พาชมคอนโด Saladaeng One ศาลาแดง วัน (Review-รีวิว)
Saladaeng One (ศาลาแดงวัน) โดย บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury โครงการแรกที่ ทาง SC Asset พัฒนา บนทำเลย่านธุรกิจ สาทร-สีลม และแหล่ง Hang Out ใจกลางเมือง ในซอยศาลาแดง 1 ตรงข้ามตึกอื้อจื่อเหลียง ห่างจากถนนพระราม 4 ประมาณ 80 เมตร โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า 3 สถานี ได้แก่ BTS ศาลาแดง , MRT สีลม และ MRT ลุมพินี และอยู่ใกล้สวนลุมพินี
ประเภทโครงการ คอนโดมิเนียม ความสูง 33 ชั้นและชั้นใต้ดิน 3 ชั้น 1 อาคาร และ อาคาร Pool Villa สูง 3 ชั้น 1 อาคาร
ที่ตั้งโครงการ ถนน ศาลาแดง ซอย 1
เนื้อที่โครงการ 1-3-95.5 Rai
จำนวนห้องพัก 187 ยูนิต ( ส่วน Tower จำนวน 185 ยูนิต และ ส่วน Pool Villa จำนวน 2 ยูนิต )
แบบห้องพัก
1 ห้องนอน ขนาด 50 – 57 ตารางเมตร จำนวน 138 ยูนิต
2 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน Duplex ขนาด 106 – 122 ตารางเมตร จำนวน 41 ยูนิต
3 ห้องนอน ขนาด 216 ตารางเมตร จำนวน 4 ยูนิต
4 ห้องนอน Penthouse ขนาด 420 ตารางเมตร จำนวน 2 ยูนิต
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3 เมตร
สิ่งอำนวยความสะดวก
– สระว่ายน้ำ
– ห้องซาวน่า
– ห้องสตรีม
– ห้องออกกำลังกาย (อุปกรณ์ครบ)
– ฺBusiness Lounge
– Landscaped Sky Terrace
จำนวนลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และ ลิฟท์บริการ 1 ตัว
จำนวนที่จอดรถ 192 คัน
ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท
ค่าส่วนกลาง 90 บาทต่อตารางเมตร/ต่อเดือน
ค่ากองทุนส่วนกลาง 900 บาทต่อตารางเมตร (ชำระครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์)
เปิดจองโครงการ 23-24 พฤษภาคม 2558
เจ้าของโครงการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
เบอร์โทรศัพท์ 1749
เวบไซต์โครงการ http://www.saladaeng-one.com
แผนที่โครงการ
ตำแหน่งที่ตั้งโครงการ
โครงการ Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) จะตั้งอยู่ใน ซ.ศาลาแดง 1 ซึ่งห่างจากถนนพระราม 4 ระยะ 80 เมตร และ อยู่ห่างจาก MRT สถานีลุมพินี ประมาณ 450 เมตร รวมทั้งห่างจาก BTS ศาลาแดง ประมาณ 900 เมตร
เราสามารถเข้า-ออกโครงการได้หลายทางอีกด้วยนะคะไม่ว่าจะเป็น
-> ซอยศาลาแดง 1 ฝั่งถนนพระราม 4
-> ซอยสาทร 2 ฝั่งถนนสาทรเหนือ
-> ถนนศาลาแดงฝั่งถนนสีลม (ฺBTS ศาลาแดง)
โรงพยาบาลใกล้ๆโครงการ
-> โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
-> และ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
สถานศึกษาใกล้โครงการ คือ โรงเรียนเซ็นต์โยเซฟคอนเวนต์
**โดยที่กล่าวมาสามารถขับรถหรือนั่งมอร์ไซต์วินประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ
มุมจากบนอาคารจอดรถอื้อจือเหลียง
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าเราจะไปยัง Saladaeng One (ศาลาแดงวัน) กันทางไหนได้บ้าง จะง่ายและสะดวกสบายขนาดไหน…..>>>>
รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT คือ ช่องทางแรกที่เราจะพาทุกท่านเดินทางไปยังโครงการ Saladaeng One ค่ะ
ซึ่งโครงการจะอยู่ใกล้สถานี MRT ถึง 2 สถานีด้วยกันคือ สถานีลุมพินี และสถานีสีลม
1. MRT สถานีลุมพินี
ใช้เวลาเดินจาก MRT สถานีลุมพินี จนถึง Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้นเองค่ะ
1.1 เส้นทางที่ 1 จากแผนที่ด้านบนจะห่างจากโครงการเพียง 450 เมตร หรือ
1.2 เข้าทางซอยสาทร 2 ก็ได้นะคะ ซึ่งทางนี้จะห่างจาก MRT ลุมพินี ประมาณ 550 เมตรค่ะ ถึงจะไกลกว่านิดหน่อยจากการเดินเส้นพระราม 4 แต่เวลาเราเดินจริงๆก็เพลินๆดี บรรยากาศดูร่มรื่น เลยรู้สึกไม่แตกต่างค่ะ ใช้เวลาก็พอๆกันที่ประมาณ 10 นาที
สถานีลุมพินี ประตู 2
->เมื่อลงที่สถานีลุมพินีให้ออกฝั่งประตู 2 เราจะเจออาคาร Q’House ลุมพินี อยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ
->จากนั้นก็เดินข้ามทางม้าลายตรงแยกวิทยุ ผ่านป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจร แล้วเลียบถนนพระราม 4 ไปเรื่อยๆ (ตามรูปด้านล่าง)
->เมื่อเลยแยกวิทยุ มาหน่อยจะผ่านโรงแรม โซฟิเทล โซ แบงคอก
v
->เดินต่อมาอีกนิดจะผ่าน City Street (ซึ่งเป็นศูนย์อาหารที่ราคาย่อมเยาค่ะ)
v
->จนกระทั่งถึงซอยศาลาแดง 1
v
->เลึ้ยวซ้ายเข้าไปภายในซอยศาลาแดง 1 ระหว่างทางจะเห็นร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ
->ตรงไปอีกประมาณ 80 เมตรสำนักงานขายของโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
v
2. MRT สถานีสีลม
จากแผนที่ด้านบนนี้จะเห็นว่าจากสถานีถึงโครงการก็สามารถเดินเข้าได้ 2 ทางเช่นกันค่ะ
ระยะทางจากสถานีถึง Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) จะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีค่ะ
2.1 ผ่านถนนพระราม 4 (ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตร)
->ใช้ทางออกที่ 2 นะคะขึ้นมาจะเห็นโรงแรมดุสิตธานีอยู่ซ้ายมือ
->เดินริมฟุตบาทบนถนนพระราม4 ไปเรื่อยๆ(ซ้ายมือเป็นสวนลุมพินี)
->ประมาณ 670 เมตรจะถึงปากซอยศาลาแดง 1
->เลี้ยวขวาเข้าซอยไปอีกประมาณ 80 เมตรก็ถึงโครงการ Saladaeng One (ศาลาแดงวัน) จะอยู่ซ้ายมือค่ะ (ตามรูปด้านล่าง)
v
หรือเดินอีกทางโดย
2.2 ผ่านถนนศาลาแดง และซอยศาลาแดง 1 (ห่างจากโครงการประมาณ 930 เมตร)
**ทางนี้จะไกลกว่าทางถนนพระราม 4 นะคะ แต่จะร่มรื่นกว่าค่ะ**
-> ใช้ทางออกที่ 2 ค่ะ ขึ้นมาจะเห็นโรงแรมดุสิตธานีอยู่ซ้ายมือเหมือนกันค่ะ
v
-> แต่เส้นนี้ให้เดินริมฟุตบาทชิดทางซ้ายบนถนนสีลมไปเรื่อยๆ ประมาณ 80 เมตร จะถึงถนนศาลาแดง(อยู่ซ้ายมือ)
v
บรรยากาศระหว่างทางก่อนจะถึง ซอยศาลาแดง 1 ในระยะทางประมาณ 450 เมตร ร่มรื่น และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยร้านอาหารตลอดเส้นเลยค่ะ ^^
เมื่อเข้าถนนศาลาแดงจะผ่านซอยศาลาแดง 2 (ด้านขวามือ) ซอยนี้จะทะลุไปถนนคอนแวนต์ได้นะคะ ผ่านหลัง Silom Complex ไป
v
ร้าน “ส้มตำเด้อ”
v
ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านเค้กและเบเกอร์รี่
“Mimy’s (มิมิซึ)”
v
ร้านอาหารอิตาเลี่ยน อาหารฝรั่งก็มีนะคะ
“Zanotti”
v
หรือจะเป็น MK และ Yayoi ก็มีเช่นกัน
v
-> เลี้ยวซ้ายเข้าซอยศาลาแดง 1 ประมาณ 400 เมตรโครงการ Saladaeng One (ศาลาแดงวัน) ทางขวามือ
v
ต่อมาสำหรับผู้ที่สะดวกใช้บริการ BTS ไปยัง Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) กันบ้างค่ะ
BTS สถานีศาลาแดง
หากท่านใดสะดวกใช้บริการ BTS ให้มาลงที่สถานีศาลาแดงค่ะ
-> ออกประตูฝั่ง Silom Complex
-> ให้เดินบนถนนสีลมมุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 4 เพียง 80 เมตรก็จะถึงถนนศาลาแดง(ด้านขวามือ)
-> แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนศาลาแดง เดินตรงไปเรื่อยๆประมาณ 450 เมตร จะเจอซอยศาลาแดง 1 ทางซ้ายมือค่ะ
หันหน้าเข้าซอยศาลาแดง
-> เลี้ยวซ้ายเข้าไปเดินตรงไปประมาณ 400 เมตรโครงการ Saladaeng One (ศาลาแดงวัน)จะทางขวามือ
v
จากการพาไปชมที่ตั้งโครงการครั้งนี้จะเห็นว่าการเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายมากเลยทีเดียวค่ะ
บรรยากาศสองข้างทางนี่ก็ร่มรื่นด้วยต้นไม้ และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยร้านอาหาร หาของกินได้ง่ายมาก ^^
สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินเท้าก็มีพี่มอร์ไซต์วินไว้ให้ใช้บริการนะคะ ค่าบริการก็จะอยู่ที่ประมาณ 20-30 บาทค่ะ
ก่อนจะจบการรีวิวที่ตั้งโครงการ Saladaeng One (ศาลาแดง วัน)
เราภาพเก็บตกภาพสวนลุมพินี, ร้านอาหารในซ.ศาลาแดง 1 และ ร้านอาหารในตึกอื้อจือเหลียง มาฝากค่ะ ^^
ภาพสวนลุมพินี
v
มุมจากสะพานลอยหน้าตึกอื้อจือเหลียง
v
ร้านอาหารในซอยศาลาแดง 1 (จากฝั่งถนนศาลาแดง-ถ.พระราม4)
v
ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารตรงปากซอยศาลาแดง 1 (ฝั่งถ.พระราม4)
v
ร้านอาหาร, ร้านกาแฟในตึกอื้อจือเหลียงก็มีนะคะ
v
เป็นยังไงบ้างคะ แค่เดินออกจากโครงการมาก็มีร้านอาหารอร่อยๆให้ได้เลือกทานกันเพียบเลยใช่มั้ยคะ แถมยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้ได้วิ่งออกกำลังกายและสูดอากาศกัน
บรรยากาศโครงการ
ภาพสระว่ายน้ำและส่วนกลางบนชั้น 30 และ 31
ส่วนFoyerกึ่งภายนอกของอาคาร ตกแต่งผนังด้านบนด้วยหินอ่อนสีดำตัดกับหินอ่อนสีขาว
บรรยากาศโถงล๊อบบี้ออกแบบให้มีเพดานสูงโปร่งจะเน้นการตกแต่งด้วยหินอ่อนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโครงการนี้
มุมมองอาคารจากภายนอก
บรรยากาศภายในห้องพัก
ผังอาคาร
โครงการ Saladaeng One จะประกอบไปด้วย 2 อาคาร ได้แก่ คอนโดมิเนียม ความสูง 33 ชั้นและชั้นใต้ดิน 3 ชั้น 1 อาคาร และ อาคาร Pool Villa สูง 3 ชั้น 1 อาคาร โดยทางเข้า-ออกหลักจะอยู่ติดกับ ซอยศาลาแดง 1 ห่างจากถนนพระราม 4 ประมาณ 80 เมตร
ผังชั้น 1 ในด้านหน้าจะเป็นส่วน Foyer เป็นโถงภายนอกขนาดใหญ่ ถัดเข้าไปจะเป็น Lobby และโถงลิฟท์จะอยู่ด้านในสุดเพื่อขึ้นสู่ห้องพัก ส่วนที่จอดรถจะมีทั้งหมด 7 ชั้น คือ จอดตั้งแต่ชั้น 1-4 และจอดใต้ดิน 3 ชั้น
ผังชั้น 6-10 โดยภายในอาคารจะออกแบบให้โถงทางเดินมีลักษณะเป็นแบบ Atrium คือมีช่องเปิดโล่งจนถึงชั้นบนทำให้บรรยากาศไม่อึดอัด ในแต่ละชั้นจะมีจำนวนยูนิตไม่เกิน 12 ห้อง โดยวิวที่เห็นสวนลุมคือ ห้องทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก
ผังชั้น 11-15
ผังชั้น 30 ชั้นสระว่ายน้ำและฟิตเนส
ผังชั้น 31 จะเป็นห้องสมุดและห้องประชุม
โมเดลอาคาร
Saladaeng One จะเป็นคอนโดมิเนียมแบบอาคารสูง 33 ชั้น 1 อาคาร และ อาคาร Pool Villa สูง 3 ชั้น 1 อาคาร ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น เน้นความเรียบหรู คงความสวยแม้เวลาผ่านไป ภายใต้คอนเซ็ปต์ The One That Matters ใช้เส้นแนวนอนเป็นหลักในงานออกแบบภายนอกอาคาร พร้อมกับการเลือกใช้วัสดุลายหินอ่อนสีขาวเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง facade ตึก โดยรูปร่างอาคารฝั่งที่ติดซอยศาลาแดง 1 จะลด Stepเป็นขั้นบันได ตามระยะร่นในข้อกฏหมายควบคุมอาคาร
ทางเข้าจากซอยศาลาแดง 1 ในด้านทิศเหนืออาคาร จากในภาพอาคารตึกเตี้ยคือห้องแบบPool Villa จำนวน 2 ยูนิต ที่จะเปิดขายเมื่อโครงการสร้างเสร็จเรียบร้อย
อาคารฝั่งด้านทิศตะวันตก โดยห้องแบบPenthouseจะอยู่ในชั้น29 และห้องแบบ Penthouse(Duplex)จะอยู่ที่ชั้น 32และ33
ในผนังด้านนอกจะเลือกใช้หน้าบานกระจกขนาดใหญ่พิเศษ ติดตั้งในองศาที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดแสงสีสะท้อนที่แตกต่างไปในแต่ละช่วงเวลาช่วยให้อาคารดูไม่น่าเบื่อ
โมเดลอาคารด้านทิศใต้และทิศตะวันออก โดยด้านที่จะเห็นวิวสวนลุมคือห้องพักทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก
บรรยากาศภายในสำนักงานขายโครงการ
ภาพด้านนอกของสำนักงานขายที่อยู่ติดกับซอยศาลาแดง1 ตกแต่งดูเรียบหรูเน้นวัสดุหินและกระจก
ทางเดินเพื่อเข้าไปในสำนักงานขาย
โถงรับรองภายในสำนักงานขายที่ออกแบบให้ฝ้าเพดานสูงดูโอ่โถง ตกแต่งด้วยหินอ่อน
ทางเดินไปชมห้องตัวอย่าง โดยตรงกลางจะมีสวนต้นไม้ช่วยสร้างบรรยากาศ
พาชมห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Type 1A-1 ขนาด 55.49 ตร.ม.
ผังห้องพักและรายการเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มา
– ห้องที่ขายจะเป็นห้องแบบ Fully Fitted (ตกแต่งบางส่วน) โครงการให้ เคาน์เตอร์ครัว ครบชุด , ตู้เสื้อผ้า Built-in , ตู้เก็บรองเท้า โดยเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดจะใช้บานพับแบบ Soft-Close และ ฝังหลอดไฟตกแต่งด้านหลังเพื่อส่องสว่างและเพื่อความสวยงามให้ด้วย
– เคาน์เตอร์ครัว Top ผิวด้านบนและผนังด้านหลังส่วนเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์ สามารถทนกรด-ด่างได้ดีและสามารถทำความสะอาดเช็ดออกได้ง่าย พร้อมเตา 2 หัว และที่ดูดควัน ของ Kuppersbrush ให้อ่างล้างจานของ Teka โดยก๊อกอ่างจะเป็นของ Grohe รวมทั้งให้เตาไมโครเวฟพร้อมเตาอบ แบบ Built-in และตู้เย็นแบบ Built-in(ยี่ห้อ Siemens) รวมทั้งให้เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าของ Siemens ,ให้เครื่องปรับอากาศจำนวน 2 เครื่อง (ยี่ห้อ Daikin) ติดตั้งแบบฝังฝ้า
– กลอนประตูห้องพักเป็นแบบก้านโยก
– พื้นห้องพักเป็นพื้นเอนจิเนียร์วูด ความหนาพิเศษ 14 มม. พื้นห้องครัวและพื้นห้องน้ำเป็นหินอ่อน
– พื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องแบบผิวด้าน ติดตั้งไฟแบบ Indirect Light ตรงด้านล่างของราวระเบียงเพื่อความสวยงามและดูแลรักษาง่ายรวมทั้งปลอดภัยเมื่อเปลี่ยนหลอดไฟ
– ห้องน้ำให้อ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์แบบ washlet (ยี่ห้อ TOTO) และ ก๊อกน้ำและอุปกรณ์ฝักบัวของ Grohe และ อ่างอาบน้ำของ American Standard รวมทั้งติดตั้งระบบทำน้ำร้อนมาให้
– โคมไฟติดเพดาน เป็นแบบโคมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า
– สวิตซ์ไฟในห้องเป็นแบบ Home automation ของ Schneider
– ผนังห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว
– ฝ้าเพดานบริเวณติดริมหน้าต่าง จะทำเป็นร่องฝ้า ใช้สำหรับซ่อนรางผ้าม่าน ทำให้เวลาติดตั้งผ้าม่าน จะดูเรียบร้อยสวยงาม
– ระยะพื้นถึงฝ้า 3 เมตร
เข้าไปชมภายในห้องตัวอย่าง
ป้ายด้านหน้าห้องและประตูห้องตัวอย่าง โดยประตูจะมีความสูงถึง 2.7 เมตร เป็นประตูบ้านไม้กรุผิวด้วยวีเนียร์
ลักษณะพื้นด้านหน้าห้องที่อยู่ติดกับโถงทางเดิน ประตูจะถูกร่นเข้าไปและพื้นจะยกระดับขึ้นเล็กน้อยก่อนเข้าห้อง ข้อดีคือช่วยลดฝุ่นจากภายนอกในขณะที่แม่บ้านทำความสะอาดโถงทางเดิน โดยพื้นด้านหน้าห้องจะเป็นหินอ่อนสีดำ
กลอนประตูห้องพักเป็นแบบก้านโยก ด้านข้างประตูจะเป็นตำแหน่งสวิตซ์ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในห้อง Home automation ของ Schneider
มองย้อนไปที่ประตูทางเข้า ในโซนหน้าห้องจะเป็นส่วนครัวถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน
พื้นที่ในส่วนนั่งเล่น โดยห้องพักจะถูกออกแบบให้เป็นห้องที่มีขนาดหน้ากว้างเป็นพิเศษ เพื่อเปิดรับวิวแบบ Panorama โดยห้องขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร จะมีหน้ากว้าง 8.10 เมตร โดยเป็นส่วนที่เปิดรับวิวในห้องนั่งเล่นกว้างถึง 4.5 เมตร และออกแบบให้ประตูระเบียงอยู่ชิดด้านซ้ายและขวาแทนอยู่ตรงกลางเพื่อไม่ให้กรอบประตูขวางสายตา
ตู้เก็บรองเท้าด้านหน้าห้องที่โครงการให้มาลักษณะตามที่แสดงในภาพ ด้านล่างตู้ติดไฟซ่อนเพื่อความสวยงาม
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวที่โครงการให้มา ด้านบนสามารถเปิดเพื่อเก็บของได้ ลักษณะตามที่แสดงในภาพ
อ่างล้างจานของ Teka โดยก๊อกอ่างจะเป็นของ Grohe ที่โครงการให้มา
เตา 2 หัว และที่ดูดควัน ของ Kuppersbrush และด้านข้างซ้ายมือจะให้เตาไมโครเวฟพร้อมเตาอบ แบบ Built-in (ยี่ห้อ Siemens)
ตู้เย็นแบบ Built-in (ยี่ห้อ Siemens) รวมทั้งให้เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าของ Siemens ด้วย
ด้านล่างเตาไฟฟ้าจะมีตู้สำหรับเก็บของ
เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้เก็บของที่โครงการให้มาลักษณะตามที่แสดงในภาพ
พื้นส่วนครัวที่เป็นหินอ่อนและพื้นห้องนั่งเล่นที่เป็นไม้เอนจิเนียร์ในส่วนที่เชื่อมกันจะใช้เส้นอลูมิเนียมเก็บงาน Detail และจากในภาพสังเกตที่บัวพื้นจะออกแบบให้เรียบเป็นระนาบเดียวกับผนัง
หน้าต่างระเบียงจะมีความกว้างตลอดแนวห้องและสูงจรดเพดานห้อง ส่วนระเบียงจะออกแบบให้เปิดโล่งมีราวกั้นเป็นบานกระจกตลอดแนว ด้านบนระเบียงไม่มีอะไรบดบังเพื่อสามารถรับวิวได้อย่างเต็มที่
ฝ้าเพดานบริเวณติดริมหน้าต่าง จะทำเป็นร่องฝ้า ใช้สำหรับซ่อนรางผ้าม่าน ทำให้เวลาติดตั้งผ้าม่าน จะดูเรียบร้อยสวยงาม ส่วนพื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องแบบผิวด้าน ติดตั้งไฟแบบ Indirect Light ตรงด้านล่างของราวระเบียงเพื่อความสวยงามและดูแลรักษาง่ายรวมทั้งปลอดภัยเมื่อเปลี่ยนหลอดไฟ
ส่วนระเบียงมีพื้นที่สำหรับวางคอยด์ร้อนแอร์โดยออกแบบให้มีกล่องปิดมิดชิดเพื่อความเรียบร้อย
ห้องพักจะติดตั้งแอร์แบบฝังในฝ้าเพดานแบบเรียบกับเพดานไร้ขอบ
สวิตซ์ไฟในห้องเป็นแบบ Home automation ของ Schneider
ถัดไปจะเป็นส่วนของห้องนอนที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น โดยห้องจริงจะมีประตูบานเปิดเป็นบ้านไม้กรุผิวด้วยวีเนียร์สูง 2.7 ม. แต่ห้องตัวอย่างไม่ได้ถูกแสดงไว้
ภายในห้องนอน บริเวณหน้าต่าง จะมี Bay window ออกแบบให้เป็นมุมเฉียง มีขอบเล็กๆสำหรับนั่งเล่น หรือดูวิวได้ แต่อาจนั่งไม่ค่อยสบายนัก โดยการทำหน้าต่างมีมุมเฉียงจะช่วยให้รูปด้านภายนอกอาคารเกิดมุมมองที่ทำให้อาคารดูสวยขึ้น
หน้าต่างภายในห้องนอนจะเปิดได้เล็กน้อยเท่านั้นเพื่อการระบายอากาศและเพื่อความปลอดภัย
ห้องน้ำจะออกแบบผนังห้องน้ำและเป็นประตูห้องน้ำเป็นแบบกระจกใสแบบ Sexy Bathroom ข้อดีทำให้ห้องไม่ดูทึบ
มองไปที่ประตูหน้าห้องนอน ส่วนชั้นวางทีวีและการตกแต่งผนัง ทางโครงการจะไม่ได้ให้มาด้วย
มองไปยังหัวเตียง
บริเวณหัวเตียงจะมี สวิตซ์ไฟแบบ Home automation เช่นกัน
ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มาในตำแหน่งหน้าห้องน้ำ มีลักษณะตามที่แสดงในภาพ มีหน้าบานเป็นกระจกเงา
โต๊ะเครื่องแป้งที่โครงการให้มา
อ่างอาบน้ำที่โครงการให้มา ประดับด้วยหินอ่อนสีดำ
เข้ามาภายในห้องน้ำ โดยอ่างอาบน้ำจะเป็นของ American Standard
อุปกรณ์อ่างอาบน้ำและมือจับฝักบัวแบบมีด้ามเหมือนไมโครโฟนที่โครงการให้มา
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่โครงการให้มาลักษณะตามที่แสดงในภาพ ปูด้วยหินอ่อนสีดำ มีปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำ โดยก๊อกน้ำจะเป็นของ Grohe
ชุดสุขภัณฑ์แบบ washlet (ยี่ห้อ TOTO)
ด้านหลังกระจกเงาจะมีบานเปิดสำหรับเก็บของได้
ภายในห้องน้ำส่วนอาบน้ำจะมี Shower box กั้นส่วนเปียกและแห้ง เป็นบานกระจกเปลือยสูงจรดเพดาน
พื้นส่วนอาบน้ำเป็นหินอ่อนสีดำ
ส่วนร่องระบายน้ำ จะออกแบบเป็นหินที่สามารถยกปิดเพื่อความเรียบร้อย
ชุดฝักบัวที่โครงการให้มาของ Grohe จะมีระบบจำความร้อนที่อาบหลังสุดไว้
บริเวณด้านหลังฝักบัวจะมีปุ่มกดเลือกฟังก์ชั่นให้น้ำมีลักษณะการพ่นตามที่เราต้องการได้
ด้านบนจะมีฝักบัวแบบ Rain Shower ให้ด้วย
พาชมห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน Type 2A-1 ขนาด 116.55 ตร.ม.
ผังห้องพักและรายการเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มา
– ห้องที่ขายจะเป็นห้องแบบ Fully Fitted (ตกแต่งบางส่วน) โครงการให้ เคาน์เตอร์ครัว ครบชุด , ตู้เสื้อผ้า Built-in , ตู้เก็บรองเท้าและตู้เก็บของ โดยเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดจะใช้บานพับแบบ Soft-Close และ ฝังหลอดไฟตกแต่งด้านหลังเพื่อส่องสว่างและเพื่อความสวยงามให้ด้วย
– เคาน์เตอร์ครัว Top ผิวด้านบนและผนังด้านหลังส่วนเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์ สามารถทนกรด-ด่างได้ดีและสามารถทำความสะอาดเช็ดออกได้ง่าย พร้อมเตา 4 หัว และที่ดูดควัน ของ Kuppersbrush ให้อ่างล้างจานของ Teka โดยก๊อกอ่างจะเป็นของ Grohe รวมทั้งให้เตาไมโครเวฟพร้อมเตาอบ แบบ Built-in และตู้เย็นแบบ Built-in(ยี่ห้อ Siemens) รวมทั้งให้เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าของ Siemens ,ให้เครื่องปรับอากาศจำนวน 2 เครื่อง (ยี่ห้อ Daikin) ติดตั้งแบบฝังฝ้า
– กลอนประตูห้องพักเป็นแบบก้านโยก
– พื้นห้องพักเป็นพื้นเอนจิเนียร์วูด ความหนาพิเศษ 14 มม. พื้นห้องครัวและพื้นห้องน้ำเป็นหินอ่อน
– พื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องแบบผิวด้าน ติดตั้งไฟแบบ Indirect Light ตรงด้านล่างของราวระเบียงเพื่อความสวยงามและดูแลรักษาง่ายรวมทั้งปลอดภัยเมื่อเปลี่ยนหลอดไฟ
– ห้องน้ำให้อ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์แบบ washlet (ยี่ห้อ TOTO) และ ก๊อกน้ำและอุปกรณ์ฝักบัวของ Grohe และ อ่างอาบน้ำของ American Standard รวมทั้งติดตั้งระบบทำน้ำร้อนมาให้
– โคมไฟติดเพดาน เป็นแบบโคมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า
– สวิตซ์ไฟในห้องเป็นแบบ Home automation ของ Schneider
– ผนังห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว
– ฝ้าเพดานบริเวณติดริมหน้าต่าง จะทำเป็นร่องฝ้า ใช้สำหรับซ่อนรางผ้าม่าน ทำให้เวลาติดตั้งผ้าม่าน จะดูเรียบร้อยสวยงาม
– ระยะพื้นถึงฝ้า 3 เมตร
ลักษณะพื้นด้านหน้าห้องที่อยู่ติดกับโถงทางเดิน ประตูจะถูกร่นเข้าไปและพื้นจะยกระดับขึ้นเล็กน้อยก่อนเข้าห้อง ข้อดีคือช่วยลดฝุ่นจากภายนอกในขณะที่แม่บ้านทำความสะอาดโถงทางเดิน โดยพื้นด้านหน้าห้องจะเป็นหินอ่อนสีดำ
กลอนประตูห้องพักเป็นแบบก้านโยก
ด้านข้างประตูจะเป็นตำแหน่งสวิตซ์ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในห้อง Home automation ของ Schneider
ตู้เก็บของและตู้เก็บรองเท้าด้านหน้าห้องที่โครงการให้มา ลักษณะตามที่แสดงในภาพ
ตู้เก็บของจะมีขนาดใหญ่ สามารถเก็บหรือวางกระเป๋าเดินทางได้ ด้านบนมีที่แขวนเสื้อด้วย
พื้นที่ในส่วนนั่งเล่น หน้าต่างเปิดรับวิวแบบ Panorama โดยออกแบบให้ประตูระเบียงอยู่ชิดด้านซ้ายและขวาแทนอยู่ตรงกลางเพื่อไม่ให้กรอบประตูขวางสายตา
โดยห้องจริงผนังจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว
หน้าต่างระเบียงจะมีความกว้างตลอดแนวห้องและสูงจรดเพดานห้อง ส่วนระเบียงจะออกแบบให้เปิดโล่งมีราวกั้นเป็นบานกระจกตลอดแนว ด้านบนระเบียงไม่มีอะไรบดบังเพื่อสามารถรับวิวได้อย่างเต็มที่
ฝ้าเพดานบริเวณติดริมหน้าต่าง จะทำเป็นร่องฝ้า ใช้สำหรับซ่อนรางผ้าม่าน ทำให้เวลาติดตั้งผ้าม่าน จะดูเรียบร้อยสวยงาม ส่วนพื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องแบบผิวด้าน ติดตั้งไฟแบบ Indirect Light ตรงด้านล่างของราวระเบียงเพื่อความสวยงามและดูแลรักษาง่ายรวมทั้งปลอดภัยเมื่อเปลี่ยนหลอดไฟ
ส่วนระเบียงมีพื้นที่สำหรับวางคอยด์ร้อนแอร์โดยออกแบบให้มีกล่องปิดมิดชิดเพื่อความเรียบร้อย
มองย้อนไปที่ประตูทางเข้า ในโซนหน้าห้องจะเป็นส่วนครัว มองไปที่ด้านบนจะเห็นแอร์แบบฝังในฝ้าเพดานแบบเรียบไร้ขอบ
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวที่โครงการให้มา ลักษณะตามที่แสดงในภาพ
สำหรับห้องแบบ 2ห้องนอน อ่างล้างจานจะเป็นแบบ2หลุมของ Teka โดยก๊อกอ่างจะเป็นของ Grohe
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวที่โครงการให้มา ด้านบนสามารถเปิดเพื่อเก็บของได้ ลักษณะตามที่แสดงในภาพ
เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้เก็บของที่โครงการให้มาลักษณะตามที่แสดงในภาพ
ตู้เย็นแบบ Built-in แบบ 2 ตู้ ที่โครงการให้มา (ยี่ห้อ Siemens)
พื้นส่วนครัวที่เป็นหินอ่อนและพื้นห้องนั่งเล่นที่เป็นไม้เอนจิเนียร์ในส่วนที่เชื่อมกันจะใช้เส้นอลูมิเนียมเก็บงาน Detail และจากในภาพสังเกตที่บัวพื้นจะออกแบบให้เรียบเป็นระนาบเดียวกับผนัง
สำหรับห้องแบบ 2ห้องนอนจะออกแบบให้มีช่องวางเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าโดยเฉพาะมีลักษณะตามที่แสดงในภาพ
ส่วนทางเดินไปยังห้องนอน
ภายในห้องน้ำที่อยู่ติดกับทางเดิน โดยห้องจริงจะมีประตูห้องน้ำจะเป็นบานกระจกใส แต่ห้องตัวอย่างไม่ได้ถูกแสดงไว้
อุปกรณ์ก๊อกน้ำของ Grohe โดยภายในห้องน้ำจะติดตั้งระบบทำน้ำร้อนมาให้
ชุดสุขภัณฑ์แบบ washlet (ยี่ห้อ TOTO) และด้านหลังกระจกเงาจะมีบานเปิดสำหรับเก็บของได้
ภายในห้องน้ำส่วนอาบน้ำจะมีฉากกระจกกั้นส่วนเปียกและแห้ง เป็นบานกระจกเปลือย
ชุดฝักบัวที่โครงการให้มา ด้านบนติดตั้งพัดลมระบายอากาศ
ทางเดินไปยังห้องนอน ด้านซ้ายมือเป็นห้องนอนใหญ่ ด้านขวามือเป็นห้องนอนเล็ก
ภายในห้องนอนเล็กจะให้เฉพาะตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของลักษณะตามที่แสดงในภาพ
ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มา มีหน้าบานเป็นกระจกเงา
ภายในห้องนอน บริเวณหน้าต่าง จะมี Bay window ออกแบบให้เป็นมุมเฉียง มีขอบล็กๆสำหรับนั่งเล่น หรือดูวิวได้
สวิตซ์ไฟบริเวณหัวเตียง
ภายในห้องห้องนอน ของที่ให้จะไม่รวมเตียงนอนและของตกแต่ง ผนังห้องจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว
ฝ้าเพดานบริเวณติดริมหน้าต่าง จะทำเป็นร่องฝ้า ใช้สำหรับซ่อนรางผ้าม่าน
มือจับหน้าต่าง
เข้าไปภายในห้องนอนใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามห้องนอนเล็ก
ตู้เก็บของด้านหน้าห้องที่โครงการให้มา
ภายในห้องนอนใหญ่
โต๊ะเครื่องแป้งแบบยาวที่โครงการให้มาด้วย
ตู้เสื้อผ้าตำแหน่งหน้าห้องน้ำที่โครงการให้มา มีหน้าบานเป็นกระจกเงา
ตู้เสื้อผ้าตำแหน่งหน้าห้องน้ำที่โครงการให้มา มีหน้าบานเป็นกระจกเงา
ด้านหลังกระจกเงาจะเป็นตู้เก็บของ มีปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำ
โครงการให้ชุดสุขภัณฑ์แบบ washlet (ยี่ห้อ TOTO) ตามที่แสดงในภาพ
ด้านในสุดของห้องน้ำที่อยู่ติดกับหน้าต่าง จะเป็นส่วนอ่างอาบน้ำที่โครงการให้มาลักษณะตามที่แสดงในภาพ ประดับด้วยหินอ่อนสีขาว
หน้าต่างที่ติดอ่างอาบน้ำเป็นกระจกแบบเข้ามุมสามารถมองวิวได้โดยรอบ
ส่วนอาบน้ำจะมี Shower box กั้นส่วนเปียกและแห้ง เป็นบานกระจกเปลือยสูงจรดเพดาน
ชุดฝักบัวที่โครงการให้มา
ราคาขาย (เดือนพฤษภาคม 58)
ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท (สำหรับห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 50 ตร.ม.)
เงินจอง,เงินทำสัญญาและเงินผ่อนดาน์ รวมประมาณ 20% แบ่งเป็น
– 1 ห้องนอน จอง 150,000 บาท ทำสัญญา 500,000 บาท
– 2 ห้องนอน จอง 300,000 บาท ทำสัญญา 1,500,000 บาท
– 3 ห้องนอน จอง 1,000,000 บาท ทำสัญญา 6,700,000 บาท
ยอดชำระวันโอนกรรมสิทธิ์ ( เมื่ออาคารก่อสร้างแล้วเสร็จ ) ชำระที่เหลือ 80%
ค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์
– ค่าส่วนกลาง 90 บาทต่อตารางเมตร/ต่อเดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
– ค่ากองทุนส่วนกลาง 900 บาทต่อตารางเมตร (ชำระครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์)
บทสรุปหลังจากเยี่ยมชมโครงการ
โครงการ Saladaeng One (ศาลาแดงวัน) โดย บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury โครงการแรกที่ ทาง SC Asset พัฒนา โดยโครงการนี้จะใช้แบรนด์ Saladaeng One เพียงโครงการเดียวเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์
– จุดเด่นของโครงการ
โครงการ Saladaeng One เป็นคอนโดมิเนียมในระดับ Super Luxury บนทำเลย่านสาทร-สีลม ที่เป็นย่านธุรกิจและแหล่ง Hang Out ใจกลางเมือง ตัวโครงการอยู่ในซอยศาลาแดง 1 ตรงข้ามตึกอื้อจื่อเหลียง ห่างจากถนนพระราม 4 ประมาณ 80 เมตร โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า 3 สถานี ได้แก่ BTS ศาลาแดง , MRT สีลม และ MRT ลุมพินี และอยู่ใกล้สวนลุมพินี สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เหมือนเป็นปอดของชาวกรุงเทพฯ โดยในชั้นสูงๆของอาคารด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก จะสามารถเห็นวิวของสวนลุมพินีได้
– ด้านการการออกแบบโครงการ
ตัวโครงการ Saladaeng One จะเป็นคอนโดมิเนียมแบบอาคารสูง 33 ชั้น 1 อาคาร และ อาคาร Pool Villa สูง 3 ชั้น 1 อาคาร ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น เน้นความเรียบหรู คงความสวยแม้เวลาผ่านไป ภายใต้คอนเซ็ปต์ The One That Matters ใช้เส้นแนวนอนเป็นหลักในงานออกแบบภายนอกอาคาร พร้อมกับการเลือกใช้วัสดุลายหินอ่อนสีขาวเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง facade ตึก นอกจากนี้โครงการเลือกใช้หน้าบานกระจกขนาดใหญ่พิเศษ ติดตั้งในองศาที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดแสงสีสะท้อนที่แตกต่างไปในแต่ละช่วงเวลา ส่วนภายในอาคารจะออกแบบให้มีโถงทางเดินมีลักษณะเป็นแบบ Atrium คือมีช่องเปิดโล่งจนถึงชั้นบนทำให้บรรยากาศไม่อึดอัด ในแต่ละชั้นจะมีจำนวนยูนิตไม่เกิน 12 ห้องทำให้ไม่วุ่นวาย ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จะมีให้อย่างครบครัน ประกอบด้วย ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำพร้อม Sauna & Steam, Business Lounge และ Sky Terrace
โดยโครงการ Saladaeng One จะมีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว (เฉลี่ย 62 ยูนิต/ ลิฟท์โดยสาร1ตัว) และให้จำนวนที่จอดรถ 192 คัน หรือ ประมาณกว่า 100% ของจำนวนห้องพัก
– การออกแบบห้องพัก
ห้องพักจะถูกออกแบบให้เป็นห้องที่มีขนาดหน้ากว้างเป็นพิเศษ เพื่อเปิดรับวิวแบบ Panorama โดยห้องขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร จะมีหน้ากว้าง 8.10 เมตร โดยเป็นส่วนที่เปิดรับวิวในห้องนั่งเล่นกว้างถึง 4.5 เมตร ในขณะที่ห้องมาตรฐานของโครงการทั่วไป อยู่ที่ 3.0-3.5 เมตร เมื่อรวมกับกระจกขนาดความสูงเต็มจากพื้น ถึงเพดาน ทำให้รับรู้ถึงการใช้ชีวิตในห้องที่มีขนาดใหญ่มาก สำหรับห้องขนาด 2 ห้องนอน จะมีหน้ากว้างมากถึง 16 เมตร ซึ่งสามารถเปิดรับวิวได้อย่างเต็มที่ และภายในห้องพักออกแบบให้มีความสูงของเพดาน 3 เมตร ที่ดูโปร่งโล่งและโอ่โถง ส่วนระเบียงจะออกแบบให้เปิดโล่งมีราวกั้นเป็นบานกระจกตลอดแนว ด้านบนระเบียงไม่มีอะไรบดบังเพื่อสามารถรับวิวได้อย่างเต็มที่
– ด้านวัสดุตกแต่งและอุปกรณ์ที่ให้
ภายในห้องพักตกแต่งแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in เช่น ตู้เสื้อผ้า, ตู้เก็บรองเท้า, ชุดเคาน์เตอร์ครัว , ห้องครัวที่มาพร้อมตู้เย็นและไมโครเวฟแบบบิลท์อิน, ตู้เก็บของในห้องน้ำ ฯลฯ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่ให้จะใช้บานพับแบบ Soft-Close และ ภายในห้องน้ำจะปูด้วยวัสดุหินอ่อนทั้งห้อง มีชุดสุขภัณฑ์ , ชุดฝักบัว, อ่างอาบน้ำ และ มีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยแยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง และจะออกแบบผนังห้องน้ำและเป็นประตูห้องน้ำเป็นแบบกระจกใสแบบ Sexy Bathroom ข้อดีทำให้ห้องไม่ดูทึบ ส่วนสวิตซ์ในห้องจะใช้เทคโนโลยีแบบ Home automation สามารถควบคุมแสงสว่างและความเย็นได้อย่างสะดวกสบาย โดยรวมวัสดุที่ให้ทั้งหมดเป็นวัสดุในแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม