ทุ่มไม่อั้น 3,000 ล้าน ขยายเมกาบางนาสู่เมกาซิตี้
เมกาบางนาเตรียมพัฒนาพื้นที่เฟส 2 ใช้งบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น “เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์” (Marvel Experience) แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แหล่งท่องเที่ยวบันเทิงแบบอินเตอร์แอคทีฟ และโรงเรียนประถมศึกษานานาชาติดิษยะศริน กรุงเทพ ในเครือเดียวกับโรงเรียน ดิ อเมริกัน สคูล ออฟ แบงค็อก (The American School of Bangkok) โดยจะเปิดให้บริการเดือนพฤษภาคมปีนี้ด้วยงบลงทุน 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังใช้งบลงทุน 1,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาพื้นที่เอ็ดดูเทนเม้นท์ เซ็นเตอร์ แหล่งรวมด้านการเรียนรู้แห่งใหม่ของกรุงเทพตะวันออก
“เมกาบางนาจะเป็นศูนย์กลางชุมชนที่ทันสมัย และเป็นเมืองที่คนสามารถทำงานและพักอาศัย รวมทั้งช้อปปิ้ง รับประทานอาหาร พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง และใช้เวลากับครอบครัว โดยเราจะแบ่งการพัฒนาเป็นหลายเฟส ซึ่งในที่สุดแล้ว โครงการเมกาซิตี้จะเป็นศูนย์รวมแห่งประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย และสวนพักผ่อน บนพื้นที่ 400 ไร่”
ปัจจุบันพื้นที่บางนาเป็นพื้นที่ชานเมืองที่ได้รับความสนใจ จากทั้งนักลงทุนและลูกค้าทั่วไปมากที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยกำลังซื้อของคนในพื้นที่ สถานศึกษาที่มีคุณภาพ และระยะทางที่ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติและโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก รวมทั้งระบบขนส่งมวลชนในอนาคต ทั้งรถไฟฟ้า MRT และรถโมโนเรล ทำให้นักพัฒนาและนักลงทุนสนใจเข้าร่วมโครงการพัฒนาเมกาบางนาและเมกาซิตี้
ล่าสุดบริษัทได้พัฒนา “เมกา ฟู้ดวอล์ค” บนพื้นที่กว่า 1 หมื่นตารางเมตร และอาคารจอดรถ 7 ชั้น ส่วนต่อขยายใหม่เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยเพิ่มจำนวนร้านอาหารอีก 29 ร้าน ส่งผลให้มีร้านอาหารรวมกว่า 160 ร้าน และในปีนี้จะมีผู้เช่าใหม่กว่า 100 ราย และเม็กเน็ตใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามา ซึ่งจะทำให้มีความหลากหลาย รองรับลูกค้าได้มากขึ้น โดยพบว่าหลังเปิดให้บริการเมกาฟู้ดวอล์ค มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 15%
โดยในปีนี้ เมกาบางนาทุ่มงบการตลาดเพิ่มอีก 20% จากปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับส่วนต่อขยายที่เปิดใหม่ กับกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น ทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่ม 10%
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561