หลักการออกแบบบ้านที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ

ในอีกไม่กี่ปีนี้ประเทศไทยจะได้ก้าวเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูณ์แบบแล้ว (Aged Society) ทำให้หลายๆ องค์กรในประเทศไทยเริ่มตระหนักเรื่องการใส่ใจและให้ความสำคัญผู้สูงอายุมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องคุณภาพชีวิตและจิตใจของผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุนั้นสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณค่า ลดภาระการดูแลของครอบครัว และเป็นพลังของสังคม

ส่วนหนึ่งของการใส่ใจคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ คือเรื่องการออกแบบบ้านเพื่อคนในสังคม (Universal Design) เพราะการอยู่ดีมีสุขของสมาชิกทุกคน นั้นคือคุณภาพความสุขของบ้าน หลายองค์กรจึงได้ร่วมกันขับเคลื่อนแนวทางและมาตรการที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ผู้พิการ และทุกคนในสังคม เพื่อใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีคุณภาพ ปลอดภัย และมีความสุข

 

 

โดยหลักการออกแบบ Universal Design  และการเลือกสิ่งของในห้องต่างๆ มีดังนี้

1.Equitable Use : ความเท่าเทียมกันในการใช้สอยของผู้ใช้ที่ต่างวัยและต่างความสามารถ

2.Flexibility in use : ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้

3.Simple and Intuitive Use : ใช้งานง่ายและสะดวก

4.Perceptible Information : การสื่อสารความหมายเป็นที่เข้าใจ มีสัญลักษณ์ที่ชัดเจนเข้าใจง่าย

5.Tolerance for Error : ทนทานต่อการใช้ที่ผิดพลาด

6.Low Physical Effort : ไม่ต้องออกแรงมาก

7.Size and Space for Approach and Use : มีขนาด และพื้นที่ที่เหมาะสมที่ทุกคนเข้าถึงได้

 


 

ห้องนอน โดยห้องนอนนี้จะเป็นห้องที่ผู้สูงอายุนั้นใช้ชีวิตอยู่มกที่สุด

-เตียง : สูงพอดีกับล้อรถเข็น หรือสูงประมาณ 40 ซม. ยาวไม่น้อยกว่า 180 ซม. ใต้เตียงควรเปิดว่างไว้สำหรับใส่อุปกรณ์ช่วยเหลือที่จำเป็น เช่น ยาประจำตัว

-ฟูก : ที่นอนลมแบบลอน เหมาะสำหรบผู้สูงอายุที่เดินไม่ไหว เช่น อัมพาต อัมพฤกษ์  รวมถึงผู้ป่วยที่ได้รบการผ่าตัด ป้องกันแผลกดทับ ที่นอนประเภทผสม เช่น ที่นอนใยมะพร้าวผสมยางพารา จะมีความยืดหยุ่นสูง นุ่มและคงทน ที่นอนลมแบบBubble เหมาะสำหรับผู้ช่วนแผลกดทับ จะช่วยลดการเสียดสีระหว่างที่นอนกับผิวของผู้ป่วย

-ไฟ : สว่างพอเพียง เลือกหลอดไฟแบบคอมแพกต์ ฟลูออเรสเซนต์ชนิดที่ให้แสงเหลืองอ่อน ช่วยทำให้ห้องอบอุ่น / สะดวกแค่เอื้อม ควรเอื้อมถึงได้จากที่นอน / แสงนวลตา ทำให้ผ่อนคลาย

 


 

 

ห้องน้ำ ควรเลือกวางตำแหน่งห้องน้ำอยู่ใกล้ห้องนอน หรือมีอยู่ในห้องนอนได้ยิ่งดี

-ขนาดความกว้างควรมีความเหมาะสม คือ 150-200 ซม. / พื้นเรียบและไม่ลื่น / โถส้วมสูงจากพื้น 45 ซม. มีพนักพิง

-กระดาษชำระควรใช้มือข้างเดียวดึงได้และติดในตำแหน่งที่หยิบใช้ง่าย

-ฝักบัวอาบน้ำ เป็นชนิดแรงดันต่ำ และปรับระดับได้

-ติดตั้งปุ่มกดกริ่งฉุกเฉินในระยะสูงจากพื้น 90-100 ซม.

-มีราวจับข้างโถส้วมสูงจากพื้น 80-90 ซม. เพื่อช่วยพยุงตัวขณะลุก

-อ่างล้างหน้าสูงจากพื้น 75 ซม. / ใช้ก๊อกน้ำชนิดก้านโยก ก้านกดหรือก้านหมุน

-ที่นั่งอาบน้ำ หรือเก้าอี้อาบน้ำ ผลิตจากวัสดุแข็งแรง พร้อมเบาะอ่อนนุ่ม

-ลูกบิดประตูห้องน้ำ เลือกแบบมีก้านจับ เพื่อมไม่ลื่นและหลุดง่าย

 


 

 

 

ห้องครัว พื้นต้องไม่ลื่น แยกพื้นทำครัวออกจากส่วนที่รับประทานอาหาร

-เคาน์เตอร์ครัวควรสูงไม่น้อยกว่า 75 ซม. เฟอร์นิเจอร์แบบบิลท์อินติดในระดับต่ำพอที่สามรถหยิบถึง

-อ่างล้างจาน  ใช้อ่างแบบตื้นและเดินท่อใต้อ่างให้แนบกับผนังด้านหลัง

-ก๊อกน้ำ ใช้แบบก้านโยก หรือมีระบบปิด-เปิด ด้วยก้านบิด

 

 

 

ที่มา : thaihealth.or.th

ความคิดเห็น