มึนงบบานหมื่นล้านสายสีแดง “คมนาคม” บี้ “รถไฟ” แจงอีกรอบ 20 ส.ค. นี้

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณารถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17ส.ค.2563 ที่ประชุมคณะทำงานรถไฟชานเมืองสายสีแดงยังไม่ได้สรุปกรอบวงเงินจะขอเพิ่มจำนวน 10,345 ล้านบาท เนื่องจากรายการที่เสนอมายังไม่ครบและไม่ถูกต้อง และมีบางรายการที่ยังรอสั่งเพิ่ม ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) พิจารณาตัดบางรายการออกไปเพราะเห็นว่าไม่จำเป็นต้องทำ

“จึงให้ร.ฟ.ท.กลับไปทบทวนว่ารายการเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องทำจริงๆ หรือต้องรอสั่งจากผู้มีอำนาจตามสัญญากันแน่ ซึ่งตอนนี้ ร.ฟ.ท.รายงานว่ามีจำนวนรายการรวมประมาณ 200 รายการ แต่เท่าที่ประชุมร่วมกันยังเห็นว่าตัวเลขมันไม่ใช่ เลยให้กลับไปรวบรวมมาเสนอใหม่ในวันที่ 20 ส.ค.นี้”

 

ทั้งนี้ให้หลักการไปแล้วว่า รถไฟชานเมืองสายสีแดงจะต้องเปิดเดินรถให้ได้แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเปิดเดินรถได้เมื่อไหร่ก็ตาม ซึ่งก็อยากให้เปิดให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะฉะนั้น เวลาเดินรถจะต้องมีระบบบริการและดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ อย่าตัดรายการใดออกเพียงเพราะเงินเกินงบประมาณ ต้องคำนึงถึงคุณภาพการให้บริการและความปลอดภัยเป็นหลักก่อน

เมื่อหลักการชัดแล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องการตั้งงบประมาณอีกทีหนึ่ง หากพบว่ามีการปรับงบเพิ่ม อาจจะใช้ช่องทางขออนุมัติ”เงินเผื่อเหลือเผื่อขาด”ตามพ.ร.บ.วิธีงบประมาณ แต่ก็ต้องดูก่อนว่ามีการสำรองเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้เพียงพอหรือไม่ หากมีเพียงพอก็สามารถเบิกมาใช้ได้เลย

“ครั้งก่อนวิศวกรใหญ่ (สุชีพ สุขสว่าง) เป็นผู้นำเสนอข้อมูล แต่ครั้งนี้เป็นอีกคนหนึ่งข้อมูลเลยไม่ตรงกัน วันที่20 ส.ค.เลยบอกกับเขาไปว่า ครั้งต่อไปข้อมูลต้องเอาให้ตรงนะ และต้องสรุปมาเลยว่าทั้ง 200 รายการมีรายการที่ดำเนินการแล้วเสร็จกี่รายการและอยู่ระหว่างรอสั่งอีกกี่รายการ ซึ่งจะมีกรมการขนส่งทางรางเป็นผู้รับข้อมูล โดยคาดว่าวงเงิน 10,345 ล้านบาทอาจถูกปรับลดลงมา” ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวและว่า

เมื่อกรมการขนส่งราง (ขร.) พิจารณาข้อมูลที่ได้มาแล้วเสร็จ จะนัดประชุมเพื่อสรุปข้อมูลดังกล่าวอีกครั้ง จากนั้นจึงจะรายงานให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับทราบ หลังจากนั้นจะเป็นการประมวลข้อมูลต่างๆโดยรัฐมนตรีเองก่อนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในที่สุด ซึ่งก็ยอมรับว่าเลยไทม์ไลน์ 2 สัปดาห์ที่ท่านรัฐมนตรีให้มา ส่วนประเด็นผู้มีอำนาจสั่งงาน ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด

 

 

วันที่ 18 สิงหาคม 2563

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ



 

ความคิดเห็น