สรุป เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อบ้าน ปรับอัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) บังคับใช้ไป 1 เม.ย. 62
(9 พ.ย. 61) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศปรับเกณฑ์สินเชื่อบ้าน โดยมีใจความสำคัญเกี่ยวกับ การปรับการกำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ หรือ อัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ให้สะท้อนความเสี่ยงได้ดีขึ้น โดยเกณฑ์นี้จะมีผลกับผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยตั้งแต่หลังที่ 2 ขึ้นไป หรือ ซื้อที่อยู่อาศัยราคามากกว่า 10 ล้าน จะไม่มีผลกระทบกับการกู้เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินของตนเอง และผู้ที่ทำสัญญาซื้อขายก่อน 15 ต.ค. 61 เริ่มบังคับใช้ 1 เม.ย. 62
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีผู้ให้ความเห็นจำนวนมากในหลากหลายมิติ ซึ่ง ธปท. ขอขอบคุณทุกความเห็น โดยคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้นำความเห็นที่ได้รับมาประกอบการพิจารณา ก่อนสรุปหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สาระสำคัญดังนี้
1. การกำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ/อัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV)
สำหรับการผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกัน 2 หลังขึ้นไป และที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาท ขึ้นไป
– หากที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยผ่อนชำระหลังแรกตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จะต้องวางเงินดาวน์ 10%
– แต่ถ้าผ่อนชำระหลังแรกยังไม่ถึง 3 ปี หรือกู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องวางเงินดาวน์ 20%
– สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 3 ขึ้นไปจะต้องวางดาวน์ 30% ในทุกระดับราคา
โดยเกณฑ์นี้จะไม่กระทบกรณีการรีไฟแนนซ์สำหรับผู้กู้ที่มีภาระผ่อนเพียงหนึ่งหลัง ทั้งนี้ การรีไฟแนนซ์ทุกกรณีให้ใช้ราคาประเมินใหม่เพื่อสะท้อนมูลค่าปัจจุบัน
2. การนับรวมสินเชื่อ Top-up
ในวงเงินที่ขอกู้ จะนับรวมสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (สินเชื่อ Top-up) ทุกประเภทที่อ้างอิงหลักประกันเดียวกันในวงเงินที่ขอกู้ โดยให้ยกเว้น
– สินเชื่อที่ใช้ชำระเบี้ยประกันชีวิตผู้กู้และประกันวินาศภัย ซึ่งช่วยป้องกันความเสี่ยงของทั้งผู้กู้และสถาบันการเงิน
– สินเชื่อที่ให้กับธุรกิจ SMEs เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการรายย่อย
3. วันที่บังคับใช้ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป
โดยจะยกเว้นกรณีที่มีสัญญาจะซื้อจะขายก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 2561 เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ที่วางแผนซื้อที่อยู่อาศัยหรือผ่อนดาวน์อยู่ก่อนแล้ว
อนึ่ง การปรับปรุงเกณฑ์ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
– ดูแลประชาชนที่ต้องการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยให้สามารถซื้อบ้านได้ในราคาที่เหมาะสม
– ยกระดับมาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน
– เป็นมาตรการเชิงป้องกันเพื่อดูแลความเสี่ยงเชิงระบบ ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในต้นตอสำคัญของวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดทั่วโลก
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะติดตามการปรับตัวของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด โดยเน้นการตรวจสอบให้สถาบันการเงินมีแนวนโยบายและพิจารณาสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ธนาคารแห่งประเทศไทย – Bank of Thailand