GLAND เดินหน้าโครงการ "ซุปเปอร์ทาวเวอร์" เตรียมก่อสร้างภายในปี 2560

GLAND ปรับหมากเน้นธุรกิจพื้นที่เช่าแทนอสังหาฯ หวังหนุนรายได้ค่าเช่าปี 2560 เติบโตสูงกว่า 50% พร้อมเตรียมลงทุนโครงการ “ซุปเปอร์ ทาวเวอร์” ความสูง 125 ชั้น มูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท คาดช่วยเพิ่มพื้นที่เช่าอีก 1.3 แสนตร.ม. ส่วนแผนจัดตั้งกอง REIT อยู่ระหว่างรอก.ล.ต.อนุมัติ คาดมีความชัดเจนในไตรมาส 2/2560

super-tower-bangkok-001-170108b01

นายสุรกิจ ธารธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 2560 บริษัทคาดว่ารายได้จากค่าเช่าจะเติบโตสูงกว่า 50 % จากปี 2559 ที่มีการเติบโตเพียงเล็กน้อย โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ประจำมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่เช่ารวม 1.38 แสนตารางเมตร แบ่งเป็นโครงการ The 9th Tower พื้นที่ 6 หมื่นตารางเมตร, อาคาร Unilever House พื้นที่ 1.8 หมื่นตารางเมตร และอาคาร G Tower ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 1/2560 มีพื้นที่เช่าประมาณ 6 หมื่นตารางเมตร

ในส่วนของโครงการ“ซุปเปอร์ทาวเวอร์”นั้น ปัจจุบันได้ดำเนินการออกแบบเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2560 ซึ่งโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ใจกลางศูนย์กลางทางธุรกิจใหม่ ขนาดอาคาร 125 ชั้น มีพื้นที่เช่ารวม 1.3 แสนตารางเมตร มูลค่าการลงทุนประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท โดยหากโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยทำให้พื้นที่เช่าของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารพาณิชย์เพื่อกู้ยืมเงิน โดยบริษัทยังมีความสามารถในการกู้ยืมเงินได้ เพราะมีอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E) เพียง1.3เท่า แต่นโยบายจะรักษาระดับให้ไม่เกิน 2 เท่า

จ่อเปิดขายคอนโดมิเนียม

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายนั้น ปัจจุบันบริษัทมีการยอดขายรอโอน(Backlog) อยู่ที่ 100 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้เข้ามาในปี 2560 รวมทั้งยังมีโครงการเบ็ล สกาย คอนโดมิเนียมแนวสูง จำนวน 15 ชั้น 9 อาคาร บนถนนกำแพงเพชร เลียบทางรถไฟคู่ขนานกับนถนนวิภาวดีรังสิต ที่เป็นโครงการพร้อมขายมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวได้มีการจำหน่ายไปบางส่วนแล้ว และเตรียมจะเปิดขายส่วนที่เหลือในช่วงปลายปี 2560 รวมทั้งยังเตรียมที่จะเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม 16 ชั้น ย่านดอนเมือง มูลค่าโครงการกว่า 6.5 พันล้านบาท

“ปีหน้ารายได้จากค่าเช่ารายได้จะมากกว่ารายได้จากอสังหาฯเพื่อการขาย ซึ่งรายได้ค่าเช่าน่าจะเติบโตมากกว่า 50% ซึ่งเราต้องการเพิ่มรายได้ที่เป็นรายได้ประจำมากขึ้น โดยตอนนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการหลายโครงการอย่าง G Tower น่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 1/2560 และมีโครงการซุปเปอร์ทาวเวอร์ที่หากแล้วเสร็จจะเพิ่มพื้นที่เช่าให้บริษัทกว่าเท่าตัว และปีหน้าจะมีการรับรู้มูลค่ายุติธรรมที่เพิ่มขึ้นจากปีนี้ด้วย” นายสุรกิจ กล่าว

รอ ก.ล.ต.อนุมัติตั้ง REIT

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โดยมูลค่ากองอยู่ที่ประมาณ 5-6 พันล้านบาท ซึ่งกอง

ดังกล่าวได้นำ โครงการ The 9th Tower และอาคาร Unilever House จัดตั้งกอง ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเพราะปัจจุบันโครงการ The 9th Tower มีอัตราการเช่า (OCC) 98-99% ส่วนอาคาร Unilever House ก็มี OCC แล้ว 100%

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. ในช่วงไตรมาส 2/2560 และในอนาคตบริษัทก็จะมีการเพิ่มขนาดสินทรัพย์ของกอง REIT อย่างต่อเนื่อง ส่วนเงินที่ได้จากการจัดตั้งกอง REIT จะนำไปชำระหนี้ที่มีอยู่กว่า 3 พันล้านบาท

ที่มา นสพ.ทันหุ้น
วันที่ 27 ธันวาคม 2016

ความคิดเห็น