"การเคหะ" เตรียมเปิดขายคอนโดแนวรถไฟฟ้า ปีหน้า เริ่ม 8 แสน – 1.2 ล้าน

บอร์ดสภาพัฒน์ไฟเขียว “การเคหะแห่งชาติ” พัฒนาคอนโดฯ ทาวน์เฮาส์ แนวรถไฟฟ้า 2 ทำเล ประเดิม “ลำลูกกา คลอง 2 และ ประชานิเวศน์ 3” รับสายสีชมพูกับสีเขียวเหนือ รอ “ครม.” เคาะ ดีเดย์ปีหน้าเปิดขายเริ่มต้น 8 แสน-1.2 ล้านบาท เจาะตลาดผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง

นางสาวอุบลวรรณ สืบยุบล รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผย ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอแผนการลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยในแนวรถไฟฟ้า 2 ทำเล เป็นการพัฒนาบนที่ดินของ กคช.เอง รูปแบบโครงการจะพัฒนาเป็นโครงการขายขาด รองรับกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง

ประกอบด้วย

1.โครงการลำลูกกา คลองสอง บนถนนเสมาฟ้าคราม ในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) พื้นที่ 25-28 ไร่ รวม 820 หน่วย แบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะแรกพัฒนาเป็นอาคารชุดสูง 4 ชั้นพร้อมลิฟต์โดยสาร จำนวน 10 อาคาร ขนาดห้อง 27 ตร.ม. จำนวน 616 หน่วย วงเงินก่อสร้าง 426 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 8.68-8.91 แสนบาท และระยะที่ 2 พัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ขนาดพื้นที่ 20 ตร.ว. จำนวน 22 หน่วย ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น (ห้องริม) ขนาดพื้นที่ 28 ตร.ว. จำนวน 12 หน่วย และบ้านแฝดเชิงอิสระ ขนาดพื้นที่ 35 ตร.ว. จำนวน 170 หน่วย ราคาเริ่มต้น 3.3-3.5 ล้านบาท จะเริ่มพัฒนาในปี 2563

2.โครงการประชานิเวศน์ 3 ตรงข้ามโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ ในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) กับสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) พื้นที่ 6 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารชุดสูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ขนาดห้อง 25.5 ตร.ม. จำนวน 94 หน่วย และขนาดห้อง 30 ตร.ม. จำนวน 455 หน่วย กับพื้นที่ร้านค้าขนาด 25.5 ตร.ม. จำนวน 7 หน่วย ค่าก่อสร้าง 465 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 8.28 แสนบาทถึง 1.2 ล้านบาท

นางสาวอุบลวรรณ กล่าวว่า โครงการนี้จะกู้เงินมาก่อสร้าง ขณะนี้ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และบอร์ดสภาพัฒน์แล้ว อยู่ระหว่างรอสำนักงบประมาณให้ความเห็นประกอบการพิจารณาเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ คาดว่าปลายเดือน ธ.ค.นี้ถึงต้นเดือน ม.ค.ปีหน้าจะเสนอ ครม.ได้ หากได้รับการอนุมัติจะเริ่มเปิดจองประมาณเดือน มี.ค.-เม.ย. เริ่มสร้างเดือน ก.ค. ใช้เวลา 18 เดือน จะแล้วเสร็จปลายปี 2561 เจาะตลาดกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ที่มีไลฟ์สไตล์ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง

ส่วนโครงการเคหะบางปู พื้นที่ 48 ไร่ ที่จะพัฒนารับรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยาย (สมุทรปราการ-บางปู) รูปแบบโครงการเป็นคอนโดฯ 8 ชั้น 10 อาคาร รวม 1,260 หน่วย พื้นที่ใช้สอย 25-30 ตร.ม. ราคาขายเริ่ม 8.28-9.51 แสนบาท ทางบอร์ดสภาพัฒน์ให้ชะลอโครงการออกไปก่อน เนื่องจากมองว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ยังไม่ชัดเจน และมีการพัฒนาคอนโดมิเนียมของเอกชนจำนวนมาก ซึ่ง กคช.จะไม่พัฒนาโครงการขายแข่งกับเอกชน

สำหรับความคืบหน้าโครงการพัฒนาคอนโดฯแนวรถไฟฟ้า ร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไขการพัฒนาร่วมกัน จะดำเนินการใน 2 ทำเล คือ สถานีคลองบางไผ่ ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจรของสายสีม่วง (คลองบางไผ่-เตาปูน) กับย่านบางปิ้ง ใกล้กับสถานีเคหะสมุทรปราการของสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) จะพัฒนาโครงการในรูปแบบเช่าเซ้ง 30 ปี ต่ออายุสัญญาได้อีก 30 ปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2560

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ กคช.กับ รฟม.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกันพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้า 3 โครงการ ที่อยู่อาศัยประมาณ 21,400 ยูนิต ราคาเริ่มต้นคาดว่าอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท/ยูนิต รองรับผู้มีรายได้ปานกลาง ได้แก่

1.สถานีคลองบางไผ่ มีที่ดิน 14 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดฯ 2 อาคาร อาคารละ 638 ยูนิต รวม 1,276 ยูนิต คิดเป็นพื้นที่อาคารรวม 75,350 ตร.ม. อาคารเชิงพาณิชย์ ขนาด 48,632 ตร.ม. และพื้นที่จอดรถ 1,336 คัน คิดเป็นพื้นที่ 16,012 ตร.ม.

2.พื้นที่บางปิ้ง มีที่ดินประมาณ 18 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม 3 อาคาร สูง 30 ชั้น อาคารละ 720 ยูนิต รวม 2,160 ยูนิต คิดเป็นพื้นที่อาคารรวม 154,704 ตร.ม. และอาคารจอดรถ 6 ชั้น จำนวน 1,758 คัน

3.พื้นที่ร่มเกล้า 280 ไร่ ในแนวสายสีชมพูกับสีส้ม พัฒนาเป็นคอนโดฯ 18,000 ยูนิต พื้นที่จอดรถ 8,821 คัน อาคารเชิงพาณิชย์สำนักงาน โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โดยแหล่งเงินลงทุนมี 2 แนวทาง คือ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง กคช.กับ รฟม.เพื่อร่วมกันพัฒนา หรือระดมเงินทุนผ่านการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 13 ธันวาคม 2559

ความคิดเห็น