แคลิฟอร์เนีย-สหรัฐฯ เปิดตัว "HP Robocop K5" ตำรวจหุ่นยนต์ลาดตระเวนหน้าใหม่ ดูแลรักษาความสงบพื้นที่สาธารณะ พร้อมกล้องวิดีโอความคมชัดระดับ HD บันทึกภาพเหตุการณ์ได้ 360 องศา

เมืองฮันทิงตันพาร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เปิดตัวนวัตกรรม “HP Robocop K5” หรือตำรวจหุ่นยนต์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลรักษาความสงบพื้นที่สาธารณะ อย่างเช่น โรงพยาบาล ที่จอดรถ สนามบิน รวมไปถึงสวนสาธารณะ ที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ในตอนนี้มีสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใน เมืองฮันทิงตันพาร์ก ได้มีการนำ “HP Robocop K5” มาใช้แล้ว ซึ่งสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในเมือง โดยหน้าที่หลักของตำรวจหุ่นยนต์ตัวนี้คือการลาดตระเวน สอดส่องและบันทึกภาพเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความปลอดภัยบริเวณสวนสาธารณะแห่งนี้

 

นายคอสเม โลซาโน (Cosme Lozano) หัวหน้าตำรวจเมืองฮันทิงตันพาร์ก กล่าวว่า ตำรวจหุ่นยนต์ตัวนี้มีกล้องวิดีโอที่มีความคมชัดระดับ HD ที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ได้ 360 องศา และสามารถบันทึกภาพได้ในที่มืด ตำรวจจะสามารถเห็นภาพสถานการณ์ในพื้นที่ได้ผ่านกล้องตัวนี้ได้ รวมถึงมีปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินที่เชื่อมต่อกับศูนย์ที่มีทีมงานคอยดูแลตลอดเวลา และมีอีกหนึ่งความสามารถของเจ้าตำรวจ “HP Robocop K5” ที่น่าสนใจนั่นก็คือ สามารถบันทึกเลขทะเบียนรถที่ผ่านไปมาเพื่อเทียบกับระเบียนประวัติของรถที่ถูกขโมยผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงสามารถระบุตำแหน่งของโทรศัพท์ไอโฟนที่สูญหายได้ โดยตรวจสอบจากเลขเฉพาะของมือถือแต่ละเครื่องได้อีกด้วย และ Self-charging ที่สามารถเพิ่มพลังงานให้ตัวเองเมื่อระดับแบตเตอรี่ต่ำลง

 

ทางด้าน นางคาริน่า มาซิเอส (Karina Macias) นายกเทศมนตรีเมืองฮันทิงตันพาร์ก อธิบายเหตุผลที่สนับสนุนการใช้งานตำรวจหุ่นยนต์นี้ว่า สวนสาธารณะแห่งนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมือง และตอนนี้มีความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ดังนั้นจึงต้องการหาวิธีที่ช่วยตำรวจในการสอดส่องตลอด 24 ชั่วโมงต่อเนื่องทุกวัน ซึ่ง“HP Robocop K5”ตัวนี้มีค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาประมาณ 75,000 ดอลลาร์หรือราวสองล้านสามแสนบาทต่อปี และอาจต้องมีการอัปเดตซอฟต์แวร์เมื่อมีความจำเป็น

 

สำหรับเส้นทางการตรวจนั้นจะถูกโปรแกรมไว้ล่วงหน้าซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนทั้งเส้นทางและกิจกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ แต่ตำรวจหุ่นยนต์นี้ยังไม่สามารถทดแทนตำรวจอย่างมนุษย์ได้ทั้งหมด เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ตำรวจมีเวลามากขึ้นเพื่อทำงานสำคัญอย่างอื่นที่หุ่นยนต์ยังไม่สามารถทำได้เอง

 

ที่มา : voathai.com

ความคิดเห็น