TTA จับมือ 2 บริษัทชั้นนำจากญี่ปุ่น ผู้นำด้านอสังหาฯ เตรียมขึ้นโครงการคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์บนถนนสาทร

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ร่วมกับบริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (KRD) และบริษัท โทเร คอนสตรัคชั่น จำกัด (TCC) ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว และจัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด” โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนร่วมกันในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรีในประเทศไทย

 ข้อตกลงดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของทั้งสามบริษัท โดยผสานรวมประสบการณ์อันยาวนานและกว้างไกลของ TTA ในด้านการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก เข้ากับส่วนแบ่งตลาดของ KRD ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของ TCC ในธุรกิจการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แบบบูรณาการ ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว TTA จะถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 60 ในบริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ฯ โดย KRD ถือหุ้นร้อยละ 30 และ TCC ถือหุ้นร้อยละ 10 ตามลำดับ

 คุณเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรีเซนไทย   เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “TTA มองหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อร่วมกันนำบริษัทฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเทรนด์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังจากได้ที่ดินผืนงามบนถนนสาทรที่นับวันยิ่งจะหาได้ยากขึ้นทุกที TTA เล็งเห็นศักยภาพที่จะเพิ่มมูลค่าด้วยการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยสุดหรู การเป็นพันธมิตรกับ KRD และ TCC จึงสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ นอกจากนี้ แต่ละบริษัทฯ ยังมีค่านิยม จรรยาบรรณทางธุรกิจ และที่สำคัญ มีวิสัยทัศน์ต่อการขยายโอกาสทางธุรกิจจากเครือข่ายของบริษัทในเครือเหมือนกันอีกด้วย”

 คุณอุษณา มหากิจศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภายใต้ บริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เรามีเป้าหมายที่จะสร้างโครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรกของบริษัทฯ ให้เป็นแลนมาร์คระดับลักซ์ชัวรีแห่งใหม่ในประเทศไทย แม้จะมีโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก และภาคอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม แต่ทำเลสาทรถือเป็นย่านธุรกิจที่เฟื่องฟูของกรุงเทพฯ และยังได้รับความสนใจและเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมาและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากเป็นทำเลที่สำคัญ มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย การคมนาคมสะดวกเชื่อมต่อด้วยรถไฟฟ้า

 “ด้วยความรู้ความชำนาญของพันธมิตรจากญี่ปุ่นผนวกกับความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งในภาคอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว บริษัทฯ จึงมีความมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างแน่นอน บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปหลังช่วงโควิด-19 ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และการออกแบบที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับให้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรา”

 ประวัติอันน่าประทับใจของ KRD ในด้านการพัฒนาคอนโดมิเนียมและที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นนั้นประสบความสำเร็จด้วยแบรนด์เรือธง “CIELIA” ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยประมาณ 50,000 ยูนิตทั่วประเทศญี่ปุ่น ส่วนในระดับโลก KRD มีความสนใจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพิ่งขยายธุรกิจเข้าไปยังสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย

 คุณเคนอิจิ ฟูจิโนะ ประธานกรรมการ บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศที่ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บริษัทฯ สนใจเข้ามาขยายธุรกิจคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรต่อจากประเทศเวียดนามและประเทศอินโดนีเซีย การเริ่มต้นด้วยการร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศไทยครั้งนี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากความรู้ความชำนาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นมาสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่นี่ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ความร่วมกันทั้งสามฝ่ายระหว่าง TTA, TCC และ KRD จะสามารถสร้างเอกลักษณ์และคุณค่าใหม่ให้กับตลาดคอนโดมิเนียมในประเทศไทยได้”

คุณมาซาโนบุ คาโดกาวะ ประธานกรรมการ บริษัท โทเร คอนสตรัคชั่น จำกัด (TCC) เปิดเผยว่า “จากประสบการณ์อันยาวนานหลายปีของโทเร กรุ๊ป ในประเทศไทย และความรู้ทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศญี่ปุ่น บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถแสดงคุณค่าของโครงการคอนโดมิเนียมที่จะพัฒนาขึ้นให้แก่ผู้ซื้อที่มีศักยภาพในประเทศไทยได้ นับตั้งแต่ปี 2515 จนถึงปัจจุบัน TCC ได้ส่งมอบห้องชุดรวมกว่า 29,000 ยูนิต ทั่วประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบบูรณาการ ซึ่งรวมถึงการให้บริการเกี่ยวกับการก่อสร้างที่ครอบคลุมตั้งแต่การจัดซื้อที่ดิน การวางแผน ไปจนถึงการจัดการและบริการหลังการขาย”

ความคิดเห็น