อยากได้บ้านสวยๆ เหมือนใน Pinterest ต้องรู้อะไรบ้างนะ?

เป็นเรื่องธรรมดา ที่ไม่ว่าจะนักออกแบบ หรือจะเจ้าของบ้าน ย่อมต้องการให้บ้านในมือตนเอง ออกมามีรูปลักษณ์สวยงามถูกใจ ปลูกเรือนได้ตามใจผู้อยู่ และได้แบบสวยหรูถูกใจสถาปนิก แต่บ่อยครั้ง การจะได้มาซึ่งผลงานสวยๆ ทั้งเจ้าของและนักออกแบบ ก็อาจต้องการแรงบันดาลใจในการคิดแบบ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะจินตนาการผลงานออกมา ได้แบบเบ็ดเสร็จโดนใจในครั้งแรก เรามักต้องการตัวอย่างให้ดู เพื่อให้รู้ว่าเราชอบแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน มีไอเดียความต้องการอะไรยังไง เราจึงต้องหาแหล่งรวมตัวอย่างดู เช่นใน ‘Pinterest’

หลายครั้งที่เราพบว่าการเปิด Pinterest คือดาบ 2 คม ที่คอยหันกลับมาสร้างบาดแผลให้เจ้าของบ้านหรือผู้ออกแบบเองไม่น้อย เพราะแต่ละภาพที่ Pinterest ได้เลือกสรรมาสำหรับเรา ช่างมีความงามทั้งในดีเทลและภาพรวม ไม่ยากเลยที่สถาปนิกหรือใครๆ ก็ต่างใช้พื้นที่แห่งนี้ในการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน การคิดงาน และตั้งต้นออกแบบบ้านสักหลัง

ในทางกลับกัน ถ้าหากเราไม่รู้จริงหรือมองเพียงผิวเผิน หลงใหลเฉพาะภาพที่ออกมา จนไม่สนใจว่าจริงๆแล้ว มันสร้างอย่างไร แบบเขียนยังไง ดีเทลเป็นอย่างไร ช่างไทยสร้างได้ไหม มาถึงตรงนี้จะกลายเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงขึ้นมาทันทีครับ เหมือนว่ารู้แค่เปลือก ทำจริงก็เละ ช่างก็มั่ว เพราะแบบมั่ว…

ฉะนั้นก่อนตัดสินใจเอาภาพต่างๆไปเสนอลูกค้า หรือแม้แต่เจ้าของเองเห็นภาพเหล่านี้ ควรต้องรู้อะไรก่อนบ้าง เราลองรวมมาให้ชมกันครับ เพราะสุดท้าย งานของคุณเอง ก็อาจจะได้ขึ้นมาปรากฏใน Pinterest บ้างก็เป็นได้

1. วัตถุประสงค์ของการทำ เหมือนกันหรือไม่?
บางครั้งภาพสวยๆ หรือบางดีเทลที่เราเห็น อาจเป็นการทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาอะไรบางอย่าง หรือเพื่อตอบโจทย์อะไรบางอย่าง แน่นอนว่าถ้าหากเราจะทำเพื่อแก้สิ่งเหล่านั้นเช่นกันก็สามารถทำได้ แต่ถ้าไม่ นั่นแปลว่าเราได้ใช้งบบางส่วน ไปกับการแก้ไขปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เราเพียงทำตามสิ่งที่คิดว่าสวย คิดว่าชอบ ไม่ได้มีเหตุผลอื่นใดมากกว่านั้น

2. เขาใช้วัสดุอะไร จึงสามารถทำให้ได้ Effect แบบนั้น?
คำถามนี้สำคัญมากๆ เพราะมันยากเหลือเกินที่จะก่อสร้างอะไรสักอย่าง โดยที่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้วัสดุอะไร ให้ได้ตรงตามรูปแบบที่ต้องการ แม้เราจะไม่ได้เห็นของจริง การพิจารณาอย่างรอบครอบ จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ควรทำที่สุด ว่าดีเทลเหล่านั้น ใช้วัสดุอะไร… ที่สำคัญ เราจะสามารถใช้วัสดุอื่นๆที่หาง่ายกว่า ทำแบบนั้นบ้างได้หรือไม่… ความรู้สึกอาจต่างไป แต่สุดท้ายก็เป็นรูปแบบที่เราสร้างขึ้นเอง

3. คิดถึงการใช้งานจริง เพราะที่ตั้งต่างกัน ผลที่ได้ก็ต่างกัน
บางครั้งที่เราเห็นพื้นที่หรือสเปซที่สวยงาม เห็นแล้วชอบมาก อยากมาใส่ไว้ในบ้านเรา หรือบ้านของลูกค้าที่ออกแบบ… ช้าก่อน คำถามง่ายๆคือ “มันจะเวิร์คใช่มั้ย” เพราะเราต้องคิดถึงการใช้งานจริง ของเค้าทำเป็นอะไร แล้วของเราจะทำเป็นอะไร ที่ตั้งของบ้านอากาศฟ้าฝนเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ต้องคิดให้ครบถ้วนจริงๆ

4. Over Design หรือเปล่า?
Over Design คือการออกแบบที่เกินความจำเป็น ซึ่งข้อนี้ถือเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรมพอสมควร เพราะบางคนนั้นก็หมายรวมว่าความงามคือความจำเป็น และหากจำเป็น เท่าไหนถึงจะเรียกว่าเกินจำเป็น… ในที่นี้เราหมายถึงเมื่อเห็นภาพที่ประทับตา ประทับใจ เราควรสืบสาวไปถึงงบประมาณคร่าวๆก่อน ว่ามันคุ้มค่าไหมที่จะได้มันมา

5. เทคโนโลยี หรือ ช่างของเรามีความพร้อมทำได้ไหม?
เป็นอีกข้อที่สำคัญมากๆ เพราะนอกจากช่างจะทำไม่ได้แล้ว หากฝืนให้ทำก็จะมีแต่เสีย ทั้งเวลา คุณภาพ นอกเสียจากคุณเองเป็นผู้เชียวชาญด้านนี้ และต้องการยกระดับช่างไทย คุณก็สามารถฝึกช่างและสร้างองค์ความรู้ใหม่นี้ได้

6. มองหาข้อเสียของดีเทลที่เราชอบด้วย!
ไม่มีดีเทลไหนที่มีแค่ข้อดี ลองชั่งน้ำหนักและมองว่าคุ้มค่าหรือไม่

7. Pinterest เป็นแค่ Inspired สุดท้ายดีเทลต้องแม่น… ด้วยตัวเอง
ดีเทลที่ดี เกิดจากการลองผิดลองถูก การทำซ้ำ และแก้ไขจุดที่บกพร่อง หากอยากได้แบบที่ดีกว่าแบบมาตรฐาน สถาปนิกหรือผู้ออกแบบเอง ต้องคิดขึ้นมาใหม่ โดยอาศัยการศึกษาข้อมูลวัสดุที่จะใช้ รูปแบบที่ต้องการ ข้อจำกัดในการก่อสร้าง พื้นที่หน้างานเอื้อแค่ไหน บางครั้งต้อง Customize ชิ้นส่วนเพื่อให้ได้ดีเทลตามต้องการ และสุดท้าย งานของคุณเอง ก็อาจจะได้ขึ้นมาปรากฏใน Pinterest บ้างก็เป็นได้

ที่มา: Dsign Something

ความคิดเห็น