พาชมโครงการ "Sign Sukhumvit 50" หลีกหนีทุกความวุ่นวาย ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัว บนทำเลศักยภาพย่านอ่อนนุช

“Sign Sukhumvit 50” (ซายน์ สุขุมวิท 50) คอนโดมีเนียม low rise ที่ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัว บนทำเลที่ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้ BTS อ่อนนุช และ จุดขึ้น-ลงทางด่วน ในซอยสุขุมวิท 50 ภายใต้แนวความคิด “A SANCTUARY OF CITY LIVING” ความเงียบสงบในชุมชนเมือง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

วีดีโอพรีเซนต์โครงการ ซายน์ สุขุมวิท 50

 

ชื่อโครงการ : Sign Sukhumvit 50 (ซายน์ สุขุมวิท 50)

ที่ตั้งโครงการ : ซอย สุขุมวิท 50  (ซอยแสงอุทัย)

ขนาดที่ดิน : 0-2-54.1 ไร่

จำนวนห้อง : 105 ยูนิต

แบบห้องพัก:

1 Bedroom ขนาด 26.14-28.68 ตร.ม.

1 Bedroom plus ขนาด 34.60-37.34 ตร.ม.

2 Bedroom ขนาด  50.23 ตร.ม.

ความสูงห้องพัก :  2.50 เมตร

แพคเกจห้องชุด : Fully Furnished , ระบบควบคุมการทำงานภายในบ้านอัจฉริยะ , ประตูห้องพักระบบ Digital Door Lock , Sound System Controller

จำนวนที่จอดรถ : 40%

เริ่มก่อสร้าง : พฤศจิกายน 2017

คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สิงหาคม 2019

สิ่งอำนวยความสะดวก :

CO-Working Space ล็อบบี้, มุมห้องสมุด , Wifi Internet Access (เฉพาะชั้นล็อบบี้, ฟิตเนส, รูฟทอปการเด้น) , สระว่ายน้ำ และสระเด็ก, จากุซซี่, ฟิตเนส , บริการรับ-ส่งรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช

ความปลอดภัย :

ระบบคียการดเข้า-ออก อาคาร , ลิฟทโดยสารล็อคชั้นจำนวน 2 ตัว , กล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง

เจ้าของโครงการ : บริษัท ศิริเลิศ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

เบอร์โทรศัพท์ : 081-553-5555

เว็บไซต์ : http://www.signcondo.com

Line@ : @sirilert

Map สำนักงานขาย : http://bit.ly/2oRyp5v

แผนที่โครงการ :

 


ส่องทำเลโครงการ “Sign Sukhumvit 50”

 

จากการขยายตัวของเมืองในปัจจุบัน คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าย่านอ่อนนุช ถือเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเมืองไปแล้ว แต่ด้วยการที่โครงการ “Sign Sukhumvit 50”  เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 0-2-54.1 ไร่ ใน ซ.สุขุมวิท 50 ภายใน ซ.แสงอุทัย ที่มีความปลอดภัยและเงียบสงบ

 

ด้วยการที่โครงการเข้ามาอยู่ในซอยนี้ ช่วยทำให้ “Sign Sukhumvit 50”  ยังสามารถรักษาพื้นที่ ที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี และยังคงมีศักยภาพในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายดาย บวกกับทำเลที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันรองรับการใช้ชีวิตได้ทุกอย่างที่ใจต้องการ

เพียง 800 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช

 

ถึงแม้อย่างนั้นหากพิจารณาในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกและการเดินทาง ที่ตั้งของโครงการ “Sign Sukhumvit 50”  ก็ไม่ได้ไกลจากแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากนัก โดยห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชเพียง 800 เมตร และห่างจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่สามารถวิ่งไปรามอินทรา-ลาดพร้าว-อาจณรงค์ หรือ ทางย่านพระราม9-ดินแดง เพียง 450 เมตร อีกทั้งบริเวณปากซอยสุขุมวิท 50 ยังมี Supermarket ขนาดใหญ่อย่าง Tesco Lotus ให้สามารถได้จับจ่าย ใช้สอยของกิน ของใช้ได้อย่างสะดวก และในอนาคต บริเวณนี้ยังจะมีแหล่ง Entertainment แห่งใหม่ ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง อย่าง Century The Movie Plaza อีกด้วย

 

Tesco Lotus สุขุมวิท 50 

 

โครงการเมกะโปรเจค Century the movie plaza ที่กำลังก่อสร้างอยู่ติดกับ BTS อ่อนนุช 

 

โดยโครงการ Century the movie plaza เป็นโรงภาพยนตร์ มัลติเพล็กซ์ ชอปปิ้งพลาซ่า และ โรงแรมระดับ 5 ดาว กว่า 400 ห้อง

สามารถเดินทางไปแหล่ง Hangout ในย่านทองหล่อ-เอกมัย  ได้เพียงไม่กี่นาที

ย่านทองหล่อ แหล่ง Hangout ของคนกรุงเทพ

เครดิตภาพ Airbnb

 

ไม่เพียงแต่บริเวณย่านอ่อนนุชจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแล้ว ยังถือเป็นย่านที่เชื่อมต่อระหว่างใจกลางเมืองกับชานเมืองเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในย่านนี้สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางอีกเลย

 

ในวันนี้ทีมงาน Kobkid.com ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมโครงการ “Sign Sukhumvit 50”  ด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงบริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 50

 

เมื่อมาถึงจะเห็น Tesco Lotus ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช

 

มุ่งหน้าสู่ปากซอยสุขุมวิท 50 โดยซอยนี้สามารถทะลุไปยัง ถนนทางรถไฟสายเก่า และ ยังเป็นจุดขึ้น – ลง ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ อีกด้วย

 

ปากซอยสุขุมวิท 50

 

ลงมาด้านล่างจะพบวินมอเตอร์ไซต์อยู่บริเวณปากซอย เป็นข้อสังเกตุให้เห็นว่าย่านนี้เป็นย่านชุมชนเมือง ที่มีผู้คนอยู่อาศัยจำนวนมาก

 

เดินทางมุ่งหน้าไปยังซอยแสงอุทัย

 

เดินมาไม่ไกลนักก็จะพบกับป้ายซอยแสงอุทัย แต่หากใครไม่ต้องการเดิน ทางโครงการก็ได้เตรียม Shuttle Service ไว้บริการรับ-ส่ง ผู้พักอาศัยระหว่างโครงการกับสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช

 

ในซอยนี้ถือว่ายังไม่มีตึกสูงจึงจะทำให้ “Sign Sukhumvit 50”  ไม่มีอะไรมารบกวนมากนัก

 

ถนนในซอยแสงอุทัยค่อนข้างกว้างขวางอีกทั้งยังไม่มีฟุตบาท ทำให้รถสามารถสวนทางกันได้สบาย

 

เดินเข้าซอยมาสักพักหนึ่งจะเห็นป้ายไวนิลขนาดใหญ่ทางขวามือ เป็นที่ตั้งของโครงการ “Sign Sukhumvit 50”

 

ส่วน Sales gallery สำหรับผู้ต้องการมาชมห้องตัวอย่าง อยู่ตรงปากซอยอารีรักษ์ ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 50 ประมาณ 400 เมตร อยู่ด้านซ้ายมือ เมื่อเข้ามาด้านใน Sales gallery จะเห็นการตกแต่งที่เรียบหรู แต่เต็มไปด้วยรายละเอียด และวัสดุที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบ

 

บรรยากาศภายในให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ด้วยลักษณะการจัดพื้นที่นั่ง ที่ดูส่วนตัวและเป็นกันเอง

 

บริเวณตรงกลางจะมี Model ของโครงการ ที่ถูกจัดทำขึ้นให้เหมือนตามรูปลักษณ์ที่จะเกิดขึ้นจริง เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น

มุมมองจากด้านหน้าโครงการ ที่จะหันไปทางทิศตะวันออก

 

มุมมองด้านหลังโครงการ ที่จะหันไปทางทิศตะวันตก

 

มุมมองด้านข้างโครงการ ฝั่งทิศเหนือ

 

มุมมองด้านข้างโครงการ ฝั่งทิศใต้

 

โครงการ “Sign Sukhumvit 50”  เป็นคอนโดมิเนียมตัวใหม่ล่าสุดจาก Sirilert Development  ผู้พัฒนาโครงการ กับประสบการณ์ผลงานที่ผ่านมา อย่าง ดิ แอล ฟิฟทีน คอนโด (The L15 Condo) คอนโดมิเนียม Low rise ย่านลาดพร้าว ที่สามารถปิดการขายอย่างรวดเร็วด้วยระยะเวลาเพียง 1 เดือน แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการออกแบบคอนโดมิเนียมที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดยโครงการนี้ จะมีความสูงทั้งหมด 8 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ดินขนาด 0-2-54.1 ไร่ ทั้งหมด 105 ยูนิต ถือว่าเป็นคอนโดมิเนียมที่มีจำนวนยูนิตที่น้อย เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว

 

ด้วยแนวความคิดหลักของโครงการ “A SANCTUARY OF CITY LIVING” ที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความเป็นส่วนตัวที่มากที่สุด ทำให้ Sirilert Development ได้เลือกทำเลที่หลบหลีกออกจากความวุ่ยวายของชุมชนเมือง และออกแบบให้ตัวอาคารมีลักษณะเรียบนิ่ง รวมถึงออกแบบ Façade ให้มีลักษณะเป็นสีขาวลายฉลุ เปิด-ปิด ได้ ทำจากวัสดุ Perforate เพื่อช่วยพรางสายตาจากภายนอกอาคาร อีกทั้งยังสามารถช่วยในเรื่องบังแสงแดดได้ด้วย

 


บรรยากาศภายในโครงการ

 

นอกจากแนวความคิด “A SANCTUARY OF CITY LIVING” จะแทรกซึมเข้าไปในงานออกแบบอาคารของ “Sign Sukhumvit 50” แล้ว ยังสะท้อนออกมาให้เห็นในบรรยากาศภายในโครงการ ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบที่แท้จริง

 

โดยเมื่อเดินเข้ามาจะพบกับ Lobby ที่ถูกออกแบบให้มีบรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเอง ด้วยขนาดของพื้นที่ที่เหมาะสม บวกกับการเลือกใช้วัสดุที่เป็นไม้ และโทนสีที่ดู warm welcome ทำให้พื้นที่นี้ดูจะเหมาะสมแก่การหลบหลีกความวุ่นวายได้ดีมากๆที่หนึ่ง

 

ในส่วนของ Fitness ก็ได้มีการออกแบบด้วยแนวความคิดแบบเดียวกันกับ Lobby  ทั้งโทนสีและการเลือกใช้ไม้เป็นองค์ประกอบหลัก เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัวแม้กระทั่งในขณะออกกำลังกาย แต่ยังคงมีกระจกแบบ Frame-less ขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถมองออกไปชมวิวของเมืองได้เช่นกัน

 

บริเวณสระว่ายน้ำของโครงการ มีลักษณะเป็นสระว่ายน้ำพร้อมสระจากุซซี่ แบบ Endless pool ทำให้สามารถว่ายน้ำไปพร้อมกับชมวิวเมืองได้ โดยมีการออกแบบพื้นที่ริมสระให้เป็นที่นั่งแบบโซฟา เพื่อให้ผู้ใช้งานผ่อนคลายได้มากที่สุด บริเวณสระว่ายน้ำนี้ถือเป็นจุดที่มีการ Open มากที่สุดในโครงการ แต่ด้วยการออกแบบที่รัดกุม ทำให้บรรยากาศของการพื้นที่ยังคงมีความผ่อนคลาย และเป็นส่วนตัวอยู่

 

หากพูดถึงพื้นที่ ที่จะให้ความสงบได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้นสวนหย่อม โดยโครงการนี้ได้มีการจัด Roof garden โดยออกแบบให้มีกำแพงต้นไม้สีเขียวโอบล้อม พร้อมกับการวางจังหวะ Pattern ของที่นั่งในสวนให้มีลักษณะแตกต่างกันไป เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังสร้างความรู้สึก เป็นกันเอง เงียบสงบ และผ่อนคลาย ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองอีกด้วย

 


 

ผังอาคาร “Sign Sukhumvit 50” 

 

เนื่องจากพื้นที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า การวางผังอาคารเลยจะมีลักษณะเป็นสีเหลี่ยมพื้นผ้า เรียงไปตามทิศตะวันตกและด้านตะวันออก ล้อไปกับพื้นที่  โดยมีการเข้าออกอยู่ทางซอยแสงอุทัย

เข้ามาบริเวณชั้น 1 จะมีป้อมรักษาความปลอดภัยอยู่ทางซ้ายมือ ด้านในจะเป็นลานจอดรถที่สามารถจอดรถได้ถึง 40% ของโครงการ โดยจากชั้นนี้สามารถขึ้นไปบนชั้น Lobby ได้โดยลิฟท์

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะเจอกับ Lobby ที่ตั้งอยู่ทางด้านหน้าโครงการทางทิศตะวันออก ในชั้นเดียวกันนี้จะมีห้องพักอาศัยอยู่ทั้งหมด 14 ห้อง ด้วยการออกแบบที่วาง Lobby ไว้ทางด้านหน้าโครงการ ทำให้ห้องพักบนชั้น 2 นี้มีความ Private มากขึ้น

 

 

ชั้น 3-7 เป็นชั้นที่พักอาศัย จากสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ ที่จะมีเพียงบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ทำให้ตั้งแต่ชั้นที่ 3 ขึ้นไปจะไม่ถูกรบกวนมากนัก เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง โดยในแต่ละชั้นก็จะมีห้องพักทั้งหมด 5 Type ให้สามารถได้เลือกตามความต้องการ

 

 

ขึ้นมาบนชั้น 8 ชั้นนี้จะเป็นชั้นของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของโครงการ ทั้ง Fitness และสระว่ายน้ำ โดยทั้งหมดจะอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ ชั้นนี้จะมีห้องพักอยู่ด้วยทั้งหมด 11 ห้อง

 

ไม่ได้หมดเพียงเท่านั้น บนชั้นดาดฟ้าของโครงการ ยังมีสวนหย่อมไว้ให้ผู้พักอาศัยได้ขึ้นไปพักผ่อนบนนั้นได้อีกด้วย

 


พาชมห้องตัวอย่าง “Sign Sukhumvit 50” 

สำหรับห้องพักของ “Sign Sukhumvit 50”  ถือเป็นจุดเด่นจุดนึงของโครงการเนื่องจากเป็นการขายแบบแต่งครบอย่าง Fully Furnished โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือแบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และแบบ 2 Bedrooms ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีขนาดและการจัดห้องที่แตกต่างกันออกไป

และจุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้ คือ ทุกยูนิตจะติดตั้งระบบ SMART HOME FUNCTION และ SOUND SYSTEM CONTROLLER ที่สามารถควบคุมระบบไฟฟ้าเพียงปลายนิ้วสัมผัส

 

แบบ 1 Bedroom จะมีตั้งแต่ขนาด 26.14 ตร.ม. ไปจนถึง 28.68 ตร.ม. ห้องในแบบนี้จะมีทั้งหมด 6 ขนาด แต่ห้องที่เราจะพามาชมกันในวันนี้คือ แบบ 1 Bedroom ขนาด 26.49 ตร.ม.

 

ห้อง 1 bedroom ขนาด 26.49 ตร.ม. เป็น Type  A2 มีอยู่ตั้งแต่ชั้น 2 ถึงชั้น 8 ตั้งอยู่บริเวณทางทิศใต้ของโครงการ เมื่อเปิดประตูเข้าไป จะเจอกับโซนห้องทานข้าว โดยทางขวามือจะเป็น Pantry ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่จะมีครบ ทั้งอ่างล้างจาน และ เตาไฟฟ้า พร้อมเครื่องดูดควัน (ดูดออกภายนอกอาคาร) ส่วนทางขวามือจะเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่ง

 

ห้องที่ขายจะเป็นลักษณะแพคเกจแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบทั้งแบบ Built-in และลอยตัวของ RCD  พร้อม ระบบควบคุมการทำงานภายในบ้านอัจฉริยะ , ประตูห้องพักระบบ Digital Door Lock , Sound System Controller  

 

ชุดครัวแบบ Built-In ที่โครงการให้มาประกอบด้วย  เครื่องดูดควัน(ดูดออกภายนอกอาคาร) ของ Teka เคาท์เตอร์ครัวด้านล่าง Top หินควอทซ์สีขาว เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมอ่างล้างจานฝั่งใต้เคาท์เตอร์ครัว และก๊อกน้ำ Teka   ส่วนด้านหลังเคาท์เตอร์ครัวจะติดกระจกฝ้ากันเปื้อน เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น โดยตู้เก็บของจะมีบานพับเปิด-ปิด แบบ Soft closed

 

ตรงข้ามครัวจะมีโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่ง  ที่โครงการให้มา ที่มีฟังก์ชั่นสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน

 

ตู้เก็บของและชั้นวางรองเท้าข้างประตูทางเข้าที่โครงการแถมมาให้ด้วยเช่นกัน

 

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นโซนห้องนั่งเล่น โดยจะมีโซฟา และทีวีคอนโซลตั้งอยู่ในระยะใช้งาน จากตรงนี้จะสามารถมองออกไปเห็นระเบียงด้านนอกได้

 

โครงการให้เฟอร์นิเจอร์ยกชุดตามห้องตัวอย่าง (ไม่รวมของตกแต่ง) เป็น Built-In เฟอร์นิเจอร์ มีบานเปิด-ปิด แบบ Soft Closed

 

บริเวณระเบียงมี Façade ลักษณะเป็นสีขาวลายฉลุสามารถ เปิด-ปิด เพื่อกันแสงแดดที่จะตกลงมา หรือสร้างความเป็นส่วนตัวให้พื้นที่เพิ่มขึ้นได้ และยังสามารถล็อคได้ ช่วยเพิ่มเรื่องความปลอดภัยของผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี  สำหรับราวกันตกจะเป็นกระจกเทมเปอร์เต็มหน้าบานตามภาพ  ส่วนคอมแอร์จะติดตั้งกลิวบังแอร์ให้จำนวน 2 ตัวอีกด้วย

 

โครงการยังใส่ใจในทุกรายละเอียด ติดตั้งราวแขวนผ้ามาให้ด้วย  โดยสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน

 

หลังโซฟาห้องนั่งเล่น จะเป็นห้องนอนและห้องน้ำ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบอิสระ 3 ตอน

 

เข้ามาในห้องนอนจะพบกับเตียงขนาดควีนไซส์ พร้อมโต๊ะหัวเตียงที่มีลิ้นชัก สามารถใส่ของหรือวางโคมไฟเล็กๆได้ สำหรับใต้เตียงก็มีลิ้นชักไว้เก็บของได้ด้วยเช่นกัน

 

โต๊ะข้างเตียง แบบ Built-in ที่โครงการให้มา พร้อมฟังก์ชัน สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน

 

บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีตู้เสื้อผ้าบานกระจกสีชาดำ พร้อมติดไฟ มีหน้าบานแบบเต็มบาน 3 ตอน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งตั้งอยู่ด้านข้าง ถือว่าเป็นจุดที่สะดวก สบายแก่การใช้งานเป็นอย่างยิ่ง

 

พื้นที่แต่งตัวหน้าห้องน้ำ ที่มีฟังก์ชันการใช้สอยเหมาะสม เวลาอาบน้ำเสร็จ สามารถหยิบเสื้อและเดินมาส่องกระจกได้ง่ายๆ

 

ธรณีด้านหน้าห้องน้ำจะเป็น Top หินควอทซ์ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งาน ภายในห้องน้ำจะให้อุปกรณ์ตามห้องตัวอย่าง ได้แก่ ชุดอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีที่วางของด้านข้าง พร้อมก๊อกน้ำของ  Mogen  บน Top เคาน์เตอร์ทำจากหินควอทซ์ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน Stiebel Eltron และโถสุขภัณฑ์ของ American Standard 

 

ส่วนพื้นห้องน้ำจะปูกระเบื้องเซรามิก 60×60 ซม. และธรณียกสูง 8 ซม. ปิดขอบด้วยสแตนเลส และตู้เก็บของทั้งหมดในโครงการนี้จะเป็นแบบ Soft close เพื่อยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย

 

ห้องน้ำเป็นลักษณะแบบฝักบัว แยกเป็นโซนเปียกและโซนแห้ง โดยใช้ฉากกระจกกั้น ให้ฝักบัวอาบน้ำแบบ rain shower ของ American Standard และชั้นวางของที่ทำจากหินควอทซ์

 

ไม่เพียงเท่านั้นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือ การใช้งานระบบ Smart Home Function และ Sound System Controller ระบบสัมผัสภายในห้องพัก HOME AUTOMATION โดยภายในห้องจะแถมฟรีระบบ Sound System Controller ที่เชื่อมต่อลำโพงบนเพดาน และระบบ Home Automation ที่สามารถเปิดปิดไฟและแอร์ล่วงหน้าได้ทุกเวลาที่ต้องการผ่าน Mobile Application จาก Smart Phone ได้แบบง่ายๆ ส่วนประตูห้องจะใช้กลอนแบบ Digital Door lock ยี่ห้อ Samsung ซึ่งทำงานได้ 3 แบบ คือ แบบ Key card, แบบกุญแจ, แบบใส่รหัส


 

แต่ถ้าหากใครต้องการห้องพักแบบ 1 Bedroom ที่มีบริเวณกว้างขวางมากขึ้นมาหน่อย “Sign Sukhumvit 50”  ก็ยังมีห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ให้ได้เลือก โดยห้องพักแบบนี้จะมีขนาดตั้งแต่ 34.60 ตร.ม. ไปจนถึง 37.34 ตร.ม.

 

มาดูผังห้องแบบ Type B1 ขนาด 34.62 ตร.ม  โดยห้องประเภทนี้จะอยู่ที่ชั้น 3-7 ชั้นละ 1 ห้อง หันหน้าออกทางทิศเหนือ

จากผังห้องจะเห็นว่า ห้อง 1 Bedroom plus เป็นห้องที่ค่อนข้างกว้าง และมีการจัดแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดเป็นส่วน เหมาะกับผู้ที่ชอบการแบ่งพื้นที่แบบชัดเจน แม้กระทั่งตู้เสื้อผ้า ห้อง B1 ก็ได้จัดให้เป็นลักษณะของ walk-in closet เล็กๆ ตั้งอยู่บริเวณหน้าทางเข้าห้องน้ำ และประตูทางเข้าห้องก็จะอยู่บริเวณที่เป็นโซนกึ่ง Public อย่าง ครัว ห้องทานข้าว และห้องนั่งเล่น

 


 

ในห้องประเภท 1 Bedroom plus ยังมีอีกหนึ่งห้องที่แตกต่างจากห้องอื่นๆ เพราะนอกจาก ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องคร้ว และห้องทานข้าวแล้ว ห้อง Type นี้ยังมีห้องทำงานเพิ่มให้อีก 1 ห้องเลยทีเดียว ถือว่าเหมาะกับการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง โดยห้อง Type D3 นี้จะมีอยู่ทั้งหมด 5 ห้อง ตั้งแต่ชั้น 4-8 ชั้นละ 1 ห้อง

 

ดูจากผังของห้อง เนื่องจากพื้นที่ที่มากกว่า ทำให้ 1 Bedroom Plus ยังคงสามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นสัดเป็นส่วนได้เช่นเดิม แต่ระเบียงของห้องนี้ ไม่ได้อยู่ในบริเวณห้องนั่งเล่น แต่ย้ายมาตั้งอยู่บริเวณห้องทำงาน ซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่น่าสนใจ และเหมาะแก่การใช้งานจริงมากขึ้น


 

สำหรับห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom Plus นี้ จะเป็นขนาด 34.95 ตร.ม. โดยมีอยู่เพียงชั้นละ 1 ห้อง ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมด้านหน้าโครงการตั้งแต่ชั้น 3 ไปจนถึงชั้น 7 และอีกความพิเศษสำหรับห้องแบบนี้ คือ ในห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำเตรียมไว้ให้ด้วย

เนื่องจากเป็นห้องที่รูปร่างของผังแตกต่างจากห้องทั่วๆไป ทำให้ เมื่อเปิดประตูเข้าไป เราจะเห็นเป็นทางเดินยาวไปจนกระทั่งถึงโต๊ะทานข้าวด้านใน  โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบทั้งแบบ Built-in และลอยตัวของ RCD  พร้อม ระบบควบคุมการทำงานภายในบ้านอัจฉริยะ , ประตูห้องพักระบบ Digital Door Lock , Sound System Controller แบบ 1 ห้องนอนเช่นกัน   

 

ทางซ้ายมือของทางเดินนั้นจะเป็นตู้ใส่รองเท้า และ Pantry ครัว โดยโซนครัวนี้จะถูกกั้นด้วยประตูกระจกเป็นแบบครัวปิด

 

พื้นห้องครัวเป็นแกรนิโต เครื่องดูดควันของ Teka เคาท์เตอร์ครัวด้านล่าง Top หินควอทซ์สีขาว เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมอ่างล้างจานฝั่งใต้เคาท์เตอร์ครัว และก๊อกน้ำ Teka   ส่วนด้านหลังเคาท์เตอร์ครัวจะติดกระจกฝ้า เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

 

เมื่อผ่านประตูกระจกเข้ามาด้านในจะพบกับโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือ

 

โดยพื้นห้องเป็นพื้นไม้ Laminate หนา 8 มม.  ประตูบานเลื่อนกั้นเป็นสัดส่วนวัสดุอลูมิเนียม 3 ตอน พ่นสีเทาพื้นผิวทรายซาฮาร่า

 

ทางขวามือจะเป็นห้องนั่งเล่นที่ติดกับระเบียงที่มี Façade เปิด-ปิดได้เช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom

 

ระเบียงที่ราวกันตกเป็นกระจกใส ที่ส่วนมากจะนิยมใช้กับโครงการหรูระดับลักซ์ชัวรี่ และยังช่วยทำให้ระเบียงดูกว้างขึ้น สามารถเปิดรับวิวได้เต็มที่

 

ด้านในสุดจะเป็นห้องนอนที่สามารถเปิดประตูกระจกบานเลื่อนให้เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้

 

บริเวณห้องนอนจะมีลักษณะคล้ายกับ 1 Bedroom โดยความพิเศษที่เพิ่มขึ้นคือจะมีโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่

 

บรรยากาศภายในห้องน้ำที่ให้อุปกรณ์และตกแต่งตามห้องตัวอย่าง (ไม่รวมของตกแต่ง)

 

จุดเด่นสำคัญของห้องนี้คือ ห้องน้ำที่มีทั้งแบบฝักบัว และอ่างอาบน้ำแบบ Skyview Bathtub อ่างอาบน้ำติดประตูกระจกบานเลื่อนที่จะให้ประสบการณ์ใหม่กับผู้ใช้งาน และยังช่วยในการระบายอากาศได้ด้วย

 

อ่างอาบน้ำ ของ Aquaflex และอุปกรณ์ฝักบัว ของ  American Standard 

 

 

ห้องแบบสุดท้าย 2 Bedroom เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ โดยทั้งโครงการจะมีห้องแบบนี้อยู่เพียง 1 ห้องเท่านั้น ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 หันหน้าออกทางทิศเหนือ

เนื่องจากเป็นห้องตรงหัวมุม ทำให้สามารถมีช่องเปิดได้ถึง 2 ทาง และทางโครงการก็ได้ใช้จุดเด่นนี้ในการออกแบบ โดยได้วางห้อง Master bedroom ไว้บริเวณหัวมุม เพื่อให้สามารถมีระเบียงได้ถึง 2 ทาง นอกจากจะทำให้ผู้พักอาศัยสามารถชมวิวได้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้การระบายอากาศภายในห้องดีขึ้นอีกด้วย

ดูจากผังห้องจะเห็นว่าห้องได้มีการจัดการเป็นสัดเป็นส่วน และเรียงลำดับการเข้าถึงได้อย่างลงตัว เมื่อเข้าห้องมา ก็จะมีที่วางรองเท้าอยู่มุมด้านขวามือ เดินเข้ามาอีกหน่อยจะเจอกับ โซนห้องครัว ไม่ไกลกันนักจะมีโต๊ะทานข้าวที่สามารถนั่งได้ถึง 4 ที่นั่ง จากตรงนี้จะเป็นทางแยกไปห้องนอนทั้ง 2 ห้อง โดยแต่ล่ะห้องจะมีห้องน้ำในตัว ถือว่าค่อนข้างสะดวกสบายเลยทีเดียว


 

บทสรุปหลังเยี่ยมชมโครงการ

“Sign Sukhumvit 50” เป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่ในทำเลเงียบสงบ ปลอดภัย เหมาะแก่การอยู่อาศัย แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในย่านอ่อนนุช และยังสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลาง CBD หรือจะไปแฮงเอ้าท์ย่าน ทองหล่อ-เอกมัย ได้สะดวก  พร้อมฟังก์ชันไฮเทคที่อยู่ในแพคเกจ Fully Funished ทุกยูนิต แสดงถึงความใส่ใจในการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถอยู่ได้จริงอย่างสะดวกสบาย

นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมา จุดเด่นอีกเรื่อง คือ การเลือกใช้วัสดุภายในห้องพักก็ถือเป็นความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของโครงการ “Sign Sukhumvit 50” โดยทาง Sirilert Development ได้เลือกสรรวัสดุตั้งแต่ห้องครัว ไปจนถึงสุขภัณฑ์ เพื่อให้สอดคล้องกับการอยู่อาศัยจริงของผู้พักอาศัย  ถือว่า “Sign Sukhumvit 50”  เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่คุ้มค่า ด้วยโลเคชั่น และสเปควัสดุที่ให้เทียบเท่าโครงการในระดับลักซ์ชัวรี่  ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.6 ล้านบาท

โดย ณ ตอนนี้โครงการ “Sign Sukhumvit 50”  ได้ EIA Approve เรียบร้อยแล้ว และจะเริ่มก่อสร้างในเดือน พฤศจิกายน คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จพร้อมอยู่ภายในปี 2562

 

 

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ  “Sign Sukhumvit 50” สามารถเข้าไปเยี่ยมชมโครงการได้ที่  Sales Gallery บริเวณปากซอยอารีรักษ์  ใกล้ BTS อ่อนนุช หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.signcondo.com/ , Facebook  : https://www.facebook.com/signcondo หรือ โทร 081 553 5555

Map สำนักงานขาย ?: http://bit.ly/2oRyp5v

 

ความคิดเห็น