พาชมโครงการ "SHAA ASOKE ฌาา อโศก" อีกบทนิยามที่มากกว่าคำว่า "ลักซ์ชัวรี่" ผลงานชิ้นเอกที่ภูมิใจเมื่อได้ครอบครอง
พาชมโครงการ “SHAA ASOKE ฌาา อโศก” คอนโดมิเนียม High Rise ระดับ Luxury โดย เคพีเอ็น แลนด์ บนทำเล Prime of Prime ใจกลาง CBD ที่สำคัญของกรุงเทพฯ ย่านอโศก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Craftsmanship” ค้นพบความรู้สึกแห่งชีวิต ที่จะสร้างตัวตนที่แท้จริงของคุณ …ด้วยความประณีตบรรจงในการเลือกสรรวัสดุรวมถึงการออกแบบที่เปรียบเสมือนผลงานชิ้นเอกตามแบบฉบับ KPN LAND พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่หรูหรา แวดล้อมด้วยการเดินทางที่สะดวก บนย่านไลฟ์สไตล์ที่มีสีสัน ช่วยเปิดทุกมุมมองการใช้ชีวิตให้สมบูณ์แบบอย่างแท้จริง
ข้อมูลโครงการ : SHAA ASOKE ฌาา อโศก
เจ้าของโครงการ : KPN-KEPPEL ALLIANCE
ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise สูง 24 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : 143 ยูนิต
เนื้อที่โครงการ : 1-0-8 ไร่
ราคาเริ่มต้น : 10 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย : 320,000 บาท/ตารางเมตร
แบบห้องพักอาศัย :
1 ห้องนอน ขนาดเริ่มที่ 34.25 ตารางเมตร
2 ห้องนอน ขนาดเริ่มที่ 69.50 ตารางเมตร
Duplex ขนาดเริ่มที่ 107.25 – 113.25 ตารางเมตร
สิ่งอำนวยความสะดวก :
– Automatic-Parking
– EV Charger
– Lobby
– Bicycle Garage
– Swimming Pool
– Gym
– Garden
จำนวนที่จอดรถ : ประมาณ 100 คัน
ลิฟต์โดยสาร : 2 ตัว และ 1 ลิฟต์เซอร์วิส
เริ่มก่อสร้างโครงการ : เดือน ธันวาคม 2561
คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ : เดือน มีนาคม 2566
ค่าส่วนกลาง : 120 บาท/ตารางเมตร/เดือน
ค่ากองทุน : 1,000 บาท/ตารางเมตร
เว็บไซต์ : www.kpnland.com
แผนที่โครงการ :
“อโศก” ย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ
“อโศกมนตรี” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “อโศก” ทำเลที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นย่านธุรกิจสำคัญของประเทศ และเป็นที่ตั้งของสถานีอินเตอร์เช้นจ์รถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ถือเป็นทำเลทองที่มีศักยภาพที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงราคาที่ดินย่านสุขุมวิทช่วงบริเวณนี้ โดยเฉพาะช่วงซอยสุขุมวิท 19 ต่อเนื่องไปจนถึง ซอยสุขุมวิท 23 ที่มีการปรับพุ่งสูงขึ้นจาก 2 ปีที่ผ่านมาถึง 30 % ส่งผลให้ราคาคอนโดมิเนียมต่อตารางเมตรขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุเพราะที่ดินหายากและเป็นทำเลที่ต้องการของนักลงทุนรวมถึงนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการสร้างโครงการระดับไฮเอนด์บนย่านนี้
สำหรับ SHAA ASOKE เป็นโครงการล่าสุด ที่ตั้งอยู่ในย่าน CBD อโศก เช่นกัน ตัวโครงการตั้งอยู่ภายใน ซอยสุขุมวิท 19 ห่างจาก BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ประมาณ 250 เมตร ภายใต้บริษัทร่วมทุน เคพีเอ็น-เคปเปล อัลลายซ์แอนซ์ ที่บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด ได้จับมือกับ บริษัท เคปเปล แลนด์ จำกัด จากประเทศสิงคโปร์ มาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมหรู ในระดับ Luxury ตอบโจทย์นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตแบบวิถีคนเมือง Cosmopolitan Lifestyle ในแบบฉบับที่เป็นตัวของตัวเอง
จุดเด่นของการเดินทาง SHAA ASOKE ที่มีความสะดวกสบายอย่างมาก เพราะนอกจากจะมี BTS หรือ MRT แล้ว ยังใกล้กับ Airport Link ที่เชื่อมต่อจากสถานีมักกะสันไปสู่สุวรรณภูมิได้อีกด้วย หรือถ้าต้องใช้เส้นทางน้ำ ก็มีท่าเรืออโศกอยู่ไม่ไกลกับโครงการนัก
หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะมาทางถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 19 ก็ได้ หรือสามารถมาทางถนนอโศกมนตรี เพื่อเข้ามายังสุขุมวิท 21 ซอย 1 สามารถทะลุมาซอย 19 ได้ การเดินทางเข้าออกค่อนข้างสะดวก การใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะค่อนข้างสบาย ไม่ว่าจะไปทางไหนก็เชื่อมต่อได้ทุกเส้นทาง
ไฮไลต์รอบโครงการ
Terminal 21 ศูนย์การค้าที่สำคัญของ “อโศก” เดินออกมาจากโครงการ SHAA ASOKE ไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว ที่สามารถใช้ชีวิตได้ครบโดยไม่ต้องไปไหนไกล ร้านอาหารบรรยากาศดี แหล่งช้อปปิ้ง หรือชมภาพยนตร์ รวมถึงฟู้ดคอร์ตที่มีอาหารให้เลือกมากมาย เป็นที่นิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ใกล้ๆกันมีห้าง Robinson อีกด้วย เรียกได้ว่า ซ้ายเป็น Terminal 21 ขวาเป็น Robinson ที่จะเลือกได้เลยว่าอยากจะไปไหน โดยที่โรบินสันมี McDonald’s เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ไม่ไกลจาก Robinson ฝั่งตรงข้ามมี Korean Town แหล่งรวมไลฟ์สไตล์และร้านอาหารอร่อยแบบฉบับเกาหลี
ถัดไป 1 สถานีจาก อโศก ก็จะเป็นย่าน พร้อมพงษ์ หรือ Em District ที่เป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งระดับโลก อย่าง Emporium และ EmQuartier รวมถึง Emsphere ที่กำลังก่อสร้างอยู่ เตรียมเปิดให้บริการอีกไม่นานจากนี้
หรือถ้าจะมาแฮงเอ้าต์ ชอบนั่งถ่ายภาพลงโซเชียล ในร้านกาแฟบรรยากาศดี ย่าน ทองหล่อ เอกมัย เป็นย่านที่เนรมิตร้านกาแฟทุกสไตล์ไว้มากมายจนเลือกไม่ถูกเลย
มีที่เที่ยวตามเส้นทาง BTS แล้ว เส้นทาง MRT ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้ง Central Rama 9, Fortune Town, Espanade Ratchada และตลาดนัดรถไฟ ย่านรัชดา
อีกทั้ง SHAA ASOKE ยังใกล้กับสถานศึกษาและมหาวิทยาลัยชั้นนำ โรงพยาบาล รวมถึงสวนสาธารณะที่มาพักผ่อนหรือวิ่งจ็อกกิงได้ทุกวัน
สำหรับทำเลของ SHAA ASOKE ยังมีความน่าสนใจอีกมากมาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “SHAA ASOKE” เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ใจกลาง “อโศก” นิยามที่สุดของการใช้ชีวิตคนเมือง ที่ได้รวมสถานที่สำคัญรอบโครงการ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างแท้จริง
สัมผัสความหรูหราของ SHAA ASOKE ความภาคภูมิใจเมื่อได้ครอบครอง
วันนี้พาชมโครงการ SHAA ASOKE มีห้องตัวอย่างมาให้ชมกัน คือ แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 69.50 ตารางเมตร รวมไปถึงสิ่งแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่ใกล้เคียงต่างๆ ทำเลที่ตั้ง และจุดเด่นที่น่าสนใจของโครงการมีอะไรบ้าง
การเดินทางมายัง Sales Gallery อยู่ภายในซอยสุขุมวิท 39 ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ (ส่วนที่ตั้งโครงการจริง อยู่ภายในซอย สุขุมวิท 19) ด้านหน้าจะมีชื่อโครงการ SHAA สีทองตั้งอยู่ ช่วยดึงดูดสายตาผู้ที่ผ่านไปผ่านมาได้เป็นอย่างดี
อาคาร Sales Gallery โดดเด่นด้วยสีดำที่โอบล้อมสีทอง พร้อมกับกระจกที่ประดับไว้ราวกับเป็นม่านเพื่อเข้าไปยังโครงการ รูปทรงของสถาปัตยกรรมบวกกับสีดำทอง ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ SHAA ที่ดูเข้ม สุขุม มีระดับ แต่แฝงไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา
กระจกปริซึม ที่นำมาเป็นส่วนหนึ่งของวัสดุที่ในโครงการ ให้ความรู้สึก สุขุม เท่ห์ แต่ยังแฝงด้วยความเซ็กซี่ ตามคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ SHAA
Sales Gallery ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโครงการนัก หากจะเดินทางไปยังที่ตั้งจริงของโครงการ สามารถไปได้หากเดินทางด้วย BTS ลงสถานีอโศก หรือรถยนต์ส่วนตัว ขับรถออกมายังถนนเส้นหลักของสุขุมวิท หาจุดกลับรถ เพื่อขับตรงไปยังถนนเส้นอโศกมนตรี เมื่อเลี้ยวเข้ามายังถนนอโศกมนตรี ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าสุขุมวิท 21 ซอย 1 เมื่อเจอสี่แยกเลี้ยวซ้าย โครงการจะอยู่ทางด้านขวามือ
นี่คือที่ตั้งโครงการจริง ภายในซอยสุขุมวิท 19 ซึ่งเดิมคือโรงแรม Honey Hotel
บริเวณรอบๆที่ตั้งโครงการ ตั้งแต่ถนนภายในซอย ไปจนถนนด้านหน้าถนนสุขุมวิท จะมีร้านค้า ร้านอาหาร เรียงรายตลอด 2 ฝั่งถนน
ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่อยุู่ใกล้กับโครงการ โดยซอยสุขุมวิท 19 จะมีความเป็นนานาชาติ มีโรงแรม คอนโดมิเนียม และ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ นับว่าเป็นโซนที่เหมาะแก่การพักอาศัย ที่มีความสงบร่มรื่น แต่ก็มีสีสันด้วยร้านค้า ร้านอาหารต่างๆตั้งเรียงราย ช่วยเติมเต็มการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย
บรรยากาศโครงการ SHAA ASOKE
SHAA ASOKE เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 24 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 143 ยูนิต พร้อมที่ที่จอดรถประมาณ 100 คัน โดยโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ อย่าง Automatic-Parking, EV Charger, Bicycle Garage, Swimming Pool, Gym และ Garden โดยการออกแบบจะสะท้อนความเป็นแบรนด์ “SHAA” มีคาแรกเตอร์ใน Mood&Tone ที่ดูเข้ม เท่ห์ หรูหรา มีระดับ น่าค้นหา สามารถสะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความลักซ์ชัวรี่ในรูปแบบที่แตกต่าง เปรียบให้ชัดขึ้น เมื่อเทียบกับบุคลลที่มีชื่อเสียง อย่าง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) หรือ จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) ที่มีบุคลิกความสุขุม เป็นตัวของตัวเองและมีความเป็นผู้นำ ในขณะเดียวกันก็มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีความเป็นศิลปินที่อ่อนโยน เซ็กซี่ และมีไอเดียสร้างสรรค์แฝงความน่าค้นหา
บริเวณ Lobby ที่ดีไซน์ด้วยโทนสีเข้ม ตัดกับความหรูหราของสีดำและทอง ที่จะช่วยสะท้อนมุมมองในตัววัสดุ รวมถึงการเลือกลวดลายหินที่ปูพื้นสีเข้ม ที่ให้มีความมันวาวสร้างความหรูหราได้เป็นอย่างดี
Fitness ที่มีอุปกรณ์ครบครัน มีผนังกระจกใส เปิดมุมมองวิวสระว่ายน้ำ และ วิวเมืิอง
สระว่ายน้ำ Indoor ที่ออกแบบให้ดูมีความหรูหรา ดูเรียบขรึม แต่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ วิวรอบด้านเป็นกระจกปริซึม ช่วยสร้างมุมมองที่แตกต่าง
เปิดมุมมองย่านอโศก ด้วยหน้าต่างบานสูง พร้อมออกแบบราวกันตกกระจกเทมเปอร์แบบเปลือย มองเห็นวิวกว้างเต็มตา
พาชมห้องตัวอย่าง SHAA ASOKE
ห้องชุดโครงการมีทั้งหมด 143 ยูนิต มีห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นที่ 34.25 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นที่ 69.50 ตารางเมตร และ ห้อง Duplex ขนาด 107.25 – 113.25 ตารางเมตร ทุกห้องมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted คัดสรรวัสดุทั้งหมดคุณภาพระดับโลก
ห้องตัวอย่างที่จะพาไปชม เป็นแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 69.50 ตารางเมตร เป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ กับการแบ่งสัดส่วนห้องที่สามารถใช้ทุกพื้นที่ได้จริง ถ้ารูปลักษณ์ของ Sales Gallery คือประตูที่จะพาเข้าไปสู่โลกของ SHAA ห้องตัวอย่างนี้ก็เปรียบได้กับตัวตนที่แท้จริงของ SHAA ASOKE
จุดเด่นที่น่าสนใจของโครงการ SHAA ASOKE
– Digital Door Lock แค่ประตูทางเข้าก็แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจรายละเอียดทุกความรู้สึกของผู้อยู่อาศัย โครงการอื่นอาจจะชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยี แต่สำหรับ SHAA ดีไซน์ต้องมาก่อน ด้วยรูปแบบ Traditional ในสไตล์ Modern เป็นความเรียบง่ายที่คงความคลาสสิคไว้ Timeless Design ไม่ว่าผ่านไปกี่ปีก็ยังคงสวยงามไม่ล้าสมัย เมื่อได้รูปแบบของประตูแล้ว ถึงนำเทคโนโลยีใส่เข้าไป
เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัสก็สามารถ Unlock ได้ทันที นอกจากนี้ยังมีระบบ E-Key สำหรับเพื่อนๆ ที่มาหา หรือแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาด เมื่อเจ้าของห้องส่ง E-Key ให้ใคร ก็สามารถเข้าห้องได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเปิดเอง หากใช้งาน E-Key เสร็จแล้ว ทำการ Remove E-Key นั้น คนอื่นก็จะไม่สามารถเข้าห้องได้ ถือเป็นฟังก์ชันที่สะดวกสบายและตอบโจทย์สำหรับผู้ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมอย่างมาก
– SHAA ASOKE เป็นโครงการแรกที่นำสี Red Gold มาใช้ เมื่อได้มองไปยังห้องน้ำ แวบแรก สี Red Gold ค่อนข้างโดดเด่นจนสะดุดสายตา แต่หากมองโดยรวมแล้ว กลับช่วยทำให้บริเวณโดยรอบกลมกลืนไปกับสี Red Gold ได้อย่างสง่างามและนุ่มนวล เสมือนว่า สี Red Gold คือเครื่องประดับ ที่ไม่ได้ทำให้แค่เสื้อผ้าสวย แต่ยังส่งเสริมให้ผู้ใช้ดูมีสไตล์และมีรสนิยมที่ดี การใช้สีที่ไม่เหมือนใครนี้เอง สามารถบ่งบอกตัวตนในสไตล์ของ SHAA ให้น่าค้นหาและกระตุ้นให้ผู้ที่ได้มองอยากจะสัมผัสกับความพิเศษที่มีเอกลักษณ์นี้มากยิ่งขึ้น
– ดีไซน์ฟังก์ชั่นการใช้สอย ตัวห้องถูกออกแบบแยกส่วนของครัวและห้องน้ำแขกให้พ้นจากสายตา โดยให้ภายในห้องที่เป็นส่วนนั่งเล่นหรือทานอาหาร สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกเป็นพิเศษ โดยไม่ถูกรบกวนจากกิจกรรมของครัว หรือ เสียงจากการเข้าห้องน้ำ เพื่อจะได้สัมผัสการใช้ชีวิตในห้องพักส่วนตัวอย่างแท้จริง
– Mood&Tone ภายในห้อง เป็นโทนสีเข้มตัดกับสีทอง ทำให้ห้องดูเท่ห์ ทันสมัย ให้อารมณ์กระฉับกระเฉงอยู่เสมอ ห้องตัวอย่างไม่ได้ใส่เฟอร์นิเจอร์มากมายให้ห้องดูรก แต่เมื่อตกแต่งออกมาแล้ว กลับดูลงตัวและใช้งานได้จริง ฝ้าเพดานห้องมีความสูง 2.8 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่ง สบาย ไม่อึดอัด ด้วยโทนสีของห้อง เมื่อเราไปข้างนอกแล้วกลับเข้ามา ให้ความรู้สึกที่สงบ ทั้งยังมีไฟดาวน์ไลต์สีส้ม ที่เพิ่มความอบอุ่นให้กับห้อง
– พื้นไม้ Polymer Composites เป็นพื้นไม้ที่มีความแตกต่างจากพื้นไม้ Engineered ส่วนใหญ่คนจะเลือกใช้พื้นไม้ Engineered เนื่องจากผิวสัมผัสที่ได้ราวกับใช้ไม้จริง แต่ SHAA เลือกใช้ พื้นไม้ Polymer Composites มีการผสมเนื้อไม้จริงเช่นกัน สัมผัสที่ได้ก็คล้ายกับไม้จริง ซึ่งข้อดีที่ทำให้ พื้นไม้ Polymer Composites แตกต่างจากพื้นไม้อื่นๆ คือ ความทนทาน ทนต่อรอยขีดข่วน ไม่บวมน้ำและสีไม่ซีด มีการหดตัวของพื้นไม้น้อยมากๆ
โดยในประเทศไทย พื้นไม้ชนิดนี้อาจจะยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ในต่างประเทศ มีการใช้พื้นไม้ชนิดนี้มานานแล้ว เนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้น อุณหภูมิที่หนาวเย็น ทำให้พื้นไม้ชนิดนี้แก้ปัญหาการรื้อพื้น ความแข็งแรง การหดตัว หรือการขัดหน้าพื้นได้ดี และแน่นอนว่า SHAA ได้เลือกสรร พื้นไม้ Polymer Composites ยี่ห้อที่ดีที่สุด การันตีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม รับประกันอายุการใช้งานถึง 10 ปี
– ระบบ Home Automation ทางโครงการติดตั้งให้ทุกยูนิตจาก Zipato แบรนด์จากยุโรป มีแอปพลิเคชันรองรับการทำงานหลายรูปแบบ ทางโครงการจะให้สิ่งที่เป็นพื้นฐานอย่างการควบคุมแอร์และไฟ แต่ถ้าผู้อยู่อาศัยต้องการฟังก์ชันเพิ่มเติม สามารถซื้อเพิ่มได้ ทั้งการติดตั้ง CCTV ควบคุมอุณหภูมิ แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ที่คุณต้องการ
เข้ามาภายในห้อง สำหรับมุมรับประทานอาหารมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ดังนั้นการดีไซน์มุมนี้ค่อนข้างมีความยืดหยุ่น จะไว้ชุดโต๊ะทานอาหารสองที่นั่งหรือสี่ที่นั่งก็ไม่เป็นปัญหา หรือจะเป็นโต๊ะแบบโซฟายาวติดผนัง จากมุมทานอาหารธรรมดา ก็กลายเป็นมุมทำงานที่มองวิวผ่านห้องนั่งเล่นผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองได้
โซนห้องนั่งเล่น มีความเรียบ หรูหรา เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ดูมีเอกลักษณ์ มีสไตล์ ทั้งยังสามารถชมโทรทัศน์ไปพร้อมกับการชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนภายนอกได้ เป็นการผ่อนคลายทุกอิริยาบถให้หายเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่านมาตลอดทั้งวัน
ในส่วนของห้องนอนที่ 2 ทางโครงการออกแบบให้เกิดความหลากหลาย นอกจากจะเป็นห้องที่สามารถใส่เตียงขนาดใหญ่ได้แล้ว ยังเนรมิตให้เป็นห้องอเนกประสงค์ตามไลฟ์สไตล์ของเราได้อีกด้วย เป็นการนำเสนอในมุมที่ไม่เหมือนโครงการไหน ที่ต้องขีดเส้นแบ่งชัดเจนว่า นี่คือห้องนอน นี่คือห้องอเนกประสงค์ ห้องตัวอย่างแสดงให้เราได้เห็นแล้วว่า ห้องนอนสามารถดัดแปลงได้ทุกความต้องการ อยู่คนเดียวไม่จำเป็นต้องซื้อ 1 ห้องนอน แต่ซื้อ 2 ห้องนอน เพื่อมาเติมเต็มทุกกิจกรรมของชีวิต ใช้สอยทุกพื้นที่ให้เป็นประโยชน์และคุ้มค่าก็ได้เช่นกัน
Master Bedroom มีพื้นที่กว้างขวาง กระจกและประตูทำให้ห้องดูสว่างและโล่งมากขึ้น สามารถนอนชมวิวในห้องนอนผ่านหน้าต่าง หรือจะออกไปยืนรับลมที่ระเบียงเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศภายนอกก็ได้ เมื่ออยู่ในห้องนอนก็รู้สึกราวกับอยู่บ้าน พอออกมายืนรับลมที่ระเบียงก็รู้สึกถึงความสงบเหนือเมืองที่แสนวุ่นวายของกรุงเทพมหานคร
ตู้เสื้อผ้าจะเป็นประตูบานเลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย อยู่ใกล้กับห้องน้ำ ช่วยให้แต่งตัวได้ง่ายขึ้น
สำหรับห้องน้ำ ใช้กระเบื้องลายหินอ่อนเข้ามาตกแต่งทั้งส่วนพื้นและผนัง ส่วนอ่างล้างหน้า ชักโครกติดผนัง จะเป็นดีไซน์แบบไร้ฐานด้านล่าง ทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายขึ้น ความสวยงามของสี Red Gold กลมกลืนกับผนังสีสว่างและผนังสีเข้มได้อย่างลงตัว
อุปกรณ์ในห้องน้ำ ทั้งก๊อกน้ำ ราวแขวนผ้า ฝักบัว Rain Shower ฯลฯ ของโครงการฌาา ใช้ผลิตภัณฑ์จาก AXOR จากฝีมือการออกแบบของสถาปนิกชาวอิตาลี อันโตนิโอ ซิเตริโอ (Antonio Citterio) ในสีพิเศษ Red Gold
อ่างอาบน้ำดีไซน์แบบสั่งทำเฉพาะ มีโลโก้ SHAA อยู่ด้านใน เครื่องทำน้ำร้อนเป็นระบบ Static ที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
มีการกั้นส่วนเปียกและส่วนแห้งให้เป็นสัดส่วนด้วยกระจกนิรภัย
การออกแบบส่วนระเบียง ใช้กระจกนิรภัยกั้น เน้นดีไซน์แบบ Clean Line เปิดรับวิวที่ต่อเนื่องจากส่วนนั่งเล่น ให้สามารถส่งผ่านมุมมองจากภายในห้องได้อย่างเต็มที่
ระเบียงมีความยาวตั้งแต่ Master Bedroom ห้องนั่งเล่น ไปจนถึงห้องนอนที่ 2 ซึ่งแต่ละส่วนจะมีผนังกั้นให้ความเป็นส่วนตัว
ส่วนระเบียงมีที่กั้นคอมเพรสเซอร์แอร์ดูเรียบร้อย
สำหรับโซนด้านหน้าห้อง มีการจัดแบ่งห้องครัวกับห้องน้ำเอาไว้ด้วยกัน แม้ว่าจะแยกตัวออกมาจากห้องนั่งเล่น แต่กลับไม่ทำให้รู้สึกห่างหรือรู้สึกว่าอยู่ไกลเมื่อต้องการใช้งาน และยังทำให้มั่นใจได้ว่าเสียงห้องน้ำและห้องครัวด้านหน้า จะไม่ไปรบกวนกับพื้นที่ภายในห้องอย่างแน่นอน
ข้อดีของการดีไซน์แยกส่วนของครัวและห้องน้ำแขกให้พ้นจากสายตา ด้วยระยะทางเดินจากหน้าประตูเข้าสู่ตัวห้องด้านใน ทำให้ห้องนั่งเล่นและห้องนอนดูเป็นพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น
พื้นที่ครัว ทางโครงการให้ห้องครัวแบบ Built in ไม่ว่าจะเป็นตู้เก็บของด้านล่างหรือด้านบน อุปกรณ์ครัวเป็นของ Kuppersbusch เตาไฟฟ้า (1 ห้องนอนจะให้เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว 2 ห้องนอนให้เตาไฟฟ้าแบบ 4 หัว) เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน เตาอบ และตู้เย็น Built in ของ Teka ก็ถูกออกแบบให้เป็น Collection เดียวกันกับเคาน์เตอร์ครัวทั้งหมด มีพื้นที่ใช้สอยขนาดพอเหมาะ ไม่ทำให้อึดอัด แม้จะยืนทำอาหารหลายคนก็สามารถแบ่งพื้นที่กันได้อย่างสะดวกสบาย
ก็อกน้ำของอ่างล้างมือเป็นแบบ Shower คือเป็นสายฉีดที่สามารถยกออกมาได้ เพิ่มความพรีเมียมอีกจุดคือที่ก๊อกน้ำจะมีชื่อโครงการ SHAA พิมพ์เอาไว้ด้วย
แม้ว่าโซนครัวจะอยู่ด้านหน้า แต่ปัญหาของรกเกะกะหน้าห้องจะหมดไป เพราะตู้เก็บของที่โครงการให้ค่อนข้างเยอะ ทำให้มีพื้นที่เก็บของมากขึ้น บานพับตู้เก็บของเป็นแบบ Soft Close รวมถึงโครงการติดตั้งตู้เย็นแบบ Built – In มาให้ด้วย
บริเวณส่วนครัว จะมีการดีไซน์ตู้ Built in สำหรับวางเครื่องซักผ้า มาให้พร้อมใช้งานแล้ว
ภายในห้องน้ำเล็ก จะมีการตกแต่งในไสต์เดียวกันกับห้องน้ำใหญ่ ต่างกันที่ขนาดและการจัดวางเท่านั้น
บทสรุปหลังเยี่ยมชมโครงการ
จุดเด่นของโครงการ “SHAA ASOKE” มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ มีสไตล์เฉพาะตัวที่ทุกรายละเอียด คือการแสดงตัวตนของ “SHAA” ที่ชัดเจน ความเข้ม ความสุขุม ความเท่ห์ ความหรูหรา แต่แฝงด้วยความน่าค้นหา หล่อหลอมเป็นตัวอาคารสูง 24 ชั้น ความเรียบหรู ความอบอุ่น ความสงบ และความผ่อนคลาย ผสมผสานความพิเศษอย่างประณีตดังผลงงานชิ้นเอก พร้อมความเป็นส่วนตัวเพียง 143 ยูนิต ทุกเฟอร์นิเจอร์และฟังก์ชันคือความใส่ใจในทุกตารางเมตรของการใช้ชีวิต
SHAA ASOKE เดินทางสะดวกสบายทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า BTS อโศก, MRT สุขุมวิท หรือรถยนต์ส่วนตัวมาทางถนนสุขุมวิท เข้าทางซอยสุขุมวิท 19 หรือ มาทางถนนอโศกมนตรี เลี้ยวเข้าสุขุมวิท 21 ซอย 1 โครงการอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าทั้งสอง สิ่งแวดล้อมโดยรอบโครงการ เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์ทุกด้าน เพราะเป็นย่าน CBD ที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น ทำให้ในซอยมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรมมากมายเปิดให้บริการ ทั้งยังเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้งต่างๆ ง่ายนิดเดียว เรียกได้ว่ามีทุกสิ่งทุกอย่างจนไม่จำเป็นต้องไปหาที่ไหนไกลเลย แถมยังใกล้ Airport Link, รถไฟไทย และท่าเรือ ครบวงจรทั้ง รถ-ราง-เรือ
ทุกองค์ประกอบ โลเคชั่น การออกแบบและจัดวางอย่างมีความหมาย ผ่านการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด กลายเป็น คอนโดมิเนียมระดับ Luxury ที่ทำให้ทุกความลงตัวไม่ได้แค่มองเห็น แต่ทุกอณูของห้องและทุกตารางเมตรของโครงการ สามารถสัมผัสได้จริง เป็นความแตกต่างที่ไม่ตามแบบใคร ในแบบฉบับของ SHAA ASOKE โดย เคพีเอ็น แลนด์ เปรียบเสมือนผลงานชิ้นเอกที่สร้างความภูมิใจเมื่อได้ครอบครอง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมห้องตัวอย่างของโครงการ SHAA ASOKE ได้ที่ Sales Gallery ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kpnland.com หรือ โทร. 02-789-9000