เปิดตัว “EV Taxi” 101 คันแรก ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% นำร่องให้บริการ 9 ก.ย.นี้
เทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เริ่มเป็นสิ่งใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆขึ้นทุกวัน จากภาคอสังหาฯในปัจจุบันที่หลายโครงการล้วนมีจุดบริการ EV charger จนเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเป็นได้ทั่วไป ล่าสุดฝั่งบริการขนส่งสาธารณะ โดยกรมการขนส่งทางบกจับมือภาคธุรกิจ ก็เริ่มเดินหน้าเตรียมเปิดตัว “EV Taxi” 101 คันแรกในประเทศไทย พร้อมใช้งาน 9 ก.ย. 2561 นี้
นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้เร่งผลักดันให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ โดยการยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยในโครงการ Taxi VIP ของกรมการขนส่งทางบก
ทั้งนี้ ‘EV Taxi VIP’ เป็นรถที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน โดยใช้ยานยนต์ไฟฟ้า BYD e6 (บีวายดี อีซิกซ์) มีสถานีอัดประจุไฟ Charging station ให้บริการทั้งหมด 30 แห่งทั่วกรุงเทพ เพียงพอกับความต้องการใช้งานของรถ ‘EV Taxi VIP’ จำนวน 101 คันในระยะแรก โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดพื้นที่จอดรถบริเวณชั้น 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้กับรถ ‘EV Taxi VIP’ ส่งเสริมความเป็น Smart Airport ให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสร้างเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศ
โดย ‘EV Taxi VIP’ เป็นความร่วมมือระหว่างกรมการขนส่งทางบกกับภาคเอกชนคือ บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด และ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด ได้นำรถยนต์ไฟฟ้า BYD e6 (บีวายดี อีซิกซ์) มาให้บริการเป็น Taxi VIP ซึ่งจะเป็นรถแท็กซี่ไฟฟ้า 100% กลุ่มแรกของประเทศไทย เนื่องจากรถ BYD e6 เป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยจะพร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2561 เป็นต้นไป
ในส่วนของสมรรถนะรถ BYD e6 เป็นไปตามมาตรฐาน Taxi VIP ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งกำหนดให้ต้องมีความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเบรกแบบ ABS และมีถุงลมนิรภัยที่นั่งตอนหน้าอย่างน้อย 1 คู่ ติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบภายในรถเหมือนกับ Taxi OK ประกอบด้วย ติดตั้ง GPS Tracking พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ, มาตรค่าโดยสาร, ปุ่มฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสารอย่างน้อย 1 จุด ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้และใช้งานสะดวก, กล้องบันทึกภาพภายในรถแบบ Snap Shot ทำงานร่วมกันได้แบบ Real-time ส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการของผู้ประกอบการ และศูนย์บริหารจัดการรถแท็กซี่ของกรมการขนส่งทางบก (DLT TAXI CENTER) กล่องป้ายไฟแสดงข้อความ Taxi VIP และสามารถเรียกใช้บริการผ่าน Application Taxi OK ได้
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มมากขึ้น เช่น แท็บเล็ตเพื่อดูหนังฟังเพลง มีเบาะที่นั่งผู้โดยสารและพื้นที่จัดเก็บกระเป๋าสัมภาระกว้างขวาง ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้บริการได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ บริเวณเคาน์เตอร์ ณ ศูนย์บริการบริเวณชั้น 1 สนามบินสุวรรณภูมิ เรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น Taxi OK ของกรมการขนส่งทางบก และคอลเซ็นเตอร์ 0 2039 8888 สำหรับอัตราค่าโดยสาร เริ่มต้น 2 กิโลเมตรแรก 150 บาท และกิโลเมตรต่อไปคิดอัตรากิโลเมตรละ 16 บาท สามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เดบิต อาลีเพย์ วีแชต แรบบิตไลน์เพย์ หรือชำระเป็นเงินสด
ขอบคุณข้อมูลจาก : smartsme