เคล็ดลับดูแลบ้านง่ายๆ ให้ไม่โทรมในช่วงฤดูฝน

ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงช่วงปลายเดือนเมษายนกันแล้ว อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะเข้าเดือนพฤษภาคม ซึ่งช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจะเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้หลายๆคนเริ่มกังวลเกี่ยวกับที่พักอาศัยใช่ไหมล่ะ เพราะฤดูฝนเนี่ยมันมักจะมาพร้อมกับปัญหาหลายๆ อย่างเป็นประจำทุกปี และปัญหาส่วนใหญ่มักจะเกิดกับที่พักอาศัยประเภทแนวราบอย่างบ้านและทาวน์เฮ้าส์มากกว่า ซึ่งหากเป็นคอนโดมิเนียมจะไม่ค่อยพบกับปัญหาพวกนี้สักเท่าไหร่

ไม่ว่าปีนี้ฝนจะตกน้อยหรือตกมาไม่ขาดสาย สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการเตรียมรับมือกับทุกปัญหาที่มาพร้อมกับฤดูฝน ทั้งเรื่องสุขภาพ น้ำท่วมขัง และสัตว์มีพิษต่างๆ รวมไปถึงสภาพบ้านที่ต้องเจอกับน้ำฝนนานๆ อาจทำให้ผนังบ้านขึ้นราได้ หรือบางบ้านอาจต้องเจอกับปัญหาหลังคารั่ว ซึ่งเป็นอะไรที่น่ารำคาญใจมากเลยใช่ไหม ดังนั้นคบคิดจึงรวบรวมวิธีการดูแลบ้านช่วงหน้าฝนให้หายกังวลกันค่ะ

 

ก่อนอื่นเราต้องมาเช็กจุดสำคัญรอบๆ บ้านกันค่ะว่ามีส่วนไหนที่ต้องซ่อมแซมก่อนที่ฝนจะมา เพื่อป้องกันอันตรายและลดอุบัติเหตุภายในบ้านที่อาจมีสาเหตุมาจากฝน มาดูกันค่ะว่าจุดสำคัญๆ ของบ้านมีตรงไหนบ้างที่ต้องเช็ก

หลังคา

หากเช็กหลังคาแล้วพบว่ารอยรั่ว ให้รีบซ่อมก่อนเลยค่ะ ปัญหาหลังคารั่ว มีน้ำหยดติ๋งๆ จนน่ารำคาญ นับว่าเป็นปัญหาคลาสสิคที่หลายๆ บ้านเจอกันบ่อย ดังนั้น ก่อนเข้าสู่หน้าฝน เราต้องหมั่นสำรวจว่า มีจุดไหนบนหลังคาบ้างที่มีรอยแตกร้าว มีคราบตะไคร่น้ำ หรือสังเกตจากคราบน้ำบนฝ้าเพดาน หากมีรอยด่างๆ เป็นดวง อาจวิเคราะห์ได้ว่าเกิดจากความชื้น ควรรีบตรวจสอบและซ่อมแซมแก้ไขทันที

 

ระบบไฟฟ้า

เรื่องของระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นอีกสิ่งสำคัญมากๆ ที่ต้องเช็ก เพราะเป็นความอันตรายที่มาพร้อมกับน้ำฝน ไม่ว่าจะไฟช็อต ไฟดูด ที่จะมาจากปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาจเปียกชื้นจากน้ำ ซึ่งมันเกี่ยวกับความปลอดภัยของคนภายในบ้านด้วย โดยส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เราสัมผัสเป็นประจำ จนทำให้ละเลยการระมัดระวังในการใช้งาน  ดังนั้นก่อนใช้งานต้องสังเกตให้ดีว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าของเรามีจุดที่น้ำฝนสามารถรั่วซึมหรือไม่ ถ้ามีควรรีบเปลี่ยนหรือแก้ไขก่อนที่หน้าฝนจะมา แต่ต้องแก้ไขโดยช่างผู้ชำนาญเท่านั้นนะ อย่าเสี่ยงซ่อมเองเด็ดขาด หรือถ้าเป็นปลั๊กและสวิตช์ไฟที่ใช้นอกอาคาร ควรเลือกแบบที่มีฝาปิดกันน้ำจะช่วยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

พื้นบ้าน

พื้นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ควรละเลยนะคะ ช่วงที่ฝนตกหนักติดต่อกัน มักเกิดคราบตะไคร่น้ำเกิดขึ้น เสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ง่าย ยิ่งถ้าบ้านไหนมีเด็กเล็กหรือคนสูงอายุ ยิ่งต้องระวัง ดังนั้นตอนสร้างบ้านหรือปรับปรุงบ้านเราควรใส่ใจการเลือกวัสดุ หากเป็นชานบ้าน ระเบียง และทางเดินนอกอาคาร ควรเลือกวัสดุปูพื้นหรือกระเบื้องเนื้อหยาบ ไม่ลื่นง่าย

 

เตรียมรางน้ำฝน

รางน้ำฝน ก็เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยรองรับน้ำฝนที่ตกลงมาจากหลังคา ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับตัวบ้าน สิ่งปลูกสร้าง หรือแม้แต่ต้นไม้ที่เราปลูกเอาไว้รอบๆ บ้าน แถมยังช่วยระบายน้ำฝนให้ไหลไปในทิศทางที่เหมาะสมอีกด้วย  ดังนั้นก่อนจะเข้าช่วงฤดูฝน ควรไปเช็กดูว่ารางน้ำฝนมีส่วนไหนชำรุดหรือไม่ หากมีก็ซ่อมแซมให้เรียบร้อย

 

ในเมื่อเราเช็กจุดสำคัญๆ กันไปแล้ว เราก็มาเริ่มต้นวิธีการดูแลบ้านให้ “ไม่โทรม” ในช่วงฤดูฝนกันเลยค่ะ จะได้ไม่อายใครเวลามีแขกมาบ้าน

หมั่นสังเกตรอยแตกร้าว มักจะมาพร้อมกับฤดูฝนเสมอๆ ค่ะ เพราะเจอทั้งฝน ทั้งแดด ไม่ว่าจะเป็นผนังบ้าน ฝ้า รอยข้อต่อของวัสดุต่างๆ เพราะน้ำฝนอาจจะรั่วซึมผ่านรอยแตกร้าวพวกนี้ได้ และหากเจอรอยแตกร้าวก็ควรรีบ จ้างช่างที่ที่เชี่ยวชาญมาซ่อมแซมให้เรียบร้อย

 

ทำความสะอาดผนังบ้าน สำหรับบ้านใครที่ไม่ได้ใช้สีที่ป้องกันการเกิดเชื้อราละก็ เตรียมใจได้เลยว่าต้องเจอกับรอยดำหรือคราบเชื้อราบริเวณผนังบ้านที่เกิดจากความชื้น หากเป็นปัญหาแรกที่ยังไม่หนักมากก็แนะนำให้เราทำความสะอาดมันบ่อยๆ เพื่อไม่คราบมันฝังลึกลงไป แต่ถ้าใครอยากทาสีใหม่ก็เลือกสีที่ป้องกันคราบ กันเชื้อรา และทำความสะอาดง่ายมาทา แต่อย่าลืมทำความสะอาดคราบพวกนั้นก่อนทาด้วยล่ะ

 

ขยันทำความสะอาดพื้น นอกจากจะช่วยให้บ้านไม่ดูโทรมแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนภายในบ้านอีกด้วย หากมีคราบตะไคร่น้ำที่เกิดจากน้ำขัง ก็จะเสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ง่าย ดังนั้นหากเจอน้ำขังก็ให้รีบเช็ดถูให้แห้ง อย่าปล่อยให้ตะไคร่น้ำจับได้ เพราะอาจจะยากต่อการทำความสะอาด

 

หมั่นตัดกิ่งไม้ใหญ่ เพื่อเป็นการลดโอกาสที่กิ่งไม้จะหัก หรือโค่นล้มลงมาทับบ้านของเรา ซึ่งอาจทำให้ต้องเสียเงินซ่อมแซมมากยิ่งขึ้น แถมการตัดกิ่งไม้ใหญ่ยังจะช่วยให้บ้านดูโล่ง ไม่รกหูรกตา เพราะจะมีเศษใบไม้ล่วงเกลื่อนนอกบ้านน้อยลง นอจากนี้ยังลดความเสี่ยงที่จะต้องเจอกับพวกสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ หรือพวกแมงป่อง ที่อาศัยตามต้นไม้ใหญ่ๆ อีกด้วย

 

หมั่นเคลียร์รางน้ำฝน ทำความสะอาดรางน้ำฝนให้พร้อมใช้งาน กำจัดเศษใบไม้ เศษขยะต่าง ๆ ออกจากรางน้ำให้หมด หากเราละเลยใส่ใจตรงจุดนี้ เมื่อฝนกระหน่ำ น้ำฝนที่คั่งค้างอยู่ในรางน้ำ ระบายไม่ได้ อาจเอ่อล้น รั่วซึม และไหลย้อนเข้ามาสู่ตัวบ้านได้ง่าย ๆ นอกจากนี้อย่าลืมเคลียร์ท่อระบายน้ำด้วยล่ะ ท่อน้ำจะได้ไม่ตัน

 

ย้ายอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์

อุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์บางอย่าง การปล่อยให้ตากฝนตากบ่อยๆ ก็คงจะไม่เกิดผลดีอย่างแน่นอน เราควรขนย้ายหรือไม่ก็นำพลาสติกมาคุมป้องกันกันบ้าง เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

 

เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถรักษาบ้านของเราไม่ให้ดูโทรมในช่วงหน้าฝนได้แล้ว เราก็จะได้ดื่มด่ำผ่อนคลาย ฟังเสียงฝนพรำไปกับอากาศฉ่ำเย็น เป็นบ้านในฤดูฝนที่ทุกคนคงจะใช้เวลาได้อย่างมีความสุขไปตลอดฤดูกาล แต่อย่างไรก็ตามการดูแลใส่ใจบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม 

 

 

ที่มา : krungsri.com , pruksa.com , kapook.com



 

 

 

 

ความคิดเห็น