แต่งคอนโดให้เป็นเหมือนบ้าน แหล่งความสุขแห่งที่ 2 ในชีวิตคุณ
อยู่คอนโดยังไงก็ไม่เหมือนอยู่บ้าน เพราะพื้นที่ของคอนโดค่อนข้างจำกัด แตกต่างจากบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวางกว่า แถมยังมีพื้นที่รอบๆ บ้านให้ได้ใช้งานเพิ่มเติมได้ เรียกได้ว่ามีความยืดหยุ่นในการสร้างสรรค์ ออกแบบ ตกแต่ง รวมไปถึงการใช้ชีวิตที่มีความอิสระ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยทำเลที่อยู่ห่างจากใจกลางเมือง หากไม่มีรถยนต์ส่วนตัว คงต้องลำบากสักหน่อยกับการเดินทางเข้ามาทำงานในเมือง
และแม้จะมีรถยนต์ส่วนตัวก็คงเจอปัญหารถติดในเมืองอยู่ดี ดังนั้นคอนโดจึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการอยู่อาศัยในเมือง เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าในการเผชิญกับปัญหาการเดินทางและการจราจรบนท้องถนน Kobkid.com เลยนำไอเดียการแต่งห้องในคอนโด ให้มีบรรยากาศและความรู้สึกเหมือนเราได้อยู่บ้านจริงๆ ซึ่งการตกแต่งนี้ค่อนข้างต่างจากห้องตัวอย่างตามคอนโดต่างๆ ที่เน้นความหรูหรา ดูจับต้องได้ยาก ให้อารมณ์เหมือนเรามาดูเครื่องประดับราคาแพงมากกว่าที่อยู่อาศัยเพื่อการใช้ชีวิต
ก่อนอื่นเลย บ้านที่เราอยู่ต้องไม่คุมโทนมากเกินไป ในความเป็นจริงแล้ว การจะจำกัดทุกสิ่งอย่างให้ใช้ได้เพียงไม่กี่สีในบ้าน ก็คงจะฝืนธรรมชาติไปหน่อย ดังนั้นการปล่อยบ้านหรือห้องให้มีสีสันไปตามธรรมชาติหรือตามการใช้ชีวิตของเราจึงไม่ได้ผิดอะไร ความสบายใจในการอยู่อาศัยตางหากที่เป็นตัววัดปริมานความสุขของเรา ไม่ใช่สีที่ต้องคุมโทนตลอดเวลา หากเราคุมมันเอาไว้ตลอดเวลา ชีวิตของเราก็จะโดนสีพวกนั้นคุมโทนไปด้วยโดยไม่รู้ตัว
เราจะพาไปดูไอเดียแต่งห้องดีๆ ที่จะทำให้ห้องในคอนโดของเรากลายเป็นบ้านแห่งความสุขกัน
เริ่มที่ห้องแรกคือห้อง Penthouse PK43 by Blackhaus ในเมือง Krakow ประเทศโปแลนด์ พื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ มีตู้ไม้สำหรับเก็บหนังสือ โซฟาอยู่ใกล้กับชุดโต๊ะทานอาหาร สร้างโซนห้องนั่งเล่น ห้องครัว และโต๊ะทานอหารให้เชื่อมต่อกัน โดยวัสดุที่ทำมาจากไม้จะช่วยทำให้ห้องดูอบอุ่นขึ้น
ห้องครัวเป็นเคาน์เตอร์สีดำตัดกับผนังสีขาว ใช้ไม้ทำเป็นชั้นวางของข้างบน และมีสีเขียวของต้นไม้มาแซม ทำให้ห้องครัวดูมีชีวิตชีวา ไม่แข็งกระด้างมากเกินไป
ห้องนอนค่อนข้างกว้างขวาง พื้นไม้ยังคงให้ความรู้สึกอบอุ่นและเข้ากันได้ดีกับเตียงสีขาว
ห้องนอนใหญ่เน้นสีโทนมืด ดูสุขุม นุ่มลึก บอกเลยว่าห้องนอนห้องนี้จะเป็นห้องที่นอนแล้วไม่อยากจะลุก เพราะเมื่อปิดผ้าม่านสีดำทั้งหมด แสงแดดจะลอดผ่านเข้ามาไม่ได้ ทำให้ห้องมืดเหมือนตอนกลางคืนตลอดเวลาจนเราไม่อยากจะขยับตัวออกจากเตียงเลย
เป็นห้องที่ไม่เน้นสีสันสดใส เน้นความเรียบง่าย ใช้สีขาวและไม้เป็นตัวหลัก ให้ความรู้สึกอบอุ่น บรรยากาศดูเป็นกันเอง สบายตา สบายใจ หน้าต่างค่อนข้างเยอะจึงมองเห็นวิวได้เกือบทุกห้อง
ที่มา : Penthouse PK43 by Blackhaus
ห้องต่อไปสีสันค่อนข้างแตกต่างจากห้องก่อนหน้า คือ Penthouse in Peckham by Ensoul ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ห้องนี้เป็นห้องที่ไม่ได้ดูอบอุ่นจากสีของไม้ แต่สีสันจี๊ดจ๊าดที่อยู่ในห้องนี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น ถ้าเปรียบห้องนี้เป็นคนก็เป็นคนที่เข้าถึงง่าย ขี้เล่น สดใส ร่าเริง และดูมีชีวิตชีวา พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ทานอาหาร และพื้นที่ครัวเชื่อมต่อกัน ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็สามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งห้อง การที่แต่ละพื้นที่เชื่อมต่อกันแบบนี้ยิ่งทำให้ห้องดูกว้างและโล่งมากยิ่งขึ้น
พื้นที่ครัวค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่เก็บของเยอะ เครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน
ห้องนอนมี 2 ห้อง แถมยังมีพื้นที่เหลือเฟือ จะ Built-in ตู้เสื้อผ้าอีกสิบตู้ก็ยังได้
ภาพรวมของห้องนี้คือไม่ได้คุมสีเอิร์ธโทน หรือเน้นไปที่สีใดสีหนึ่ง แต่เป็นการรวมตัวของสีสันทั้งฉูดฉาดและเรียบง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านจริงๆ เหมือนกับพ่อเป็นสีโทนเข้ม แม่เป็นโทนสีสว่าง ส่วนลูกก็เป็นสีสันสดใส ซึ่งทั้ง 3 โทนสามารถผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืนและลงตัว ทั้งยังมีขนาดที่กว้างขวาง สามารถเชื่อมต่อ 3 พื้นที่เข้าด้วยกัน ให้กลายเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของผู้อยู่อาศัยที่มาทำกิจกรรมร่วมกันได้
ที่มา : Penthouse in Peckham by Ensoul
อย่างที่บอกว่าห้องตัวอย่างสมัยนี้ตกแต่งออกมาแล้วดูจับต้องได้ยาก ดูเข้าถึงยาก เมื่อเดินเข้าไปแล้วไม่ได้รู้สึกอยากอยู่เอง แต่สำหรับ 2 ห้องด้านบนที่เรานำมาเสนอ ทันทีที่ได้เห็นรูป ก็สัมผัสได้ถึงเรื่องราว การใช้ชีวิต จิตวิญญาณของการอยู่อาศัย ซึ่งดูจับต้องได้จริง เข้าถึงได้ ดูมีชีวิตชีวา และอบอุ่น เพียงแค่ได้มองรูปก็รู้สึกอยากจะเข้าไปอยู่แล้ว
แม้ว่าห้องคอนโดจะไม่ได้มีพื้นที่ใช้สอยเยอะเหมือนกับบ้าน แต่อย่างน้อยบรรยากาศและความรู้สึกเมื่อเราเข้าไปใช้ชีวิตก็ควรจะสบายใจเหมือนได้อยู่บ้าน เพราะอย่างน้อยห้องของเราก็คือหลุมหลบภัยจากโลกภายนอก ที่เป็นพื้นที่ให้เราได้รับรู้ถึงตัวตนการเป็นตัวเองมากที่สุด