให้ฟังก์ชั่นการใช้สอยที่ครบครัน ภายใต้คอนเซปต์ สวนล้อมบ้าน ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความเขียวขจีของต้นไม้ แสงธรรมชาติ ด้วยการดีไซน์โครงการที่เน้นโล่ง โปร่ง สบาย ได้วิวธรรมชาติทุกมุมมอง อีกทั้งยังนำแนวคิด “พลังงาน (Energy)” และ “หลักการของธรรมชาติ (Principles of Nature)” มาใช้เพื่อให้เกิดสภาวะน่าสบาย (Comfort Zone)

 

 

จึงได้นำแนวคิดหลักการของธรรมชาติที่มีผลต่อในเขตร้อนชื้นอย่างในประเทศไทย ได้แก่ การป้องกันแดด การระบายอากาศ การป้องกันและการระบายน้ำฝน รวมทั้งการอาศัยพลังงานต่างๆ จากสิ่งแวดล้อมภายนอกมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับที่อยู่อาศัย ทั้งในส่วนของภาพลักษณ์อาคาร และพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร โดยมีการออกแบบพื้นหน้ากว้างด้านหน้าโครงการ ให้สามารถรองรับการจอดรถเรียงกันได้ 5 คัน รวมถึงการออกแบบพื้นที่หลังบ้าน ให้เป็นพื้นที่ใช้สอยที่สวยงามเสมือนเป็นหน้าบ้านอีกด้านหนึ่งของโครงการ

 

 

 

นอกจากนี้มีการใช้กระจกสูงจากระดับพื้นถึงฝ้า เพื่อให้ภายในบ้านสามารถรับแสงจากธรรมชาติมากขึ้น และยังเป็นการช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ ภายในบ้านยังออกแบบด้วยการยกเพดานให้สูง เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกโปร่งโล่งแล้ว ยังสามารถช่วยระบายความร้อนที่เกิดขึ้นในอาคารได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเรายังมีการออกแบบชายคาที่ยื่นยาว 1.20 เมตร และองค์ประกอบตกแต่งที่มีลักษณะเหมือน “ท่อนไม้ซุง” สามารถช่วยลดพลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นในอาคารได้ถึง 25% เมื่อเทียบกับบ้านโครงการอื่นที่มีปริมาณกระจกเท่ากัน

 

ซึ่งทำให้พื้นที่ภายในบ้านได้รับแสงธรรมชาติ แต่ไม่รู้สึกร้อน พร้อมกันนี้ยังออกแบบให้การเชื่อมต่อพื้นที่ใช้สอยภายในและภายนอกบ้าน (บริเวณห้องนั่งเล่น สวน และสระว่ายน้ำ) ทำให้เกิดเป็นพื้นที่  ใช้สอยร่วมของบ้านที่เกิดเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกิจกรรมของคนในครอบครัว ทั้งยังเป็นการระบายอากาศให้กับตัวบ้านและช่วยประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้ นอกจากนี้ทุกห้องยังถูกออกแบบให้คำนึงถึงการถ่ายเทอากาศที่ดี โดยมีช่องหน้าต่าง 2 ด้าน เพื่อให้ลมพัดผ่านได้ทั่วห้อง

 

 

“นอกจากการออกแบบที่คำนึงถึงหลักการธรรมชาติ และการประหยัดพลังงานแล้วเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ความปลอดภัยในการอยู่ การออกแบบยังให้ความสำคัญกับ Universal Design เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุหรือผู้ใช้วีลแชร์ โดยมีการทำทางลาดเอียงสำหรับเข้าบ้าน รวมถึงขนาดของลิฟท์ที่เหมาะด้วย พร้อมมีการออกแบบคลับเฮาส์ที่โอ่โถง สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ฟิตเนสที่ทันสมัย รวมถึงโซน Amphitheater ที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ของแต่ละครอบครัว และลู่วิ่งรอบหมู่บ้าน สวนที่ร่มรื่นช่วยให้เวลาแห่งการพักผ่อนสมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัว” นายเมธินทร์ กล่าว

 

ขณะที่นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า หากจะกล่าวถึงทำเลที่เป็นย่านที่พักอาศัยที่นิยมในอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก สืบเนื่องมาจากทำเลดังกล่าวได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางคมนาคมที่สามารถวิ่งเข้ากรุงเทพฯ ชั้นในได้อย่างรวดเร็ว หรือในทางกลับกันยังเป็นเกทเวย์วิ่งออกสู่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือย่านอุตสาหกรรมได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาทิ เมกาซิตี้ บางนา หรือโครงการในอนาคตอย่างแบงค็อก มอลล์ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรมขนาดใหญ่ รวมไปถึงการขยายตัวของออฟฟิศเกรดเอ อาทิ ภิรัชทาวเวอร์ แอท ไบเทค และวิสซ์ดอม วัน โอ วัน อีกด้วย

 

 

 

“จากการที่ซีบีอาร์อี เข้ามาทำการตลาด และการขายบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในช่วงที่ผ่านมา เราจะพบได้ว่าสินค้าในตลาดยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านระดับนี้ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นแนวความคิด การออกแบบบ้าน รูปแบบ ฟังก์ชั่นดีไซน์ ตลอดจนการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าบ้านทั่วไปจะเน้นเรื่องดีไซน์ภายนอกให้น่าดึงดูด แต่ไม่ได้คำนึงถึงฟังก์ชั่น ประโยชน์ใช้สอยภายในตัวบ้าน หรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เท่าที่ควร ซึ่งการออกแบบบ้านที่ดีนั้นควรเริ่มตั้งแต่แนวความคิด สำหรับโครงการบ้านอิสสระ บางนานั้น มีจุดเด่นที่แตกต่างหลายด้าน เริ่มตั้งแต่มาสเตอร์แปลน (Master Plan) โดยบ้านทุกหลังตั้งอยู่บนถนนหลักของโครงการ ไม่มีการแบ่งทำเป็นถนนซอยเล็กๆ อีกทั้งยังคำนึงถึงทิศทางลม จึงทำให้บ้านส่วนใหญ่หันหน้าทิศเหนือ-ใต้” นางสาวอลิวัสสา กล่าว

 

 

 

นอกจากนี้ส่วนของตัวบ้านถูกออกแบบมาเพื่อให้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด คำนึงถึงแสงธรรมชาติ ทิศทางลม อีกทั้งออกแบบเพื่อการใช้งานของคนทุกคน (Universal Design) เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อจำกัดทางด้านร่างกาย โดยมีการทำทางลาดเอียง รวมถึงจัดเตรียมลิฟท์โดยสารไว้ สำหรับพื้นที่ใช้สอยด้านในนั้น ด้วยตัวบ้านเป็นบ้านหน้ากว้าง จึงสามารถแยกพื้นที่ใช้สอยแบ่งซ้าย-ขวาได้อย่างลงตัว คุ้มค่า จุดเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่งของโครงการคือ การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์เกรดพรีเมี่ยม อาทิครัวบูลล์ธอป (Bulthaup), สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ แบรนด์ Toto, Kasch, Grohe อีกทั้งยังคำนึงถึงนวัตกรรมสำหรับบ้านยุคใหม่ อาทิ โซลาร์เซลล์ (Solar Cell), ระบบปรับอากาศแบบวีอาร์วี (VRV) ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน เป็นต้น

 

สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับนี้ คืองานบริการหลังการขาย โดยทางโครงการมีบริการ Lifestyle Concierge Service รองรับ ไม่ว่าจะเป็นบริการดูแลบ้าน, บริการประสานงานจัดกิจกรรม, บริการประสานงานด้านสุขภาพ และบริการผู้ช่วยส่วนตัว ซึ่งจากจุดเด่นที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนี้ จึงถือได้ว่าบ้านอิสสระ บางนาได้เซทสแตนดาร์ดใหม่สำหรับบ้านระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ และตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างแท้จริง

 

 

 

บ้านตัวอย่างของบ้านอิสสระ บางนาจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มิถุนายน ศกนี้ พร้อมสิทธิพิเศษ และกิจกรรมมากมายสำหรับลูกค้าที่จองภายในงานเท่านั้น

 

นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการบ้านอิสสระ บางนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ ลักชัวรี่ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ออกแบบโดยถ่ายทอดแนวคิดผ่านความเป็น Modern Tropical ทำให้เกิดความรู้สึกอยู่สบายน่าพักอาศัย มีความเรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ ประมาณ 24 ไร่ บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.8 จำนวนทั้งสิ้นเพียง 44 หลัง บนพื้นที่ดินขนาด 100-238 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 380-697 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 38-94 ล้านบาท

 

 

 

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รวมถึงการให้บริการ Lifestyle Concierge Service บริการที่จะช่วยสร้างไลฟ์สไตล์ความเป็นส่วนตัว แบบเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่ลูกบ้านภายในโครงการ โดยมีงานบริการด้านต่างๆ ไว้คอยดูแลและอำนวยความสะดวก อาทิ บริการด้านโฮมแคร์ ที่จะช่วยดูแลและบำรุงรักษาตั้งแต่เรื่องภายในบ้านและภายนอกบ้านอย่างครบครัน, บริการด้านสุขภาพที่ช่วยให้ลูกบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น, บริการด้านการจัดเลี้ยง จัดกิจกรรมที่ครบวงจร และบริการผู้ช่วยส่วนตัวที่จะคอยดูแลให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นในทุกๆ เรื่องเมื่อเข้ามาอยู่ภายในโครงการ “บ้านอิสสระ บางนา”

 

นอกจากนี้ภายในโครงการยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมการอยู่อาศัยด้วยการนำระบบ Home Automation มาใช้ซึ่งคือนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เอาอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านมาทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติ โดยอาศัยการควบคุมผ่านอินเตอร์เน็ต (Internet of Things : IoT) โดยจะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสะดวกสบาย ปลอดภัย และยังช่วยประหยัดพลังงานได้ โดยการ Control ผ่าน Mobile Application บน Smart Phone หรือ Tablet

 

 

“นวัตกรรมนี้สามารถช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถตรวจสอบความปลอดภัยว่ามีการ เปิด/ปิด ประตู หรือ ไฟ เรียบร้อยแล้วหรือไม่ก่อนออกจากบ้าน, การแจ้งเตือนผ่านมือถือเมื่อมีผู้บุกรุก หรือมีสัญญาณตรวจจับควันไฟ เมื่อตัว Smoke Detector ทำงาน ซึ่งจะช่วยทำให้เจ้าของบ้านทราบเหตุและระงับได้ทันท่วงที นอกจากนี้การควบคุมผ่าน Mobile Application ยังสามารถสั่งให้ไฟแสงสว่าง และแอร์ทำงานตามล่วงหน้า หรือทำตามปรับ Scenario ตามความต้องการ เพื่อตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน

 

 

 

สำหรับบ้านอิสสระ บางนา ถือเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยให้กับทุกไลฟ์สไตล์ เริ่มตั้งแต่เรื่องการออกแบบ ดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้สอยต่างๆ ภายในบ้าน ที่เป็นส่วนช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัย โดยมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ ABELIA, BELLIS, CALLA และ DAVIDIA ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 380-697 ตารางเมตร ขนาดบ้าน 2-3 ชั้น เริ่มตั้งแต่ 4-6 ห้องนอน 4-5 ที่จอดรถ ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ครัว Panty ครัวไทย ห้องคนรับใช้ พร้อมลิฟท์ภายในบ้าน” นายดิฐวัฒน์ กล่าว

 

ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำโครงการบ้านอิสสระ บางนา ซึ่งถือเป็นความภูมิที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ล่าสุดเตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดแรก “ความภูมิใจที่ส่งต่อได้” เพื่อเป็นการสื่อถึงความภูมิใจ ในทุกๆ รายละเอียดให้กับคนในครอบครัว ได้สัมผัสถึงการใช้ชีวิตที่มีอิสระ มีความปลอดภัย โดยใช้ใจสัมผัสถึงการรับรู้ โดยจะเริ่มออนแอร์ในวันที่ 11 มิถุนายน นี้ ทางอัมรินทร์ทีวีช่อง 34, ช่อง 3HD 33, Nation TV ช่อง 22, ช่อง Money Channel, PPTV ช่อง 36 และ Thairath TV ช่อง 32 รวมถึงช่องทางออนไลน์ต่างๆของทาง Charn Issara อีกด้วย

 

รายละเอียดแบบบ้านคร่าวๆ ทั้ง 4 แบบ ได้แก่

ABELIA จำนวน 18 หลัง บนที่ดิน 132-238 ตารางวา ราคา 70-94 ล้านบาท สูง 3 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 697 ตารางเมตร ประกอบด้วย 6 ห้องนอน (ห้อง Master 2 ห้องนอน) 5 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ครัว Pantry ครัวไทย ห้องคนรับใช้ 2 ห้อง พร้อมลิฟท์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

BELLIS จำนวน 12 หลัง บนที่ดิน 102-140 ตารางวา ราคา 53-61 ล้านบาท สูง 3 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย  544 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน (ห้อง Master 2 ห้องนอน) 4 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ครัว Pantry ครัวไทย ห้องคนรับใช้ 2 ห้อง พร้อมลิฟท์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

CALLA จำนวน 7 หลัง บนที่ดิน 100-112 ตารางวา ราคา 48-53 ล้านบาท สูง 2 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 459 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน (ห้อง Master 1 ห้องนอน) 4 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ครัว Pantry ครัวไทย ห้องคนรับใช้ 2 ห้อง

 

DAVIDIA จำนวน 7 หลัง บนที่ดิน 100-112 ตารางวา ราคา 38-44 ล้านบาท สูง 2 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย  380 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน (ห้อง Master 1 ห้องนอน) 4 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ครัว Pantry ครัวไทย ห้องคนรับใช้ 2 ห้อง

 

ออกแบบบ้านโดย บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) ที่รังสรรค์งานออกแบบบ้านที่ให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ร่มรื่นด้วยสวนขนาดใหญ่ ฟังก์ชั่นใช้สอยลงตัวและครบครัน

 

 

– การออกแบบที่คำนึงถึง ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีข้อดีมากมาย ดังนี้ ที่จอดรถที่มีหน้ากว้าง ทำให้เป็นจุดเด่นของโครงการ ตั้งแต่การวางผังเหนือ ใต้ รับลม มีการคำนึงถึงการลดปริมาณความร้อนจากแสงแดดด้วยการทำชายคาและไม้ซุงบังแดด แต่ยังคงได้รับแสงธรรมชาติ

– รวมถึงการติดตั้ง Solar Cell ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนพลังงานไฟฟ้าช่วยประหยัด ค่าไฟฟ้าของบ้าน นอกจากนี้รูปแบบบ้านยังมีความแตกต่างจากโครงการใกล้เคียง ถือว่าเป็นบ้านที่มีรสนิยมที่สุดในย่านบางนา มีการออกแบบ Universal Design เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุหรือคนพิการ โดยมีทำทางลาดเอียงไว้บริเวณที่จอดรถ รวมถึงขนาดของลิฟต์ด้วย

– การคัดสรร MATERIAL ที่มาพร้อมในบ้านของคุณ

 

วัสดุมาตรฐานที่จัดเตรียมมาไว้ในตัวบ้านของโครงการ บ้านอิสสระ บางนา ถูกคัดสรรมาให้ผู้ซื้ออย่างพิถีพิถัน เริ่มจากส่วนของครัว Pantry ยี่ห้อ Bulthaup ซึ่งนำเข้าจากประเทศเยอรมันเครื่องใช้ไฟฟ้าชุดครัวฝรั่ง และเครื่องใช้ไฟฟ้าชุดครัวไทยอย่างครบเช็ต โดยเซ็ตครัวฝรั่งยกมาจากแบรนด์ SIEMENS ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีของประเทศเยอรมัน ประกอบไปด้วย Hood, Gas Hob, Induction Hob, Microwave และ Ovenในส่วนของเซ็ตครัวไทย ได้เลือกยี่ห้อ MEX ทั้ง Hood และ Gas Hob

 

 

ส่วนต่อมาเป็นส่วนของห้องน้ำที่ใช้อุปกรณ์ระดับพรีเมี่ยม จากหลากหลายแบรนด์ดัง เพื่อทำให้มีความสวยงามภายในห้องน้ำ อาทิเช่น โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าตัวท๊อป จากแบรนด์ TOTO อ่างอาบน้ำนำเข้าจากประเทศเยอรมัน ยี่ห้อ KASCH ทางโครงการยังเลือกใช้แบรนด์ Grohe ซึ่งเป็นแบรนด์สุขภัณฑ์ชั้นนำจากประเทศเยอรมัน ในส่วนของ ฝักบัว ก๊อกน้ำ และ อุปกรณ์ Fitting อื่นๆ

 

ในส่วนของสเปคเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่เป็นจุดเด่นของโครงการ เลือกได้แก่ ลิฟต์โดยสาร ยี่ห้อ Mitsubishi ที่ได้รับความนิยมในโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยรวมถึงบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม

 

ภายในบ้านยังมีระบบปรับอากาศ VRV จาก Daikin เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบรับกับบ้านสมัยใหม่ที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน มีระบบแผงควบคุมอัจฉริยะที่สามารถสั่งการเปิด-ปิด หรือควบคุมอุณหภูมิ เครื่องปรับอากาศภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย ผ่านจอมอนิเตอร์จาก Daikin และมีระบบ Access Control, CCTV และ ระบบควบคุมการเปิดปิดไฟ, แอร์, ประตูรั้ว จากมือถือ เพื่อรองรับวิถีชีวิตของคนยุคปัจจุบัน

 

MATERIAL OPTIONS

วัสดุที่ทางโครงการจัดเตรียมให้มี 3 แบบให้เลือก ดังนี้

Normal  จะเป็นแบบมาตรฐานปกติที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้

Option 1 จะแตกต่างจากแบบปกติโดยพื้นสีไม้ที่เข้มกว่า และสีพื้นพอร์ซเลนที่เป็นสีเทา ในขณะที่สี Wallpaper ออกเป็นสีขาวคล้ายๆกัน

Option 2 สีพื้นไม้จะเป็นน้ำตาลกลางๆ อยู่ระหว่างแบบปกติและ Option แรก และที่แตกต่างเพิ่มเติมคือพื้นพอร์ซเลนลายหินสีเทาที่เข้มขึ้น

 

 

 

พื้นที่ส่วนกลางจัดสรรให้อย่างลงตัวสิ่งอำนวยความสะดวก กว่า 1,051 ตารางเมตร ที่โครงการบ้านอิสสระ บางนา จัดให้ ประกอบไปด้วย Clubhouse, สระว่ายน้ำส่วนกลาง ความยาวถึง 30 เมตร กว้าง 7 เมตร, Fitness, Kid’s Room, Multi-Purpose Room, Amphitheater และ Playground

– มีสวนหน้าโครงการทำให้เป็นบัฟเฟอร์ ที่ป้องกันเสียงหรือฝุ่นละอองจากการสัญจรของถนนด้านหน้าโครงการได้เป็นอย่างดี และเพิ่มความเงียบสงบร่มรื่นให้กับผู้อยู่อาศัย

– จัดสายไฟฟ้าลงดินทั้งโครงการ

– มีระบบ Access Control เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว

 

 

บริการหลังการขายโดย ISSARA Team

โครงการ มีบริการหลังการขายด้วยนิติบุคคลจากทาง Issara มาดูแลหลังการขาย เพื่อลูกค้าทุกท่านที่อาศัยอยู่ในโครงการ สะดวกสบายจะช่วยบริการในเรื่องของการติดต่อประสานงานไปยังส่วนบริการต่างๆ เช่น บริการจัดกิจกรรม (Activities) บริการดูแลบ้าน (Home Care) บริการด้านสุขภาพ (Health Care) บริการผู้ช่วยติดต่อ (Personal Assistant Service) เป็นต้น ซึ่งบริการพิเศษนี้เรียกว่า “Lifestyle Concierge Service” ที่ยกระดับการดูแลแบบ Super Luxury

 

ที่มา : www.charnissara.com

วันที่ 5 มิถุนายน 2561

 

ความคิดเห็น