พาชมโครงการ “MARU LADPRAO 15” คอนโดมิเนียมรูปแบบใหม่ Pet Friendly & Wellness Living ใส่ใจในทุกรายละเอียดคนรักสัตว์เลี้ยงและคนรักสุขภาพ บนทำเลใกล้ MRT ลาดพร้าว

พาชมโครงการ  “MARU LADPRAO 15” คอนโดมิเนียมแบรนด์ล่าสุดของ  Major Development กับแนวคิด Pet Friendly & Wellness Living  ที่มีส่วนกลางใส่ใจในรายละเอียดสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยงและคนรักสุขภาพ ตอบสนอง Lifestyle คนเมืองยุคปัจจุบัน บนทำเลศักยภาพ ห่างประมาณ 50 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว

 

 

โครงการ: MARU LADPRAO 15

เจ้าของโครงการ: บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด มหาชน

ประเภทโครงการ: คอนโดมิเนียม High Rise สูง 30 ชั้น

ขนาดพื้นที่โครงการ: 1-3-07 ไร่ หรือ 707 ตร.วา หรือ 2,828 ตร.ม.

จำนวนยูนิต: ห้องพักอาศัย 332 ยูนิต และ ร้านค้า 1 ยูนิต

แบบห้องพัก:

1 ห้องนอน ขนาด 30-35 ตร.ม.

2 ห้องนอน ขนาด 50-60 ตร.ม.

จำนวนที่จอดรถ: 158 คัน

คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ: มิถุนายน 2020

สิ่งอำนวยความสะดวก:

ชั้น 1

– Lobby

– Bicycle Parking Race & Tire Inflator

– Co-Working Forest

– Co-Living Space

– Bark and Bike wash

– Verdure Forest

ชั้น 2

– Co-Working Space

ชั้น 7

– Wisdom forest

ชั้น 10, 15 และ 20

– Pocket Terrace

ชั้น 24

– Co-Creation Space

– Half-Olympic Size Swimming pool

– Warm water pool

– Kid’s pool

– Fitness room

– Yoga room

Rooftop

– Music box

– Relax garden

– BBQ sunken terrace

– Outdoor pool table

– Outdoor Theatre

– Star Gazing Deck

Car park

– EV Charger (2 Outlets)

 

แผนที่โครงการ:

 


ส่องทำเลโครงการ

โครงการ MARU LADPRAO 15 ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว ระหว่างซอยลาดพร้าว 15 และซอยลาดพร้าว 17 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT ประมาณ 50 เมตร ถือว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจมากในขณะนี้ เนื่องจากปัจจุบัน เมืองได้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการขยายตัวออกไปรอบนอก ย่านลาดพร้าวถือเป็นย่านแรกๆ ที่ได้รับผลจากการขยายตัวนี้ สังเกตได้จากการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของบริเวณนี้ และยังดูมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยศักยภาพสูงนี้ จึงทำให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้ง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า อีกทั้งยังครอบคลุมไปถึงการคมนาคมขนส่งต่างๆ อีกด้วย

 

 

หากมองจากที่ตั้งของ MARU LADPRAO 15 จะเห็นว่า จากถนนด้านหน้าโครงการตรงไปไม่นานนักจะเจอกับแยกรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งเป็นแยกที่สามารถเชื่อมต่อเข้าเมืองได้ด้วยถนนรัชดา-พระราม 9 อีกทั้งยังตรงต่อไปถนนรามคำแหง หรือหากย้อนกลับไปอีกด้านหนึ่งก็จะพบกับ 5 แยกลาดพร้าว แยกที่เป็นจุดตัดของถนนใหญ่ถึง 3 สาย ได้แก่ ถนนวิภาวดี ถนนพหลโยธิน และถนนลาดพร้าว ด้วยเหตุนี้เองทำให้ 5 แยกลาดพร้าวกลายเป็นจุดศูนย์กลางที่สำคัญของย่านนี้ไปโดยปริยาย

นอกจากความได้เปรียบเรื่องการเชื่อมต่อของถนนหลายสายแล้วนั้น การเข้าถึงโครงการโดยการคมนาคมขนส่งสาธารณะก็ถือเป็นอีกจุดเด่นสำคัญของโครงการนี้ด้วยเช่นกัน โดยที่ตั้งของโครงการจะอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว ประมาณ 50 เมตรเท่านั้น ซึ่งถือเป็นระยะที่สามารถเดินถึงได้โดยง่ายเลยทีเดียว

 

 

และในอนาคตอันใกล้ยังมี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง คาดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 พร้อมเชื่อมต่อการเดินทางสายสีน้ำเงิน ตรงแยกรัชดา-ลาดพร้าวและเชื่อมกับ AIRPORT RAIL LINK ที่สถานีพัฒนาการ

 

สรุปแล้ว หากพูดถึงเรื่องการเดินทางและการเข้าถึง ทำเลที่ตั้งของโครงการ MARU LADPRAO 15 นับเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงมาก เพราะไม่เพียงแต่ความสะดวกสบายที่ได้จากการเดินทางด้วยรถยนต์ด้วยโครงข่ายของถนนแล้ว ยังมีสถานีรถไฟฟ้า MRT ไว้ให้ได้เลือกใช้อีกด้วย

 


 

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

จากโครงข่ายของถนน และความเป็นย่านที่อยู่อาศัย ทำให้บริเวณลาดพร้าว มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เกิดขึ้นมากมายตามมา ไม่ว่าจะเป็นห้างขนาดใหญ่ หรือร้านค้าขนาดเล็ก ก็ต่างเกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยบริเวณนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งของโครงการ ด้วยลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ที่มีถนนใหญ่มาตัดกัน ทำให้บริเวณนี้กลายเป็น Hub หรือจุดศูนย์กลางของย่าน เป็นทั้งศูนย์รวมของห้าง ร้านอาหาร รวมไปถึงสวนสาธารณะขนาดใหญ่ก็ตั้งอยู่บริเวณนี้ด้วยเช่นกัน

 

ห้างสรรพสินค้าชั้นนำขนาดใหญ่ อย่าง เซ็นทรัลลาดพร้าว

 

Union Mall แหล่งรวมร้านขายเสื้อผ้า และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ย่านลาดพร้าว

 

BigC ซูเปอร์มาเก็ตชื่อดัง ที่อยู่ใกล้กับโครงการ

 

GOURMET MARKET ซูเปอร์มาเก็ตในเครือ The Mall ตั้งอยู่ในสถานี MRT ลาดพร้าว ที่สามารถเดินไปช้อปปิ้งได้ง่ายๆ

 

นอกจากจะมีห้างสรรพสินค้ามากมายหลากหลายให้เลือกสรรแล้ว บริเวณนี้ยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึง 3 สวนที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพมหานครอย่าง สวนรถไฟ สวนจตุจักร และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตฯ ไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ หรือออกกำลังกายได้อีกด้วย

 

สวนรถไฟ

 

สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์

 

สวนจตุจักร

 

ไม่เพียงแต่สวนจตุจักรจะเป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ที่นี่ยังถือเป็นตลาดนัดที่เป็น Shopping destination ที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

 

และ JJ Mall ตลาดนัดติดแอร์ที่ขยายตัวออกมาจาก ตลาดจตุจักรเดิม

 

นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ อย่าง พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร

 

อุทยานผีเสื้อและแมลง

 

รวมไปถึงที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ ปตท. ก็อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก

 


 

เจาะลึกโครงการ MARU LADPRAO 15

วันนี้ทางทีมงาน Kobkid.com ได้เดินทางมาโครงการด้วยรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีลาดพร้าว ตรงมาที่ทางออก 3

 

ออกมาจะเจอกับถนนลาดพร้าว หากมองไปรอบๆ จะเห็นว่าตึกที่อยู่บริเวณนี้ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นตึกแถวเรียงติดกัน ยังไม่ค่อยมีตึกสูงให้เห็นมากนัก

 

 

เลี้ยวขวาเดินตรงมาตามถนนลาดพร้าวไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะพบกับร้านอาหารชื่อดัง บะหมี่บ้านโป่งเจ๊แดง

 

นอกจากรถไฟฟ้า MRT แล้วบริเวณนี้ยังมีป้ายรถเมล์ไว้ให้บริการอีกด้วย

 

 

เดินเลยมาไม่นาน ประมาณ 50 เมตร ก็จะพบกับอาคารสีน้ำตาลขนาดใหญ่ บ่งบอกว่าเรามาถึง Sales Gallery ของโครงการเรียบร้อยแล้ว

 

ยืนอยู่หน้าโครงการมองไปรอบๆ จะเห็นร้านสะดวกซื้อ 7-11 อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยมีสะพายลอยคนข้ามอยู่เลยจากที่ตั้งโครงการไม่ไกลนัก

 

 

นอกจากนั้น บริเวณใกล้เคียง ยังสามารถเห็นร้านอาหารที่เป็นตำนานและอื่นๆมากมาย ถือได้ว่าเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์มากเลยทีเดียว

 

 


 

บรรยากาศภายใน Sales Gallery

หากดูจากภายนอก จะเห็นว่า Sales Gallery ของโครงการ MARU LADPRAO 15 มีการตกแต่งโดยเน้นความเป็นธรรมชาติ ด้วยโทนสี วัสดุ และการตกแต่งด้วยต้นไม้ต่างๆ

 

เข้ามาด้านในก็ยังคงมีการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ โดยมีจุดเด่นสำคัญอีกจุดหนึ่ง คือจะเห็นได้ว่าวัสดุที่เลือกใช้ เป็นวัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อให้สอดคล้องกับแนวความคิด Pet Friendly & Wellness Living

 

โดยใน Sales Gallery จะมีหุ่นจำลองอาคาร และห้องตัวอย่างไว้ช่วยให้สามารถเห็นภาพชัดเจนขึ้น

 

 

โครงการ MARU LADPRAO 15 คอนโดมิเนียม High rise สูง 30 ชั้น กับบรรยากาศท่ามกลางธรรมมชาติ เน้นความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนห้องสูงสุด เพียง 16 ห้อง/ชั้น ตอบโจทย์ Lifestyle คนรุ่นใหม่ ตัวอาคารสอดแทรกพื้นที่สีเขียวพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางที่มีมาให้ผู้พักอาศัยใด้เลือกใช้อย่างมากมายถึง 7 ชั้น

 

 

 

ชั้น Ground floor เมื่อเข้ามาให้โครงการจะเจอกับสวนขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า ช่วยให้ความร่มรื่น และสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับโครงการด้านใน ที่ลูกบ้านสามารถออกมาเปลี่ยนบรรยากาศ และใช้ชีวิตอยู่นอกที่พักอาศัย

 

จะเห็นได้ว่าทางโครงการพยายามที่จะใช้โทนสี ที่ทำให้พื้นที่ภายในรู้สึกเงียบ สงบ เพื่อให้ผู้พักอาศัยสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

 

เข้ามาในอาคาร จะพบกับ Lobby ขนาดใหญ่ ที่ถูกออกแบบให้มีเพดานสูง บวกกับการเลือกใช้กระจก ทำให้รู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย

 

ติดกับ Lobby จะเป็นพื้นที่ Co-Living Space ที่จะถูกออกแบบให้เป็น 2 ชั้น เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้มาใช้พื้นที่ส่วนกลางอ่านหนังสือหรือประชุมร่วมกัน เนื่องจากบริเวณนี้อยู่ติดกับ Lobby เพื่อเชื่อมต่อระหว่าง 2 พื้นที่ การออกแบบ ตกแต่ง จึงมีลักษณะใกล้เคียงกัน และยังเชื่อมต่อออกไปด้านนอกอาคารได้อีกด้วย

 

ไม่เพียงด้านหน้าโครงการเท่านั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางไว้รองรับ แต่ด้านหลังโครงการยังมีสวน พร้อมกับลานโยคะ หรือ จะออกกำลังกายแบบ TRX stretching หรือ แม้กระทั่ง Trampoline ที่ไว้ให้ พ่อ-แม่-ลูก สามารถมาออกกำลังกายด้วยกันได้  นอกจากนั้นที่ชั้น 7 จะมี Wisdom forest ให้ผู้อยู่อาศัยได้ออกมาสูดอากาศธรรมชาติ หรือ เล่น  Go Board GAME TABLE ได้อีกด้วย

 

ขึ้นมาที่ชั้น 10, 15 และ 20 ทางโครงการได้ทำ Pocket Terrace เพื่อผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้าไปกับตัวอาคาร โดยบริเวณนี้จะเป็น Green Terrace  มีที่นั่ง ต้นไม้ ให้ผู้พักอาศัยสามารถมานั่งหลบมุม ชมวิว พร้อมกับสัตว์เลี้ยงได้

 

Pocket Terrace

 

ชั้น 24 ในชั้นนี้จะมีห้องพักอยู่เพียง 4 ห้องเท่านั้น โดยความพิเศษของห้องพักบนชั้นนี้คือจะมีเพดานสูงถึง 3.5 เมตรเลยทีเดียว

 

นอกจากเรื่องความสูงของเพดานแล้ว ชั้นนี้ยังเป็นชั้นที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ด้วย ทั้งสระว่ายน้ำแบบ Half-Olympic Size Swimming pool โดยจะมีทั้งสระเด็ก และสระน้ำอุ่น

 

Fitness ที่สามารถออกกำลังกายไป มองวิวไปได้

 

รวมทั้ง Co-Creation Space สำหรับให้ผู้พักอาศัยมาจัดปาร์ตี้เล็กๆ ริมสระน้ำ หรือ ทำ workshop รวมทั้งทำอาหาร หรือขนมได้ โดยที่ทางโครงการได้จัดเตรียมพื้นที่รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเอาไว้ให้

 

ชั้น 25-30 เป็นชั้นห้องพักอาศัย โดยแต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัยประมาณ 9-11 ห้องเท่านั้น ทำให้บริเวณชั้นนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น

 

ถัดขึ้นมาบนชั้นดาดฟ้า ทางโครงการได้มีการแบ่งพื้นที่ออกแบบส่วนๆ เพื่อสร้างความพิเศษให้กับทุกพื้นที่ รองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี

 

โดยจะมี Outdoor Theatre ที่ให้ผู้พักอาศัยที่เบื่อกับการดูหนังในห้องสี่เหลี่ยม โดยมีการออกแบบให้เป็นพื้นที่โล่ง มีที่นั่งแบบไล่ระดับ

 

และจุดเด่นสำคัญที่เป็น Highlight สำหรับโครงการนี้คือ Music box โดยโครงการได้ออกแบบให้เป็นห้องเก็บเสียง มีลักษณะคล้ายกับห้องซ้อมดนตรี แต่ยังคงเลือกที่จะใช้กระจกขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้

 

นอกจากนั้น บริเวณชั้นนี้ยังมีที่เล่น โต๊ะพูล และมุมต่างๆ มากมายให้ได้เลือกตามกิจกรรมและความต้องการของแต่ละคน

 

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ทางโครงการได้จัดพื้นที่ STAR GAZING DECK ชั้นดาดฟ้าให้สามารถขึ้นไปนอนชมดาวได้อีกด้วย

 


 

พาชมห้องตัวอย่าง

 

โครงการ MARU LADPRAO 15 มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 332 ยูนิต โดยแบ่งเป็น 2 แบบ คือ  1 ห้องนอน 30-35 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน 50-60 ตร.ม. เพื่อให้ผู้อาศัยรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว ทางโครงการจึงออกแบบให้มีจำนวนห้องต่อชั้นที่มากที่สุดเพียง 16 ห้อง/ชั้น เท่านั้น โดยห้องทั้งหมดของโครงการจะมาพร้อมกับ Pantry และชั้นเก็บของ แบบ Fully Fitted

 

วันนี้เราได้มีโอกาศเข้าชมห้องตัวอย่างที่ Sales gallery ของโครงการ โดยมีด้วยกันทั้งหมด 2 ห้อง คือ ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. และ ห้อง 2 ห้องนอนขนาด 60 ตร.ม.

 

 

ห้อง 1 ห้องนอนขนาด 30 ตร.ม.

 

เมื่อเปิดประตูเข้าจะรู้สึกได้ถึงความรู้สึกอบอุ่น ด้วยโทนสีไม้ในห้อง โดยจะพบ Pantry อยู่ทางขวามือ และชั้นเก็บของอยู่ทางขวามือ โดยตัว Pantry และชั้นเก็บของที่ทางโครงการได้ให้มานั้น มีขนาดพอดีกับตัวห้อง

 

 

 

จากมุมด้านหน้าประตูมองตรงเข้าไปจะเห็น ส่วนทานอาหาร และส่วนห้องนั่งเล่น ที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ

 

 

ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนถูกแบ่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อนอย่างเป็นสัดส่วน

 

ในบริเวณห้องนั่งเล่นนี้เอง จะมีห้องน้ำซ่อนอยู่หลังประตูบานเลื่อนไม้ ที่สามารถเลื่อนไปปิดส่วน Pantry ได้ ถือเป็นลูกเล่นที่น่าสนใจเลยทีเดียว

 

สำหรับภายในห้องน้ำ ทางโครงการได้เลือกใช้โทนสีขาว แยกโซนเปียก-แห้ง เพื่อสะดวกต่อการดูแลรักษา

 

สำหรับพื้นที่บริเวณห้องนอน จะเห็นว่าถึงแม้จะมีการวางเตียง โต๊ะ และเก้าอี้ลงไปแล้ว ยังคงเหลือพื้นที่อยู่ แสดงให้เห็นถึงความกว้างขวางของห้อง

 

จุดเด่นสำคัญอีกจุดหนึ่งคือ กระจกเข้ามุม ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถมองเห็นมุมมองที่กว้างขึ้นได้

 

จากห้องนอน สามารถเดินออกมาที่ระเบียงได้เลย

 


 

ต่อมาเป็น ห้อง 2 ห้องนอนขนาด 60 ตร.ม. ซึ่งถือเป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดห้องหนึ่งของทางโครงการ

 

จากผังห้อง เห็นได้ว่าทางทางโครงการได้พยายามจัดห้องอย่างเรียบง่าย เน้นการใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้เมื่อเข้ามาให้ห้อง จึงสามารถสัมผัสได้ถึงความ โล่ง เป็นสัดส่วน และดูสบายไม่อึดอัด

 

เมื่อเปิดประตูเข้ามา ทางขวามือจะเจอกับพื้นที่ห้องทานข้าว มองตรงไปจะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่นที่ติดอยู่กับระเบียง ทางซ้ายจะเป็น Smart function cabinet

 

และเช่นเคย ด้วยความเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Fully Fitted ทางโครงการจึงมี Pantry และตู้เก็บของให้ โดยจะใหญ่และมาขึ้นตามขนาดของห้อง ในห้องนี้ ตู้เก็บของจะมีอยู่ด้วยกัน 2 จุด คือบริเวณทางเข้าห้อง และระหว่างทางเดินไปส่วนห้องนอน

 

 

 

 

 

เลี้ยวขวาตรงไปเรื่อยๆ จะพบกับส่วนของห้องนอน การจัดวางแบบนี้ ช่วยทำให้ห้องนอนดูมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นทีเดียว

 

 

ห้องอยู่ตรงหน้าเราจะเป็นห้องนอนห้องเล็ก แต่ถึงจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็ให้ความรู้สึกกว้างขวางไม่อึดอัด

 

มาถึงห้องนอนใหญ่หรือ Master bedroom ที่อยู่บริเวณทางขวามือ ด้วยการออกแบบกระจกเข้ามุม ทำให้ห้องดูกว้าง ขวาง สวยงาม

 

อีกทั้งภายในห้อง Master bedroom ยังมีการแบ่งพื้นที่ห้องให้มีส่วนห้องแต่งตัวภายในห้อง ถือเป็นความใส่ใจในรายละเอียดการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ซึ่งทางโครงการได้ตกแต่ง walk in closet มาให้ดูเป็นตัวอย่างสำหรับเป็นไอเดียในการแต่งห้อง

 

 

 

สำหรับห้องน้ำ ก็ยังคงเน้นโทนสีขาว แทรกด้วยไม้ ตามสไตล์ของโครงการ โดยจะมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง เช่นเดียวกันกับห้องขนาด 1 ห้องนอนก่อนหน้านี้

 


 

บทสรุปหลังเยี่ยมชมโครงการ

 

โครงการ MARU LADPRAO 15 ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามองในขณะนี้ ด้วยตัวโครงการที่ออกแบบในสไตล์มินิมอล สวย เรียบง่าย ท่ามกลางความวุ่นวาย สู่ความสงบภายในใจ ปล่อยวางไปกลับธรรมชาติรอบตัวเรา ด้วยการออกแบบอาคารและการจัดสรรพื้นที่อย่างชาญฉลาด รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่เพียงแต่มีพื้นที่มากเท่านั้น แต่ยังคงมีกิจกรรมที่หลากหลายให้ได้เลือกสรร และที่ตั้งของโครงการก็เป็นจุดแข็งสำคัญเลยทีเดียว ทั้งการเดินทางที่แสนจะสะดวกสบาย ใกล้ MRT ลาดพร้าว และใกล้สถานที่พักผ่อนหย่อนใจในพื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนถึงแนวโน้มในการเจริญเติบโตของพื้นที่ในอนาคต ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโครงการ MARU LADPRAO 15 เป็นโครงการที่น่าสนใจที่สุดโครงการหนึ่ง ณ ขณะนี้

 

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ MARU LADPRAO 15 สามารถเข้าไปชมห้องตัวอย่างได้แล้วที่ Sales gallery ของโครงการ บริเวณปากซอยลาดพร้าว 15 ติดถนนลาดพร้าว เปิดตั้งแต่ 10.00 – 19.00 น. หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ http://bit.ly/2F6cXGq หรือสอบถาม MJD Call Center  1266 

 

 

ความคิดเห็น