คลังยืนยันไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์

ก.คลัง ยืนยันไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ คาดปีนี้ทาวน์เฮาส์ ย่านสะพานใหม่ คูคต เพชรเกษม บางแค ตามเส้นทางรถไฟฟ้ามาแรง

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถา เรื่องนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ในงานสัมมนาอสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี 2017 ว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการลดค่าธรรมเนียม การจดจำนอง การโอน เหมือนปีที่ผ่านมา เพราะแม้ว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวในปีที่แล้ว เนื่องจากราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาประเมินที่ดินใหม่ แต่ปีนี้เชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์จะขยายตัวดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าในกรุงเทพ และ ปริมณฑล  โดยปีนี้มีงบการลงทุนขนส่ง 36 โครงการ เช่น รถไฟรางคู่,  มอเตอร์เวย์ สนามบิน มูลค่ากว่า 8.9 แสนล้านบาท และยังมีงบกลางปีอีก 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกที่ชัดเจนต่ออสังหาริมทรัพย์ และเกิดการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ออกไปตามต่างจังหวัด เกิดการกระจายตัวของเมือง และเป็นปัจจัยหนุนให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี นี้โตสูงถึงร้อยละ 3.6 มากกว่าปีที่แล้วที่โตร้อยละ 3.2

 

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร  กล่าวว่า  รัฐบาลไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ หากรัฐบาลสามารถเริ่มการลงทุนได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้เอกชนลงทุนตาม โดยประเมินอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพ และ ปริมณฑลปีนี้ขยายตัวร้อยละ 5 แต่เป็นห่วงอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้กำลังซื้อประชาชนน้อยลง แตกต่างจากภาคตะวันออกที่ยังขยายตัวได้ เพราะมีปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยว และ เป็นเมืองอุตสาหกรรม

 

นายอธิป กล่าวว่า ในปีนี้ต้องจับตาการเติบโตของทาวน์เฮาส์ที่คาดว่าจะกลับมาโดดเด่นขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 10 โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ปทุมธานี  สายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง- บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ  เนื่องจากราคาต่อพื้นที่ต่อหน่วยถูกกว่าคอนโดมิเนียม และมีความสะดวกในการเดินทางเพราะส่วนใหญ่จะอยู่ในซอยใกล้สถานีรถไฟฟ้า ส่วนตลาดบ้านจัดสรร คาดว่ายังทรงตัวเหมือนปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วง กับสีน้ำเงิน ช่วงเตาปูน-บางซื่อ  ให้เสร็จโดยเร็ว และ ต้องมีมาตรการจูงใจให้มีผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงมากขึ้น ด้วยการลดราคาค่าโดยสาร หรือ จัดตั๋วพิเศษ เพราะปัจจุบันมีผู้มาใช้บริการน้อยมาก เนื่องจากประชาชนที่อยู่ในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นผู้มีรายได้ปานกลาง จึงเลือกใช้บริการรถประจำทาง และ รถตู้โดยสาร ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า และเดินทางสะดวก ส่งผลกระทบให้คอนโดมิเนียมในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก

 

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงค้างสต็อกอยู่ 10,000-20,000 ยูนิต และ ต้องใช้เวลา 1-2 ปี ในการระบายสต็อกหมด ซึ่งปัญาของรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เกิดขึ้นมาจากความไม่สะดวกในการเดินทาง เป็นปัญหาเฉพาะที่คาดว่าจะไม่เกิดขึ้นกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าคอนโดมิเนียมยังได้รับความนิยม โดยเฉพาะเส้นทางสายสีเขียวส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ  ส่วนภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 5 โดยแบ่งเป็นในกรุงเทพและปริมณฑล มีมูลค่ารวม 370,000 ล้านบาท และ ต่างจังหวัด 200,000-300,000 ล้านบาท .- สำนักข่าวไทย

 

ที่มา สำนักข่าวไทย

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560

ความคิดเห็น