“จัสท์โค” (JustCo) จับมือแสนสิริ ท้าชิงธุรกิจโคเวิร์คกิ้งสเปซ ปักธงเปิดสาขาแรกใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมวางเป้าเปิด 100 สาขาทั่วเอเชียในปี 2563

 

ความสำเร็จก้าวแรกภายใต้วิสัยทัศน์ “Everyday Visionaries” ของแสนสิริ เพื่อสร้างการเติบโตก้าวกระโดดครั้งใหม่ จับมือพันธมิตรระดับโลก “JustCo” สร้างนิยามใหม่ของการทำงานแบบใช้พื้นที่ร่วมกันในประเทศไทย ผ่านการใช้ทรัพยากร เครือข่าย และการเชื่อมโยงในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร

 

 

 

JustCo ผู้ให้บริการโคเวิร์คกิ้งสเปซสุดสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินหน้าสานต่อความเป็นพันธมิตรกับแสนสิริ ฉลองเปิด JustCo สาขาแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่อาคาร เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กลุ่มคนทำงาน นักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ และองค์กรธุรกิจทุกขนาดในประเทศไทย ได้สัมผัสกับบรรยากาศการทำงานแบบใช้พื้นที่ร่วมกัน แฝงความสนุกสนาน มีชีวิตชีวาเปิดโอกาสให้ทุกคนได้รู้จัก มีปฏิสัมพันธ์กัน และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ

 

 

การเปิดตัว JustCo แห่งแรกในกรุงเทพฯ คือก้าวแรกในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดอื่นๆ ในเอเชีย อีกทั้งยังเป็นความสำเร็จบทแรกจากการดำเนินวิสัยทัศน์ “Everyday Visionaries” ของแสนสิริเพื่อสร้างการเติบโตครั้งใหม่ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะกำหนดการใช้ชีวิตในอนาคต ครอบคลุมทั้งแนวทางการดำเนินชีวิต การทำงาน การพักผ่อนหย่อนใจ และการเรียนรู้ ทั้งยังสอดคล้องกับแนวคิดของ แสนสิริที่มุ่งเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตให้แก่ลูกบ้านทุกคนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยลูกบ้านแสนสิริจะสามารถใช้บริการได้ฟรีถึงสิ้นปีนี้

 

 

มร.คง วัน ซิง ผู้ก่อตั้งและประธานอำนวยการ JustCo กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีมานี้ โคเวิร์คกิ้งสเปซถือเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดและเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายทั้งในหมู่คนรุ่นใหม่ สตาร์ทอัพ ไปจนถึงบริษัทใหญ่ๆ โดยโคเวิร์คกิ้งสเปซไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สำนักงานให้เช่าเท่านั้น แต่เป็นคอมมูนิตี้ที่สมาชิกสามารถมาพูดคุยสร้างปฎิสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนวิธีการทำงานและแนวความคิดเพื่อต่อยอดธุรกิจให้ก้าวไกลไปกว่าเดิมได้

 

 

ซึ่งปัจจุบัน JustCo ถือเป็นผู้ให้บริการพื้นที่ในลักษณะโคเวิร์คกิ้งสเปซระดับพรีเมี่ยมที่ใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากโคเวิร์คกิ้งสเปซอื่นๆ คือ เราไม่ได้เป็นแค่ผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ แต่เราสร้างคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ที่ช่วยให้สมาชิกของ JustCo สามารถสร้างคอนเนคชั่นใหม่ ๆ พร้อมทั้งมองหาโอกาสต่อยอดทางธุรกิจอื่นๆ นอกจากนี้ JustCo ยังมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรระยะยาวที่จะเชื่อมต่อสมาชิก JustCo ไปสู่ตลาดในระดับภูมิภาคและพวกเขายังสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่น่าสนใจได้อีกด้วย”

 

 

มร.คง วัน ซิง กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในวันนี้ เรามีความยินดีอย่างยิ่งกับการเปิดตัวเซ็นเตอร์แห่งแรกของ JustCo ในประเทศไทย การร่วมเป็นพันธมิตรกับแสนสิริซึ่งเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ของไทยคือแรงผลักดันสำคัญที่เบิกทางให้เราสามารถสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานของแสนสิริในตลาดเอเชียและยังเป็นการเชื่อมโยง JustCo สู่ลูกบ้านแสนสิริที่มีอยู่จำนวนมากอีกด้วย

 

 

ประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจที่โดดเด่นของภูมิภาค ด้วยยุทธศาสตร์ด้านทำเลที่ตั้งที่ดี และความพร้อมในด้านระบบสาธารณูปโภค เราจึงเห็นว่าไทยคือตลาดที่สำคัญของ JustCo และเป็นประตูเชื่อมโยงให้เราขยายธุรกิจไปสู่ตลาดอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความมุ่งมั่นของ JustCo คือการสร้างระบบนิเวศใหม่ในการทำงานซึ่งเอื้อให้คนทำงานและธุรกิจทุกขนาดได้รับประโยชน์จากพลังของเครือข่าย ผ่านการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันการมีส่วนร่วม และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างสมาชิก ซึ่งนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ และความสำเร็จที่ดีเยี่ยมทางธุรกิจ”

 

 

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเปิดตัว โคเวิร์คกิ้งสเปซ JustCo แห่งแรกในประเทศไทยคือความสำเร็จก้าวแรกของการดำเนินกลยุทธ์ Everyday Visionaries เพื่อสร้างการเติบโตครั้งใหม่ซึ่งเราริเริ่มเมื่อปี 2560 โดยการร่วมลงทุนใน 6 ธุรกิจเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ระดับโลก ซึ่งต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการร่วมกันสรรสร้างวิถีแห่งการใช้ชีวิต การทำงาน การเรียนรู้ และการพักผ่อนหย่อนใจเพื่อวันข้างหน้าที่ดีขึ้น เป็นทื่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันรูปแบบการทำงานไม่ได้จำกัดอยู่ในออฟฟิศแบบเดิมๆ อีกแล้ว กระแสการเติบโตอย่างสูงของธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพใหม่ๆ ทำให้เกิดความต้องการสถานที่ทำงานรูปแบบใหม่ ที่ให้ความยืดหยุ่นสูง และส่งเสริมให้ทำงานร่วมกัน

 

นอกจากนั้น องค์กรธุรกิจใหญ่ๆ หลายแห่งก็เริ่มให้ความสนใจกับโคเวิร์คกิ้งสเปซเพื่อสร้างพลังและประสิทธิภาพในการทำงานให้พนักงานด้วยบรรยากาศการทำงานที่สร้างสรรค์และร่วมมือกัน JustCo จึงเกิดขึ้นในช่วงจังหวะที่ลงตัวเพื่อตอบสนองการเติบโตอย่างมีศักยภาพของปรากฏการณ์โคเวิร์คกิ้งสเปซในประเทศไทย”

 

 

“แสนสิริเล็งเห็นว่า JustCo คือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทั้งในฐานะผู้ให้บริการโคเวิร์คกิ้งสเปซและผู้สร้างพื้นที่การใช้ชีวิตใหม่ๆ ให้กับโครงการแสนสิริและพันธมิตรอื่นๆ ของเราในอนาคต ซึ่งภายใต้การจับมือกันครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายสามารถแบ่งปันทรัพยากร ความรู้ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และฐานลูกค้าร่วมกัน นอกจากนั้น ลูกค้าและลูกบ้านของแสนสิริจะได้รับสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ในการเข้าถึงเครือข่ายโคเวิร์คกิ้งสเปซของ JustCo โดยลูกบ้านแสนสิริสามารถเข้าใช้บริการ Hot-desking ได้ฟรีถึงสิ้นปี รวมถึงในปีหน้าจะได้รับส่วนลด 20% เมื่อสมัครแพ็คเกจสมาชิกอีกด้วย” นายอภิชาติกล่าว

 

JustCo ที่ เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ มีพื้นที่ 2 ชั้น รวมกว่า 3,200 ตารางเมตรนับเป็น co-working space ที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย มีการตกแต่งที่สดใส มีชีวิตชีวา ด้วยองค์ประกอบที่สนุกสนาน แนวการออกแบบเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุสไตล์อินดัสเทรียล โต๊ะทำงานที่ใช้ร่วมกัน และเก้าอี้ชิงช้า เพิ่มเติมลูกเล่นด้วยการใช้โทนสีสดในมุมต่างๆ

 

 

พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งพื้นที่ทำงานแบบฮ็อตเดสก์ พื้นที่ทำงานส่วนตัวที่เงียบสงบ ห้องประชุม พื้นที่จัดอีเวนท์ คาเฟ่ มุมเตะฟุตบอลและตีกอล์ฟ พร้อมแนวคิดที่ส่งเสริมให้เกิดชุมชนแห่งการทำงานโดยการจัดอีเวนท์และกิจกรรมร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงธุรกิจทุกรูปแบบ และทุกขนาดเข้าด้วยกัน

 

 

ด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางธุรกิจของสาทร ผู้ใช้บริการสามารถเดินทางสู่ JustCo เซ็นเตอร์ที่ เอไอเอ สาทรทาวเวอร์ ได้สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสุรศักดิ์ และจะเชื่อมต่อผ่านสกายวอล์คสู่สถานีศึกษาวิทยา ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2562 JustCo มีแผนจะเปิดสาขาที่สองที่แคปิตอลทาวเวอร์ ออลซีซั่นเพลส ในเดือนกรกฎาคม 2561

 

JustCo ยังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น J App ซึ่งสามารถเข้าใช้ได้ผ่านทั้งสมาร์ทโฟนและเว็บไซต์ ทำให้สมาชิกเข้าถึงแพล็ตฟอร์มโคเวิร์คกิ้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถจองห้องประชุมล่วงหน้าได้จากทุกที่ทั่วโลก แลกเปลี่ยนไอเดียกับสมาชิกคนอื่นทั้งในฐานะบุคคลหรือบริษัทและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจภายในเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยสมาชิกระดับคุณภาพกว่า 12,000 คน ปัจจุบันสมาชิกสามารถเข้าใช้ J App ผ่านเว็บไซต์ได้แล้วและภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้จะพร้อมเปิดให้ใช้บริการผ่านสมาร์ทโฟน

 

 

“วันนี้ JustCo กำลังก้าวสู่มิติใหม่ในการขยายธุรกิจสู่ประเทศไทย เราเชื่อว่าด้วยการประสานพลังระหว่างพันธมิตรกับแสนสิริ จะสามารถเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิต (Complete Your Living Experience) ให้แก่ลูกบ้านของเราอย่างไร้รอยต่อ นอกจากนั้น พันธมิตรเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ยังเสริมความแกร่งให้แบรนด์แสนสิริบนเวทีระดับโลก เช่นเดียวกับสร้างแหล่งรายได้ใหม่ซึ่งจะเป็นมูลค่าเพิ่มให้กับลูกบ้านแสนสิริและธุรกิจหลักของเรา” นายอภิชาติกล่าว

 

 

Co-working space ในแบบของ JustCo ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อตอบรับความต้องการของธุรกิจขนาดเล็กและคนทำงานฟรีแลนซ์ที่ต้องการเช่าพื้นที่ส่วนตัวแบบระยะยาว หรือกลุ่มที่ไม่ต้องการทำงานที่บ้านเท่านั้น เพราะปัจจุบัน บริษัทที่ติดอยู่ในอันดับของ Fortune 500 และองค์กรระดับนานาชาติในเอเชียล้วนปรับเปลี่ยนสู่วิธีการทำงานแบบใหม่ในลักษณะ Co-working space ด้วยเช่นเดียวกัน

 

ทั้งนี้ด้วยกลยุทธ์ของบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการเข้ามาใกล้ชิดกับหน่วยธุรกิจหรือชุมชนที่มีแนวคิดแบบเดียวกันมากขึ้น เพื่อพัฒนาความร่วมมือใหม่ๆ พร้อมทั้งค้นหาคนมีความสามารถใหม่ JustCo จึงเล็งเห็นความต้องการสถานที่ทำงานที่ปัจเจกบุคคลและองค์กรธุรกิจสามารถเข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อก่อให้เกิดสายสัมพันธ์ที่ต่อยอดธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าได้

 

 

สิ่งที่ทำให้ JustCo แตกต่างจาก Co-working space อื่นๆ ก็คือการสร้างชุมชนขนาดใหญ่ให้สมาชิกของเราสามารถสร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆ พร้อมทั้งสำรวจและมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้ด้วย JustCo ยังมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรระยะยาว ช่วยให้สมาชิกสามารถเชื่อมต่อไปสู่ตลาดในระดับภูมิภาค เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ ทั้งยังได้รับแพ็คเกจพิเศษในแง่ของบริการทางธุรกิจด้านต่างๆ ตัวอย่างของพันธมิตรระยะยาวที่ JustCo มี อาทิ Venture Hub โดยไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส, Dropbox และ Salesforce

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกยังสามารถจัดอีเว้นท์หรือกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำเพื่อส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกัน อันจะนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภาพ กิจกรรมของ JustCo นั้นครอบคลุมไปในหลากหลายหัวข้อ ตั้งแต่กิจกรรมด้านการเงิน เทคโนโลยี และการพัฒนาทักษะด้านอารมณ์ในธุรกิจ (Soft Skill) เรื่อยไปจนถึงด้านไลฟ์สไตล์และงานเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ซึ่งสมาชิกสามารถเข้ามาผ่อนคลายหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับงานมาทั้งวัน

 

JustCo แต่ละแห่งได้รับการออกแบบให้เปิดรับแสงธรรมชาติ พร้อมรูปแบบการจัดวางโต๊ะและที่นั่งที่ส่งเสริมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดผลิตภาพ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้เป็นสไตล์สแกนดิเวียน มีการเผยรายละเอียดของกำแพงอิฐและใช้แสงนีออนที่ออกแบบและติดตั้งอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ

 

นอกจากนี้ JustCo ยังมีการจัดพื้นที่เปิดโล่งอย่างสมดุลระหว่างการเป็นพื้นที่เพื่อการทำงานอย่างมืออาชีพและการสร้างความเป็นชุมชนที่เต็มเปี่ยมด้วยมิตรภาพ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสำนักงานครบครัน ในขณะที่พื้นที่สำหรับความบันเทิงเพื่อความผ่อนคลายของสมาชิกก็มีให้อย่างครบครันไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเล่นปิงปอง ฟุตบอลโต๊ะ        หรือเกมอาร์เคด

 

 

ในฐานะผู้ให้บริการ Co-working space ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ JustCo มีความมุ่งมั่นที่จะรุกตลาดในภูมิภาคเอเชียอย่างจริงจังด้วยการเข้าไปดำเนินธุรกิจในเมืองสำคัญในภูมิภาค ผ่านการเปิดดำเนินการ JustCo กว่า 100 แห่งให้ได้ภูมิภาคนี้ภายในปี 2563

 

JustCo ประเทศไทย

ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของถนนสาทร สามารถเดินทางไปมาสะดวก เนื่องจากอยู่ห่างจากบีทีเอส สถานีสุรศักดิ์ ในระยะเดินเพียง 3-5 นาทีเท่านั้น โดยในอนาคตภายในไตรมาสแรกของปี 2562 ยังจะเชื่อมต่อกับบีทีเอส สถานีศึกษาวิทยาอีกด้วย อาคารแห่งนี้ได้รับรางวัลมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED Gold pre-certification โดยมีการติดตั้งระบบไฟ LED สำหรับส่วนภายในของอาคาร พร้อมทั้งใช้กระจกสะท้อนแสงสามชั้น และเพดานสูงถึง 3 เมตร

 

 

แพ็คเกจราคา

– Just DeskBasic ราคา 990 บาท/เดือน: เข้าใช้ได้ 1 วันใน 1 เดือน โดยสามารถใช้บริการต่างๆ ของ JustCo อาทิ การเข้าร่วมกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่าย ฯลฯ ได้ และสามารถใช้บริการอื่นๆ เช่น บริการที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์ และบริการสิ่งอำนวยความสะดวกในสำนักงาน อาทิ การพิมพ์เอกสาร และบริการด้านไอที ฯลฯ ได้อีกด้วย

 

– Just DeskUnlimited ราคา 3,900 บาท/เดือน: เข้าใช้บริการได้ไม่จำกัดครั้งในแต่ละเดือน โดยสามารถใช้บริการพื้นที่โต๊ะทำงานที่ต้องการตรงไหนก็ได้และใช้ได้ทุกเวลา และสามารถใช้บริการต่างๆ ของ JustCo อาทิ การเข้าร่วมกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่าย ฯลฯ ได้ และสามารถใช้บริการอื่นๆ เช่น บริการที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์ และบริการสิ่งอำนวยความสะดวกในสำนักงาน อาทิ การพิมพ์เอกสาร และบริการด้านไอที ฯลฯ ได้อีกด้วย

 

Just DeskDedicated ราคา 6,900 บาท/เดือน: เข้าใช้บริการได้อย่างไม่จำกัดในพื้นที่โต๊ะทำงานส่วนตัวที่มีการจองไว้ให้โดยเฉพาะ และสามารถใช้บริการต่าง ๆ ของ JustCo อาทิ การเข้าร่วมกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่าย ฯลฯ ได้ และสามารถใช้บริการอื่น ๆ เช่น บริการที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์ และบริการสิ่งอำนวยความสะดวกในสำนักงาน อาทิ การพิมพ์เอกสาร และบริการด้านไอที ฯลฯ ได้อีกด้วย

 

– Just Studio ราคา 7,500 บาท/เดือน: สามารถเข้าใช้บริการพื้นที่สตูดิโอสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่สงบและสะดวกปลอดภัย

 

 

รายละเอียดเพิ่มเติม

JustCo ยังมีบริการล็อคเกอร์ให้ฟรีสำหรับผู้ซื้อแพ็คเกจ Just DeskDedicated ส่วนผู้ใช้บริการที่ซื้อแพ็คเกจ Just DeskBasic และ Just DeskUnlimited มีค่าบริการ 200 บาท/วัน หรือ 2,000 บาท/เดือน

 

JustCo ยังเปิดพื้นที่โล่งภายใน Co-working space แห่งนี้ให้สมาชิกสามารถจัดงานอีเว้นท์หรือกิจกรรมใด ๆ พร้อมกับมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามของย่านสาทรไปพร้อมกัน โดยพื้นที่จัดอีเว้นท์นี้สามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานได้ 50-80 คน โดยรองรับได้ไม่เกิน 50 คนสำหรับการจัดงานแบบนั่งโต๊ะรับประทานอาหาร และไม่เกิน 80 คนสำหรับงานคอกเทล

 

 

ทั้งนี้ JustCo จะเปิด Co-working space แห่งที่ 2 ในประเทศไทยที่อาคารแคปิตอล ทาวเวอร์ ออล ซีซันส์ เพลซ ในเดือนกรกฎาคมนี้

 

 

ที่มา : www.justcoglobal.com

วันที่ 31 พฤษภาคม 2561

 

 

 

ความคิดเห็น