ปี60 พฤกษาฯ เตรียมลุยธุรกิจใหม่พันล้าน

พฤกษาฯ ระบุปี 2560 จะลงทุนธุรกิจใหม่สร้างรายได้ระยะยาว ใช้งบไม่เกิน 1,000 ล้าน

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกลยุทธ์ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง เปิดเผยว่า ในปี 2560 คาดจะเห็นความชัดเจนของการลงทุนในธุรกิจใหม่อย่างน้อยหนึ่งธุรกิจใหม่ โดยจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำเสริมให้กับบริษัทเข้ามา ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งคาดว่าจะเป็นธุรกิจภายในประเทศ พร้อมกับตั้งงบลงทุนสำหรับธุรกิจใหม่ในปีแรกอยู่ระหว่าง 500-1,000 ล้านบาท

“บริษัทได้มีพันธมิตรจากประเทศอินโดนีเซียติดต่อเข้ามาให้เข้าไปร่วมลงทุนธุรกิจพรีคาสท์ในประเทศอินโดนีเซีย แต่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้และความคุ้มค่าของการลงทุน ซึ่งบริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรในโครงการนี้”

ทั้งนี้ โครงสร้างโฮลดิ้งของพฤกษาตอนนี้ รายได้หลักก็ยังมาจากพฤกษา เรียลเอสเตทที่พัฒนาและขายโครงการอสังหา ริมทรัพย์อยู่ ส่วนธุรกิจใหม่อื่นๆ ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาอยู่ คาดว่าปีหน้าคงเห็นความชัดเจนอย่างน้อย หนึ่งธุรกิจ ซึ่งจะเน้นการลงทุนในประเทศก่อนที่จะสร้างรายได้ประจำเสริมให้กับบริษัท

“โครงสร้างโฮลดิ้งที่พฤกษาพิจารณาอยู่ ได้แก่ การลงทุนในต่างประเทศ ธุรกิจให้เช่า อย่างเช่น อาคารสำนักงานให้เช่า ซึ่งในเบื้องต้นได้เริ่มพัฒนาโครงการเพิร์ล แบงค็อก พหลโยธิน โดยทุนส่วนตัวโดยได้ปล่อยเช่าให้กับบริษัท พฤกษาฯ เช่ากว่า 70% ที่เหลืออีกกว่า 20% จะปล่อยให้บริษัทภายนอกเช่า โดยมีอัตราค่าเช่า 700 บาท/ตารางเมตร/เดือน คาดว่าโครงการนี้จะเริ่มเปิดใช้ในเดือน มี.ค. 2560 ส่วนธุรกิจโรงพยาบาลก็อยู่ระหว่างการพิจารณาเช่นกัน เนื่องจากสามารถช่วยเหลือสังคมได้ไปพร้อมๆ กัน”

นายทองมา กล่าวว่า ส่วนแผนธุรกิจของบริษัทในปี 2560 จะเริ่มเน้นการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น โดยมูลค่าตลาดของกลุ่มพรีเมียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปีนี้อยู่ที่ราว 7 หมื่นล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ 3.5 แสนล้านบาท ทำให้บริษัทมองว่ายังมีโอกาสอีกมากในการเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่ยังมีการเติบโตที่สูงและเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อในระดับปานกลางถึงสูง

สำหรับโครงการในกลุ่มพรีเมียมที่บริษัทจะพัฒนาในปี 2560 เบื้องต้นวางแผนเปิด 4 โครงการคอนโดมิเนียมในย่านทองหล่อ สุขุมวิท 61 พญาไท และสะพานควาย ราคาขาย 2 แสน-2.5 แสนบาท/ตารางเมตร ส่วนโครงการแนวราบในกลุ่มพรีเมียม บ้านเดี่ยวระดับราคาขายจะอยู่ที่ 15-20 ล้านบาท/ยูนิต โดยบริษัทตั้งเป้าภายใน 7 ปี จะมีสัดส่วนรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มพรีเมียมเพิ่มเป็น 20% ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มพรีเมียมค่อนข้างน้อย

ด้านภาพรวมของราคาที่ดินในปี 2560 คาดว่าจะปรับขึ้น 10% ราคาที่ดินที่บริษัทซื้อแพงที่สุดในปัจจุบัน คือ 6 แสนบาท/ตารางวา โดยไม่มีแผนที่จะซื้อที่ดินกลางเมืองที่มีราคา 1 ล้านบาท/ตารางวา

ที่มา หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
วันที่ 16 ธันวาคม 2559

ความคิดเห็น