พาชมคอนโด “KnightsBridge Prime Onnut” ความเป็นที่สุดในทุกด้าน บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อทุกความสะดวกสบาย

พาชม “KnightsBridge Prime Onnut” (ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช) คอนโดมิเนียมที่จะให้ความเป็นที่สุดในทุกด้าน ภายใต้แนวความคิด “ONLY THE PRIME MOMENT IN LIFE MATTERS” บนทำเลศูนย์กลางโครงข่ายรถไฟฟ้า และจุดเชื่อมต่อ CBD กับ ย่านเศรษฐกิจฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ

 

ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม สูง 47 จำนวน 1 อาคาร

ที่ตั้งโครงการ : ถนนสุขุมวิท 77 ตำบลพระโขนงเหนือ อำเภอวัฒนา จังหวัด กรุงเทพ 10260

เนื้อที่โครงการ : 2-1-72 ไร่

จำนวนยูนิต : ห้องพัก 600 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต

แบบห้องพักอาศัย :

– Studio ขนาด 22 ตร.ม.

– One-Bedroom ขนาด 26 ตร.ม.

– One-Bedplus ขนาด 31 ตร.ม.

– Two-Bedroom ขนาด 55 ตร.ม.

สิ่งอำนวยความสะดวก :

ชั้นล่าง (Ground floor)

– Trail Running Track

– สวนหย่อม (Secret Garden)

– Grand Lobby

– Hotel Service

– Business Lounge

– ที่ชาร์จรถไฟฟ้า (EV)

ชั้นบน (High zone)

– สระว่ายน้ำ

– Steam Room

– ฟิตเนส

– Boxing Gym

– Sky Co-Working Space

– ห้องประชุม

– Sky Irish Social Club

– ห้องทำอาหาร (Sky Co-Culinary Space)

– Sky Lounge & Garden

มูลค่าโครงการ :  2,553 ล้านบาท

จำนวนที่จอดรถ : 65% (ไม่รวมซ้อนคัน)

ความสูงของเพดาน : 3 เมตร

ราคาเริ่มต้น : 2.69 ล้านบาท*

ค่าส่วนกลาง : 55 บาท/ตร.ม./เดือน

ค่ากองทุน : N/A

เริ่มก่อสร้างโครงการ : ไตรมาส 1 ปี 2561

คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ : ไตรมาส 4  ปี 2563

เจ้าของโครงการ : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

เบอร์โทรศัพท์ : 020-300-000

เว็บไซต์ : http://knightsbridge.origin.co.th/onnut/

แผนที่โครงการ :


 

ส่องทำเล“KnightsBridge Prime Onnut”

“KnightsBridge Prime Onnut” (ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช) เป็นคอนโดมิเนียม High rise ตัวใหม่ล่าสุดของ Developer ชื่อดังอย่าง Origin Property  ตั้งอยู่บนที่ดิน ใกล้กับโครงข่ายรถไฟฟ้าถึง 2 สายได้แก่ สถานีอ่อนนุช สายสีเขียว (สุขุมวิท) ที่เชื่อมต่อระหว่างใจกลาง CBD ของกรุงเทพฯ กับส่วนต่อขยายโซนตะวันออกทางสมุทรปราการ และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ไม่เพียงเท่านั้น บริเวณที่ตั้งโครงการยังสามารถเดินทางไปสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิได้สะดวก ด้วยการเดินทางประมาณ 20 นาที(18 กม.) หรือจะเดินทางด้วย รถไฟฟ้า Airport rail link ก็อยู่ไม่ไกลนัก ทั้งนี้หากพูดถึงการ เดินทางด้วยรถยนต์ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจากโครงการ “KnightsBridge Prime Onnut”  อยู่ใกล้กับจุดทางขึ้น-ลงทางด่วนถึง 2 จุดคือ รามอินทรา-อาจณรงค์ และเฉลิมมหานคร

 

สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช

 

สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

 

ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ ไม่เพียงแต่จะทำให้การเข้าถึง “KnightsBridge Prime Onnut”  เป็นเรื่องง่าย บริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับย่าน Hangout ที่เป็นที่รู้จักกันดีของกรุงเทพฯ อย่างย่านทองหล่อ เอกมัย โดยใช้เวลา เดินทางไปเพียง 10 นาทีเท่านั้น

 

ย่านทองหล่อ แหล่ง Hangout ของคนกรุงเทพ

 

นอกจากย่าน Hangout ที่โด่งดังแล้วบริเวณนี้ยังมีแหล่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันให้สามารถเลือกได้ตามความต้องการ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนต์ คอมมูนิตี้มอลล์ รวมไปถึงสถานศึกษาอย่างโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep, โรงเรียนนานาชาติ Saint Andrew หรือมหาวิทยาลัยกรุงเทพ อีกทั้งยังมีสถานพยาบาลชั้นนำอย่าง โรงพยาบาล กล้วยน้ำไท หรือโรงพยาบาลสุขุมวิท ไว้รองรับ

 

Habito mall ภายในโครงการ T77 คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ

 

Summer Hill พระโขนง คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในย่านนี้

 

โครงการอยู่ห่างเพียง 3 กม. จาก Gateway เอกมัย

 

4 กม. จาก Major เอกมัย

 

และ 7 กม. จาก Emquatier

 

โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ที่อยู่ใกล้ BTS ทองหล่อ

 

4 กม. จากโรงพยาบาลสุขุมวิท

 

นอกจากนั้น อ่อนนุช ยังถือเป็นรอยต่อระหว่างใจกลางเมืองของกรุงเทพฯกับทางออกสู่ย่าน ชานเมือง ทำให้บริเวณแยกอ่อนนุชมีศักยภาพเป็น Center ของการขยายตัวเป็นชุมชน Expat และยังเป็นจุดขยายตัวของพื้นที่ สุขุมวิทตอนกลาง (Mid-Sukhumvit) จากองค์ประกอบหลากหลายส่วนที่มีความสมบูรณ์ และศักยภาพที่สามารถเจริญ เติบโตได้ เช่น การขยายตัวจาก Demand ความต้องการที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสมของชาวต่างชาติ ความสะดวกสบายใน การใช้ชีวิต การขยายตัวของทำเลที่ตั้ง ที่พักอาศัย คอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรม และโรงเรียนนานาชาติต่างๆ อีกทั้งยัง สามารถเดินทางไปสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิได้อย่างสะดวก ด้วยเหตุนี้คงไม่แปลก ถ้าจะเห็นว่ามีโครงการใหญ่หลากหลาย โครงการ เกิดขึ้นบริเวณย่านอ่อนนุช หนึ่งในนั้นคือโครงการ T77 ที่คาดว่าจะเป็นเมืองของ Expat ในอนาคต เนื่องด้วยภายใน โครงการจะมีทั้งโรงเรียนนานาชาติ คอมมูนิตี้มอลล์ และที่พักอาศัย โดยโครงการ T77 ตั้งอยู่บริเวณตรงข้าม “KnightsBridge Prime Onnut”

 

ทางเข้าโครงการ T77

 

ในวันนี้ทีมงาน Kobkid.com ได้เดินทางมาเยี่ยมชมโครงการ “KnightsBridge Prime Onnut” (ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช) ที่ตั้งบนถนนอ่อนนุช โดยเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า BTS  ลงที่สถานีอ่อนนุช ทางออกที่ 1

 

แผนที่บริเวณสถานี BTS อ่อนนุช (คลิ๊กที่ภาพ เพื่อดูขยายภาพใหญ่)

 

โครงการเมกะโปรเจค Century the movie plaza ที่กำลังก่อสร้างอยู่ติดกับ BTS อ่อนนุช 

 

โดยอีกฟากถนนจะเป็นที่ตั้งของ Tesco Lotus อ่อนนุช แหล่งจับจ่ายที่สำคัญของคนในย่านนี้

 

เดินตรงเพื่อมุ่งหน้าไปยังหน้าปากถนนอ่อนนุช จะพบร้านค้า และร้านอาหารข้างทางมากมาย มีคนเดินกันขวักไขว่ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของพื้นที่ที่มีผู้มาอยู่อาศัยมากมาย

 

เดินตรงมาอีกไม่ไกล ก็จะถึงหัวมุมถนนอ่อนนุช

 

เส้นถนนอ่อนนุช เป็นเส้นถนนที่มีความต้องการพักอาศัยสูงและเป็นย่านเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

 

ตลอดทางที่เดินเข้ามาจะพบร้านต่างๆตลอดทาง ทั้งตลาด ร้านอาหาร ร้านน้ำ ร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ร้านขายยา

 

เดินตรงเข้าอีกนิดเดียว ก็จะเจอกับ Big C อ่อนนุช ซึ่งตั้งอยู่เกือบติดกับโครงการ “KnightsBridge Prime Onnut” 

 

เนื่องจากเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีคนมาใช้บริการอย่างหนาแน่น ทำให้บริเวณหน้า Big C อ่อนนุช เป็นเหมือนกับ Hub เล็กๆ ที่มี ทั้งวินมอเตอร์ไซต์ และเป็นจุดจอดรถโดยสารสาธารณะที่ผู้คนแถวนี้จะใช้สัญจรภายในซอย

 

ถัดจาก Big C จะมีอาคารร้านค้า 4-5 คูหา ก่อนจะถึงโครงการ “KnightsBridge Prime Onnut” 

 

มาถึงที่ตั้งโครงการ ก็จะพบกำแพงสีส้มขนาดใหญ่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น ซึ่งปัจจุบันจะเป็นที่ตั้งของ Sale gallery โครงการ “KnightsBridge Prime Onnut”

จากตรงนี้เมื่อเยื้องไปฝั่งตรงข้ามจะพบกับคอนโดข้างเคียงและทางเข้าของโครงการ T77 ที่คาดว่าจะเป็นเมืองของ Expat ในอนาคต

 

ทางเข้าของโครงการ T77

 

เข้ามาภายใน Sale gallery จะพบกับการตกแต่งที่หรูหรา การใช้สี และเส้นสายที่โดดเด่น แสดงออกถึงแนวความคิดในการ ออกแบบของโครงการ

 

โครงการ “KnightsBridge Prime Onnut”  เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ย่านอ่อนนุช ด้วยมูลค่าการลงทุนถึง 2,553 ล้านบาท ประกอบด้วยอาคารสูง 47 ชั้น ถือว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในย่านนี้ โดยมีที่พักอาศัย ทั้งหมด 600 ยูนิต

 

นอกจากความสูงของโครงการนี้จะเป็นที่สุดแล้ว ที่นี่ยังให้ความพิเศษกับผู้อยู่อาศัยโดยการมีที่จอดรถอัตโนมัติแบบ Auto parking สูงสุดถึง 65% พร้อมที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ถึง 2 จุด
สำหรับตัวอาคารได้ออกแบบให้มีลักษณะโดดเด่น หรูหรา ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ และเส้นสายที่คมชัด ตามแนวความ คิดของโครงการ “PRIME ทุกรูปแบบของ LIFESTYLE”

 

บรรยากาศภายในโครงการ

ด้วยแนวความคิดที่จะเป็นที่สุดของการใช้ชีวิต “KnightsBridge Prime Onnut” (ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช) จึงออกแบบให้มีส่วนกลางแบบเต็มๆ floor (Full Floor Facility) ถึง 3 ชั้น และพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่ โดยส่วนกลางประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ตั้งแต่ชั้นล่าง ที่จะมีทั้งสวนหย่อมให้ได้ผ่อนคลาย และ Trail Running Track ให้ได้ออกกำลังกาย รวมทั้ง Business Lounge ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในสังคมปัจจุบัน

เมื่อเดินเข้ามาถึงจะพบกับ Lobby ที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมเส้นสาย และวัสดุที่โดดเด่น

 

ส่วนโซนชั้นบน จะประกอบไปด้วย ฟิตเนส และสระว่ายน้ำที่เปิดรับวิวได้เต็มที่ถึง 3 ทิศ Boxing Gym และ Social Club ขนาดใหญ่ ที่ได้ถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกัน ถือเป็นการได้ใช้ชีวิตแบบ Prime ตาม คอนเซปท์หลักของโครงการอย่างแท้จริง

Sky Irish Social Club พื้นที่ที่สามารถนั่งคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือนั่งผ่อนคลาย ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายพร้อมวิวที่ สวยงามบนยอดตึกที่สูงที่สุดในย่านอ่อนนุช

 

Sky Co-Culinary Space พื้นที่ที่ใช้ทำอาหารร่วมกันได้

 

Sky Lounge กับบรรยากาศที่สามารถสังสรรค์ได้อย่างผ่อนคลาย ในบรรยากาศที่ตกแต่งได้อย่างหรูหราด้วย Lighting และเส้นสายที่ล้ำสมัย

 

Sky Co-Working Space อีกพื้นที่ที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันได้อย่างมีคุณภาพ


 

ผังอาคาร

เป็นการวางผังอาคาร โดยให้มีทางเข้าอยู่ทางถนนสุขุมวิท 77 หรือ ถนนอ่อนนุช และตัวอาคารถอยไปอยู่บริเวณกลางพื้นที่ เพื่อ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัย และยังคงออกแบบให้มีสวนหย่อมขนาดใหญ่เป็นเหมือน buffer ให้กับตัวอาคาร เพื่อ กรองเสียง ความพลุกพล่าน และมลภาวะต่างๆ รวมถึงสร้างบรรยากาศที่ดีก่อนเข้าตัวอาคาร

โดยภายในอาคารชั้น Ground นี้จะมี Grand Lobby ขนาดใหญ่ และด้านหลังจะเป็นส่วยไปยังที่จอดรถแบบ Automatic Parking   โดยชั้น 2- 15 จะเป็นชั้นจอดแบบ Automatic Parking   และยังมี EV Charger (ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า) 2 จุด ให้ด้วย

 

ชั้น 16-36 ส่วนพักอาศัย แต่ละชั้นจะมีทั้งหมด 23 ยูนิตโดยเรียงตัวยาวตามทิศตะวันออก และ ตะวันตก  โดยข้อดีของฝั่งทิศตะวันตกในชั้นสูงๆ จะสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวพื้นที่สีเขียวของบางกระเจ้าได้อย่างเต็มตา

 

ชั้น 37 เป็น Full Floor Facility โดยชั้นนี้จะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ ที่เปิดรับวิวได้เต็มที่ถึง 3 ทิศ (ฝั่งเหนือ-ตะวันตก-ตะวันออก)  รวมถึง ฟิตเนส Boxing  gym ที่เปิดรับวิวได้เต็มที่ถึง 3 ทิศ เช่นกัน (ฝั่งใต้-ตะวันตก-ตะวันออก) และ มี Social Club ขนาดใหญ่ ออกแบบให้เชื่อมต่อถึงกัน

 

ชั้น 38 ชั้นนี้เป็น Full Floor Facility เช่นเดียวกับชั้น 37 โดยชั้นนี้จะเป็นอีกส่วนนึงของ Social club ที่ต่อเชื่อมกับด้านล่าง

 

ชั้น 39-47 เป็นชั้นของส่วนพักอาศัยที่มีห้องที่ใหญ่ขึ้นจากการ Stack ของอาคาร ทำให้ชั้นนี้มีห้องพักอาศัยเพียงชั้นละ 13 ยูนิตเท่านั้น

 

ชั้นดาดฟ้า หรือ Rooftop ของโครงการยังถูกจัดให้เป็นพื้นที่นั่ง outdoor space โดยแบ่งเป็น 2 โซนคือ Skyline Chillax Space และ Sky Lounge & Garden


 

พาชมห้องตัวอย่าง “KnightsBridge Prime Onnut”

ห้องพักอาศัยของโครงการ “KnightsBridge Prime Onnut” (ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช) มีจุดเด่นที่เป็นห้องแต่งครบ มี ความสูงของห้องถึง 3 เมตร ที่ออกแบบโดยคำนึงถึง Human Centric Design  ให้ความสำคัญกับการใช้งานที่คำนึงถึงมนุษย์เป็นหลัก และยังมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้คุ้มค่า หรูหรา โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 Type คือ Studio, One-Bedroom, One-Bed plus และ Two-Bedroom 

โดยห้องที่ขายจะเป็นแบบ Fully Furnished แต่งครบตามห้องตัวอย่าง แต่ไม่รวมเครื่องไฟฟ้า และวัสดุประดับตกแต่ง 

 

สำหรับห้องตัวอย่างในแบบ Studio มีขนาด 22 ตร.ม. เป็นห้องที่เหมาะกับคนที่ชื่นชอบความ Compact ไม่เวิ้นเว้อ จุดเด่นของ ห้องนี้คือการจัดสรรพื้นที่ที่มีอย่างคุ้มค่า และลงตัว

 

เมื่อเดินเข้าห้อง โซนแรกที่พบคือส่วนของห้องครัว โดยจะมีประตูกระจกระหว่างส่วนนี้กับห้องด้านใน การแบ่งแบบนี้จะช่วยเรื่อง ของกลิ่น และการประหยัดพลังงานที่ต้องใช้จาก Air conditioner และด้านขาวมือตรงข้ามครัวจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ

 

Top ของ Counter ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว พร้อมกับกระจกสีดำบริเวณผนังด้านหลัง

 

ด้านบน ของ Counter เป็นตู้เก็บของ ที่นอกจากจะสามารถเก็บของได้ ยังสามารถวาง microwave ได้อีกด้วย

 

ชั้นวางทีวีแบบ Built-In และตู้เสื้อผ้าที่โครงการตกแต่งให้มาด้วย  ส่วนห้องจริงผนังจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสี

 

ส่วนพื้นที่ห้องนอน มีการตกแต่งอย่างหรูหรา ด้วยวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพ

 

ตู้เสื้อผ้าที่มีความสูงจรดเพดาน สามารถเก็บของได้อย่างเต้มที่

 

ส่วนของระเบียงและด้านข้างจะมีพื้นที่เล็กๆ สามารถวางโต๊ะทำงานได้ ทำให้ใช้สอยพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า

 

ห้องน้ำตกแต่งตามที่แสดงในภาพ มีลักษณะเป็นแบบฝักบัวแบบถือ และ มี Rain Shower ให้ด้วย

 

โดยพื้นและผนังจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีอ่อน แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งด้วยกระจกนิรภัย


 

สำหรับห้องตัวอย่างในแบบ One-Bedroom มีขนาด 26 ตร.ม. ยังคงแนวคิดการจัดห้องแบบ Compact และใช้พื้นที่ อย่างคุ้มค่า เมื่อเดินเข้าไปในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่มีสไตล์การตกแต่งเน้นความหรูหราด้วยโซฟาหนัง

 

มองตรงเข้าไปก็จะเจอห้องนอนที่ถูกกั้นอยู่ด้วยประตูกระจก สามารถมองทะลุออกไปจนถึงหน้าต่างได้ ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบายมากขึ้น

 

เข้ามาภายในห้องนอน

 

ส่วนนั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียง โดยแบ่งกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนด้วยฉากเลื่อนกระจก

 

เมื่อหันไปทางซ้ายก็จะเจอมุมโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ซึ่งถือเป็นการวางตำแหน่งที่ดี เนื่องจากเป็นจุดที่อยู่หน้าห้องน้ำ ทำให้ใช้งานได้ สะดวกมากขึ้น

 

ห้องน้ำยังคงเป็นแบบฝักบัวโดยได้แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งเหมือนกับห้อง Studio

 

เดินตรงมาจากโต๊ะเครื่องแป้งจะเจอห้องครัว การตกแต่งต่างๆคล้ายกันกับห้อง Studio เพียงแต่ห้องนี้จะนำเอาเครื่องซักผ้าไป ไว้ด้านนอกระเบียง ทำให้มีพื้นที่มากขึ้นในการจัดเก็บของ

 

ตรงระเบียง จะเห็นว่ามีตะแกรงเหล็ก ทำหน้าที่ทั้งกรองแสง และให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวกับผู้พักอาศัยอีกด้วย

 


 

สำหรับห้องตัวอย่างในแบบ One-Bed plus มีขนาด 31 ตร.ม. ห้องนี้เหมาะกับคนที่ต้องการความยืดหยุ่นของพื้นที่ที่มากขึ้น การจัดห้องในเชิงการใช้งานจะคล้ายกับห้อง One-bedroom แต่ด้วยพื้นที่ที่มากกว่า ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนหรือขยายพื้นที่ ส่วนต่างๆได้

 

เมื่อเดินเข้าไปจะเจอห้องนั่งเล่น และมุมทานข้าว ซึ่งเป็นหนึ่งอย่างที่เพิ่มขึ้นจากห้อง One-Bedroom

 

ข้างโซฟานั่งเล่น จะเป็นตู้เก็บของที่มีฟังก์ชั่น สามารถพับเก็บโต๊ะอาหารได้เมื่อไม่ใช้งาน ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้เอนกประสงค์

 

เข้ามาภายในห้องนอน ที่มีตู้เสื้อผ้าและเตียงให้มาด้วยเช่นกัน

 

หันไปทางซ้ายมือจะเจอกับ Pantry ห้องนี้จะมีการย้าย ห้องครัวออกมาไว้ด้านนอก เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน เนื่องจากมี โต๊ะทานข้าวที่เพิ่มขึ้นอยู่ด้านฝั่งตรงข้าม

 

ถ้าหันหน้าเข้า Pantry ทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ เป็นตำแหน่งเดียวกันกับ One-Bedroom

 

ทางขวามือจะเป็นทางออกสู่ระเบียง โดยทางโครงการได้ออกแบบให้มีอีก 1 ห้อง เป็นห้องเอนกประสงค์ ที่จะใช้ทำงานหรือเป็นห้องพักผ่อนก็ได้  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี

 

พื้นที่ระเบียงที่อยู่ติดกัน มีพื้นที่ขนาดพอเหมาะ ด้านล่างใต้คอมแอร์เตรียมพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ด้วย

 

และ ปิดท้ายด้วย แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 54 ตร.ม. ซึ่ง Type นี้ จะไม่มีห้องตัวอย่างใช้ชม แต่ขออธิบายคร่าวๆว่า ตัวห้องนี้จะมีจุดเด่นที่แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานได้ชัดเจน เหมาะสำหรับครอบครัว พ่อ แม่ ลูก  มีห้องน้ำ 2 ห้อง ด้านหน้าสุดเป็นส่วนครัว  มีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ เชื่อมต่อส่วนทานอาหารและพื้นที่ดูทีวี รองรับสมาชิกได้ทุกคน  และวางตำแหน่งห้องนอนไว้คนละมุม ข้อดีคือทำให้เป็นส่วนตัวไม่รบกวนกัน


 

บทสรุปหลังเยี่ยมชมโครงการ

หลังจากได้เยี่ยมชมโครงการ “KnightsBridge Prime Onnut”  คงต้องบอกได้ว่า โครงการนี้เป็นอีกโครงการที่เด่นที่สุดของปีนี้ ด้วยจุดเด่นที่เป็นคอนโดที่สูงที่สุดบนถนนอ่อนนุช และตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพที่เป็นจุดเชื่อมต่อ CBD กับ ย่านเศรษฐกิจฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ พร้อมตัวอาคารที่มี Design โดดเด่น และมีความหรูหรา  กับ วิวบนความสูงถึง 47 ชั้น พร้อมที่จอดรถอัตโนมัติแบบ Auto Parking ที่จอดรถได้มากถึง 65%   พร้อมส่วนกลางที่มีความเป็นที่สุดด้วย Full Floor Facility ถึง 3 ชั้น รวมถึงพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่ และ จุดเด่นห้องพักอาศัยเพดานสูง 3 เมตร ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่คำนึงถึง Human Centric Design  ที่ออกแบบให้ผู้พักอาศัยสามารถใช้งานได้อย่างตอบโจทย์มากที่สุด ทำให้โครงการนี้เป็นโครงการที่มีความเป็นที่สุด “ONLY THE PRIME MOMENT IN LIFE MATTERS” ได้อย่างแท้จริง

 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมโครงการพร้อมชมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้ที่สำนักงานขาย “Knightsbridge Prime Onnut”  โดยในวันที่ 16-17 ก.ย. นี้   มีงานเปิดตัวโครงการ ที่ สยามพารากอน ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษและเข้าชมโครงการรอบ VVIP ที่  http://knightsbridge.origin.co.th/onnut/ หรือโทร 020 300 000

 

ความคิดเห็น