เปิดอาณาจักร “ฮันคิว ฮันชิน”มูลค่า 2.2 แสนล้านบาท พันธมิตรหลักของ "เสนาฯ" ร่วมลงทุนและแชร์ความรู้ พัฒนาอสังหาฯไทย

เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น: บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นำคณะสื่อมวลชนและผู้บริหารเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของอาณาจักร ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้ง กรุ๊ป มูลค่า 2.2 แสนล้านบาทซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ พร้อมโชว์ศักยภาพความเป็นที่สุดของวงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น ทั้งการบริหารจัดการ และการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังพาชม Geo fit+ Lab ห้องทดลองที่สร้างขึ้นเพื่อออกแบบและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ตามคำแนะนำของผู้อยู่อาศัย เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการใช้ชีวิตให้ลงตัวพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าภายใต้คอนเซปต์ “MADE FROM HER”

 

 

คุณวากาบายาชิ ชึเนะโอะ ประธานกรรมการบริหาร ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอร์เรชั่นเปิดเผยว่า ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ เป็น 1 ใน 6 ของธุรกิจในเครือบริษัท ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้ง กรุ๊ป ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 100 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 1907 โดยบริษัทในเครือที่ใหญ่ที่สุด คือ ธุรกิจการคมนาคมระหว่างเมือง ที่ประกอบด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมต่อระหว่าง 3 เมืองหลักในพื้นที่เขตคันไซ คือ เมืองโอซาก้า เมืองโกเบ และเมืองเกียวโตพร้อมสามารถเชื่อมต่อการเดินทางแถบชานเมืองด้วยรถโดยสารประจำทางและรถแท็กซี่ ถัดมาเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำรายได้เป็นลำดับที่ 2 ธุรกิจความบันเทิงแบบครบวงจร Entertainment Complex ธุรกิจการคมนาคมระหว่างประเทศInternational Transportationหรือการขนส่งสินค้าทางอากาศและทางเรือผ่านกว่า 100 เส้นทางใน 27 ประเทศทั่วโลก ธุรกิจโรงแรม ภายใต้การดูแล 48 แห่ง รวมมากกว่า 10,693 ห้องพัก และธุรกิจท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สามารถรองรับการท่องเที่ยวแบบกลุ่ม และการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ

 

สำหรับผลประกอบการล่าสุด ณ สิ้นมีนาคม 2018 พบว่า บริษัท ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้งส์ กรุ๊ปมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจคมนาคมระหว่างเมือง คิดเป็น 29.2% ถัดมาคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์27.6% ตามมาด้วยธุรกิจความบันเทิงแบบครบวงจร15% ธุรกิจการคมนาคมระหว่างประเทศ10.6% ธุรกิจโรงแรม 2.0% และธุรกิจท่องเที่ยว 4.2%

 

นอกจากการดำเนินธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ปีที่ผ่านมาฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป เริ่มมองหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยเนื่องจากมองว่ายังเป็นกลุ่มประเทศที่รายได้ผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) โตต่อเนื่องและมีศักยภาพในการเติบโตสูง จึงเริ่มเข้ามาลงทุนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เริ่มด้วยธุรกิจคลังสินค้าที่ประเทศสิงคโปร์ ถัดมาเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และขนส่งที่ประเทศอินโดนีเซีย ตามมาด้วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเวียดนาม ประเทศไทย ประเทศมาเลเซียและประเทศฟิลิปปินส์ตามลำดับ รวมมูลค่าการลงทุนปีละ 6,000 ล้านบาทบาท ซึ่งราว 25% ของการลงทุนในภูมิภาคนี้อยู่ที่ประเทศไทย เนื่องจากได้รับผลตอบแทนสูงที่สุด และเห็นตัวเลขรายได้ชัดเจนที่สุด

 

สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้ มาจากการที่กลุ่มฮันคิว มองเห็นศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและศักยภาพของเสนาฯ ที่มีความโดดเด่นและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัวที่สุดยกตัวอย่างเช่น โครงการ นิช โมโน สุขุมวิท – แบริ่ง โครงการร่วมทุนที่เปิดตัวโครงการแรกระหว่างบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด มีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท มียอดจองซื้อแล้ว 80% หลังเปิดโครงการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ถัดมาเป็นโครงการนิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ ซึ่งเปิดตัวโครงการไปเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา มูลค่าโครงการอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท ก็มียอดจองซื้อสูงถึง 70% เช่นกัน

 

ส่วนโครงการล่าสุดภายใต้ความร่วมมือของเสนา ฮันคิว คือโครงการคอนโดมิเนียมลักชูรี่แห่งแรก ที่มีมูลค่าโครงการสูงที่สุด 5,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ใจกลางถนนเอกมัย อีกหนึ่งทำเลฮิตของชาวต่างชาติ นอกจากความร่วมมือข้างต้นแล้ว เสนา ฮันคิว ยังมีแผนพัฒนาโครงการต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของเสนาดีเวลลอปเม้นท์ บวกกับความมั่นใจในเศรษฐกิจไทย ทำให้เตรียมลงทุนเพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท สะท้อนจากข้อมูลภาครัฐที่ระบุว่าในปี พ.ศ. 2574 หรืออีก 13 ปีข้างหน้าประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นสูงสุด นั่นหมายถึงความต้องการในอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีอีกมาก ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเนื้อหอมสำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้

 

7 โครงการ ร่วมทุนระหว่างเสนา – ฮันคิว ฮันชิน
1. โครงการนิช  โมโน สุขุมวิท – แบริ่ง (Niche MONO Sukhumvit – Bearing) สร้างเสร็จ 2019
2. โครงการ นิช โมโน เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์  (Niche Pride Taopoon-Interchange) สร้างเสร็จ 2020
3. โครงการ ปีติ เอกมัย (PITI EKKAMAI) สร้างเสร็จ 2021
4. โครงการ นิช โมโน เจริญนคร (NICHE MONO CHAROEN NAKORN) สร้างเสร็จ 2020
5. โครงการ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา (Niche MONO Mega Space Bangna) สร้างเสร็จ 2020
6. โครงการ นิช โมโน รามคำแหง (Niche Mono Ramkhamhaeng) สร้างเสร็จ 2021
7. โครงการ ปีติ บางจาก (PITI Bang Chak) สร้างเสร็จ 2021

 

ด้านผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ที่ยังคงมอบความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการร่วมมือกันพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ และเป็นการแสดงความเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัวที่สุด

 

ด้วยความยิ่งใหญ่ตลอดระยะเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา อาณาจักร ฮันคิว ฮันชิน โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป นั้นตอกย้ำศักยภาพความเป็นที่ 1 ในเขตคันไซได้เป็นอย่างดี ซึ่งการดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยที่แท้จริง เห็นได้จาก Geo fit+ Lab ห้องทดลองที่สร้างขึ้นเพื่อพัฒนาความพึงพอใจสูงสุดของการใช้ชีวิต โดยรวบรวมคำแนะนำและความคิดเห็นของผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงวัย มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ และทดลองใช้ในพื้นที่เสมือนจริงว่าเป็นอย่างไร พร้อมนำผลลัพธ์ที่ได้ไปปรับปรุงแก้ไขจนสามารถติดตั้งใช้ได้จริงในโครงการ เมื่อสิ้นสุดขบวนการนี้ ก็เริ่มขั้นตอนรับฟังใหม่ เป็นวงจรต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นว่าบ้านที่ดีที่สุด คือบ้านที่สนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด ซึ่งทางเสนาฯ เองได้นำโนว์ฮาวนี้มาต่อยอดสู่การทำ Focus Group และได้ข้อมูล Insight ของลูกค้า นำมาพัฒนาโปรดักส์ ผ่านแนวคิด “MADE FROM HER” ใส่ใจทุกดีเทลชีวิต จากแนวคิดแบบผู้หญิงที่เข้าใจถึงหัวคิดและหัวใจของผู้หญิง เพราะเชื่อว่า “ผู้หญิงอยู่สบาย ผู้ชายก็แฮปปี้” ตอบโจทย์ทุกมุมมองความละเอียดลออแบบผู้หญิงในทุกเรื่อง

ประกอบด้วย 2S และ 2C ดังนี้ 1.S = HER Self 2.S = HER Security 3.C = HER Comfort 4. C = HER Circle ให้ทุกรายละเอียดการใช้ชีวิตใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบมากที่สุด โดยเป็นวิธีคิดที่สร้างความแตกต่าง และส่งผ่านไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการ โดยบริษัทจะนำแนวคิด “MADE FROM HER”  มาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในทุกโครงการ ทุกเซกเมนต์ ระดับราคา 1- 10 ล้านบาท ซึ่งรายละเอียดจะแตกต่างกันไป เช่น การแยกส่วนฟิตเนส เพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆ ให้กับผู้หญิง รวมถึงการเพิ่มประกัน และบริการที่เกี่ยวข้อง

 

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2561

 

ความคิดเห็น