LIV – 24 กางแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง เปิดเกมรุกสู่โครงการเพื่อการพาณิชย์ จับมือกลุ่มโตโยต้าขอนแก่น (TKK GROUP) สร้างจุดต่างด้านความปลอดภัยให้โชว์รูมและศูนย์บริการทั้งเครือ

LIV – 24 กางแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง เปิดเกมรุกสู่โครงการเพื่อการพาณิชย์ จับมือกลุ่มโตโยต้าขอนแก่น (TKK GROUP) สร้างจุดต่างด้านความปลอดภัยให้โชว์รูมและศูนย์บริการทั้งเครือ

– LIV-24 สบช่องขยายพอร์ตจากโครงการที่พักอาศัย สู่โครงการเพื่อการพาณิชย์ ตั้งเป้าดันยอดขายโต 74%

– ชูจุดแข็งความเป็น SMART Guardian for seamless Security เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด ผสานความสามารถของเทคโนโลยีเข้ากับประสบการณ์ของมนุษย์ได้อย่างลงตัว

– ล่าสุดจับมือกลุ่ม โตโยต้า ขอนแก่น (TKK GROUP)เสริมแกร่งระบบความปลอดภัย และระบบดูแลวิศวกรรมอาคารให้โชว์รูม และศูนย์บริการในโซนอีสาน ทั้ง 13 แห่ง

นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย LIV-24 Living Technology บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2022 LIV-24 เตรียมขยายพอร์ตจากการบริหารงานในโครงการที่พักอาศัย สู่โครงการเพื่อการพาณิชย์มากขึ้น ตั้งเป้ารายได้เติบโต 74% คิดเป็นมูลค่ารวม 50 ล้านบาท พร้อมชูจุดแข็งความเป็น SMART Guardian for Seamless Security เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด ที่ผสานความสามารถของเทคโนโลยีและประสบการณ์ของมนุษย์เข้าได้กันอย่างลงตัว ช่วยประเมินสถานการณ์ที่อาจจะก่อให้เกิดอันตราย รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงภายในโครงการได้อย่างครอบคลุมทุกด้านพร้อมมั่นใจว่า LIV-24 มีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยและระบบเทคโนโลยีความปลอ
ดภัยแบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์กว่า 4 ปีที่ผ่านมา LIV-24 มีความเข้าใจลึกซึ้งถึงปัญหาด้านระบบรักษาความปลอดภัย รวมถึงช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบวิศวกรรมอาคาร โดยตัวเลขเคสที่ LIV-24 สามารถตรวจจับความผิดปกติ (Incident Detection) มีสูงถึง 300,000 ครั้ง และ LIV-24 ช่วยป้องกันการเกิดเหตุจากการทำงานผิดปกติ ของระบบวิศวกรรมในอาคารมากกว่า 10,000 ครั้ง อาทิ สัตว์มีพิษเข้ามาในโครงการ ไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเหตุลุกลามเป็นไฟไหม้ การบุกรุกจากบุคคลต้องสงสัย ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่เสี่ยง แล้วตรวจจับระบบวิศวกรรมอาคารผิดปกติ


ทั้งนี้เล็งเห็นว่าทั้งโครงการที่พักอาศัย หรือโครงการเพื่อการพาณิชย์มีความต้องการด้านระบบความปลอดภัยที่แตกต่างกัน ดังนั้นการทำงานของ LIV-24 จะมีความยืดหยุ่น โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญสามารถให้คำแนะนำและออกแบบบริการด้านความปลอดภัยให้ตอบโจทย์แต่ละโครงการอย่างแท้จริง นอกจากนี้ LIV-24 ยังไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาบริการเพื่อเสริมประสิทธิภาพ ล่าสุดได้พัฒนาระบบ Energy Management เพื่อช่วยในการประหยัดพลังงานภายในอาคาร ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ให้แก่ลูกค้าผู้ใช้บริการ” ล่าสุด LIV – 24 ได้รับความไว้วางใจจากทางโตโยต้าขอนแก่น (TKK GROUP) ให้เข้าสำรวจและวิเคราะห์ศูนย์บริการทั้ง 13 สาขา เพื่อวางระบบ กำหนดมาตรฐาน และป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีความปลอดภัย และ IoT (Internet of Thing) เข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนางานบริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีการนำทีมเฉพาะกิจเข้าไปสำรวจสาขาทั้งหมดและทำการประเมินความเสี่ยงใน ด้านระบบรักษาความปลอดภัย และระบบวิศวกรรมอาคาร รวมทั้งวิเคราะห์ ประเมินผลเป็นคะแนนมาตรฐานความปลอดภัย (LIV-24 Security Scoring) พร้อมปรับปรุงแผนงานและดูแลให้เกิดความเหมาะสมในแต่ละสาขา อาทิ ด้านระบบรักษาความปลอดภัย และระบบวิศวกรรมอาคาร โดยมีการติดตั้ง


CCTV Analytic และ Access control สำหรับพื้นที่เก็บของมีค่า ที่ต้องจำกัดการเข้าออก การนำเทคโนโลยี License Plate Reader (LPR) สำหรับอ่านทะเบียนรถที่เข้ามารับบริการที่ศูนย์เพื่อนับจำนวนรถเข้าออก รวมไปถึง CCTV 360 ทำการเก็บภาพรอบตัวรถก่อนและหลังเข้ารับบริการ เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้กับรถของลูกค้า รวมถึงมี CCTV Fisheyes
ภายในโชว์รูมสำหรับตรวจสอบการให้บริการลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เป็นต้น


ปัจจุบัน LIV-24 ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลความปลอดภัยให้โครงการทั้งสิ้น 63 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 21 โครงการ โครงการบ้านเดี่ยว 34 โครงการ และโครงการเพื่อการพาณิชย์จำนวน 8 โครงการ โดยโครงการเพื่อการพาณิชย์ดูแลครอบคลุมหลายกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจสำนักงาน โรงเรียน โรงแรม ศูนย์เวลเนสครบวงจร อาทิ
โรงเรียนสาธิตพัฒนา, Depot by VANACHAI, T77 community, Siri Campus, รักษา (RAKxa), The Standard Hotel โดยโครงการที่ไว้วางใจใช้บริการของ LIV-24 ล่าสุด คือ โตโยต้าขอนแก่น (TKK GROUP) ซึ่งจะเป็นการวางระบบด้านความปลอดภัย และดูแลระบบวิศวกรรมอาคาร ให้โชว์รูมและศูนย์บริการทั้ง 13 สาขา ใน 3 จังหวัด ขอนแก่น เลย และบุรีรัมย์

ความคิดเห็น