สร้างรายได้จาก Sharing Economy เศรษฐกิจแบ่งปันที่กำเนิดในยุคดิจิทัล

 

เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นตัวกลางแห่งการสื่อสาร พ่อค้าคนกลางก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป นอกจากโลกทั้งใบจะดูแคบลงด้วยอำนาจของอินเทอร์เน็ตแล้ว ผู้คนยังดูใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วยอิทธิพลของอุปกรณ์ติดต่อสื่อสารต่าง ๆ ด้วย

 

ในยุคดิจิทัลที่แอปพลิเคชันต่าง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค จากอดีตที่ต้องทำการซื้อขายผ่านพ่อค้าคนกลาง ผู้ซื้อไม่สามารถพบกันเองได้ แต่เทคโนโลยีทำให้โลกของธุรกิจเปลี่ยนไป ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถพูดคุยกันเองได้ผ่านแอปพลิเคชันบนโลกออนไลน์ และสามารถพบปะเจอหน้าค่าตากันได้ในโลกของความเป็นจริง

 

 

ทั่วทุกมุมโลกกำลังเกิดการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่เรียกว่า “เศรษฐกิจแบ่งปัน” หรือ Sharing Economy เป็นการบริโภคแบบร่วมมือกัน (Collaborative Consumption) หรือการทำธุรกิจจากเพื่อนสู่เพื่อน (Peer to Peer) คือธุรกิจรูปแบบใหม่ สามารถสร้างรายได้จากสิ่งของหรือทรัพย์สินที่ตนมี

 

โดยทำการแลกเปลี่ยน แบ่งปันสินค้าหรือบริการกับผู้อื่น ซึ่งไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน แต่สามารถทำการแลกเปลี่ยนร่วมกันได้ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู้บริโภคสามารถเข้ามาแบ่งปันหรือแสดงความคิดเห็นสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ได้โดยตรง เป็นอีกมิติหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคคนอื่น ๆ มีคำแนะนำในการตัดสินใจเลือกใช้สินค้าและบริการ ได้

 

 

ในประเทศไทยเศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ Sharing Economy ก็ได้มีการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ แอปพลิเคชันที่รู้จักกันโดยทั่วไปมีทั้งเกี่ยวกับการเดินทางอย่าง Uber, Grab Taxi, Lyft หรือ All Thai Taxi เกี่ยวกับที่พักมี Airbnb, HomeAway, VRBO, Homestay, LoveHomeSwap ฯลฯ

 

หากพูดถึงการเดินทาง Grab เองถือว่าเข้ามามีบทบาททางสังคมเมืองอย่างเด่นชัด ไม่ใช่เพียงแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังแผ่อนาเขตไปยังจังหวัดอื่น ๆ อย่างเช่น เชียงใหม่ด้วย Grab เป็นแอปพลิเคชันที่มีทั้ง Grab Taxi เป็นการให้บริการของ Taxi ที่เข้าร่วมกับ Grab หรือ Grab Car ไม่ว่าใครก็สามารถมาขับรถเพื่อหารายได้ เพียงแค่มีรถยนต์ส่วนตัว นอกจากจะใช้เวลาว่างไม่ให้เปล่าประโยชน์แล้ว ยังสร้างเม็ดเงินให้กับรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ได้อีกด้วย

 

 

 

ถึงแม้ว่า Sharing Economy จะดูเข้าถึงง่าย สะดวกและรวดเร็ว ทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการแล้ว แต่ต้องไม่ลืมคำนึงถึงคุณภาพที่ควรจะได้รับด้วย เศรษฐกิจแบ่งปันนี้มีการขยายตัวออกไปหลากหลายและกว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าถึงผู้คนได้จำนวนมาก อย่างการทำบ้านให้กลายเป็นโรงแรม ผู้ให้บริการมีที่ว่างภายในบ้านให้ผู้อื่นมาเช่าอยู่อาศัยชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นห้องว่าง พื้นที่ว่าง โซฟาว่าง หรือซอกเตียงที่ว่าง ล้วนให้เช่าได้ทั้งนั้นถ้าผู้บริโภคต้องการ

 

ในขณะเดียวกันผู้ที่มาเช่าก็ได้ที่พัก ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้ความประทับใจและสร้างมิตรภาพกับคนแปลกหน้า ถือว่าได้เรียนรู้การใช้ชีวิตที่แตกต่างจากการไปนอนโรงแรมหรู เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่สร้างความท้าทายให้กับชีวิต

 

 

 

หรือการให้เช่าออฟฟิศ Working Space Renting เมื่อเรามีที่ว่าง ไม่ได้ใช้งาน การให้ผู้อื่นมาเช่าเพื่อใช้เป็นที่ทำงาน สามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่มีอยู่ได้เช่นกัน ซึ่งการให้เช่าเพื่อทำงานนี้เองกำลังกลายเป็นกระแสที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากกับคนรุ่นใหม่ เนื่องจากคนรุ่นใหม่รักอิสระ อยากหาอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม การอยู่แต่ที่เดิมซ้ำ ๆ ไม่สามารถหาแรงบันดาลใจได้เท่ากับการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่ใหม่ ๆ

 

 

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจแบบเศรษฐกิจแบ่งปันนี้ นิยมแพร่หลายมากในหมู่วัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปบนโลกของสังคมออนไลน์ จึงไม่แปลกหากธุรกิจประเภทนี้จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ยิ่งสิ่งที่นำเสนอตอบสนองสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ดีเท่าไหร่ ยิ่งมีการใช้งานอย่างต่อเนื่องมากขึ้นเท่านั้น

 

ไม่ว่าอยากจะแชร์อะไรเพื่อให้ผู้อื่นเช่าหรือใช้บริการ ย่อมทำได้ไม่ยากในยุคที่ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล ในต่างประเทศมีธุรกิจมากมายที่แตกแขนงจากเศรษฐกิจแบ่งปันนี้ จนรัฐบาลเริ่มมีการปรึกษาหารือเรื่องกฎหมายในการควบคุมขอบเขตของเศรษฐกิจแบ่งปัน เชื่อว่าในอนาคตเศรษฐกิจแบ่งปันนี้จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย และมีการสร้างมาตรฐานในการควบคุมที่ชัดเจนอย่างแน่นอน

 

 

ที่มา : etatjournal.combaanlaesuan.comdepa.or.th

 

 

 

ความคิดเห็น