สิทธิและประโยชน์อื่นๆ ที่ผู้ประกอบการควรทราบเกี่ยวกับ พรบ รถบรรทุก

พรบ รถบรรทุก‘ จัดเป็นหนึ่งในประเภทของพ.ร.บ. รถยนต์ สิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถบรรทุกทุกคันจำเป็นจะต้องรับผิดชอบเป็นรายปี ทั้งนี้ พ.ร.บ. ที่อยู่ติดกับตัวรถเองจะทำหน้าที่เปรียบเสมือนกับประกันภัยรถยนต์ มีส่วนช่วยในการคุ้มครองรถยนต์คันนั้นๆ ในทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ คนขับขี่มีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่นอกเหนือจากการทำหน้าที่คุ้มครองรถยนต์และตัวบุคคลผู้ขับขี่เสมือนประกันภัยรถยนต์แล้ว ยังมีข้อเท็จจริงอื่นใดอีกบ้างที่ผู้ประกอบการควรทราบเกี่ยวกับการทำพรบ รถบรรทุก บทความนี้มีข้อมูลดีๆ มาแชร์ให้ฟังกัน

ต่อพรบ รถบรรทุกเป็นประจำทุกปี

หนึ่งในข้อเท็จจริงอย่างแรกที่เป็นเรื่องเข้าใจได้ สำหรับบรรดาผู้ประกอบการที่มีรถบรรทุกไว้ในครอบครอง จำเป็นจะต้องต่อพรบ รถบรรทุกเป็นประจำทุกปีห้ามขาด ตามปกติโดยทั่วไปแล้ว พ.ร.บ. ที่คุ้มครองรถยนต์และรถจักรยานยนต์นั้นจะมีอายุบังคับอยู่ที่ 1 ปี หลังจากหมดอายุแล้วแนะนำให้รีบต่ออายุเลยโดยทันที หากปล่อยให้พ.ร.บ. ‘ขาดต่อ’ นอกจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้ว อาจมีความผิดและได้รับบทลงโทษทางกฎหมายเป็นการชำระค่าปรับอีกด้วย

ปล่อยให้ พ.ร.บ. ขาด อาจต่อภาษีรถยนต์ไม่ได้

นอกจากจะไม่ได้รับความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุ, ได้รับบทลงโทษทางกฎหมายเป็นการชำระค่าปรับหากปล่อยให้พรบ รถบรรทุกขาดแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของรถบรรทุกควรทราบอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือคุณจะไม่สามารถต่อภาษีได้อีกด้วย และเมื่อถึงเวลานั้นเจ้าของรถอาจจะต้องรับภาระในเรื่องของการชำระภาษีย้อนหลัง และยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากขาดการต่อภาษีรถนานเกินกว่า 3 ปี รถคันนั้นจะถูกระงับป้ายทะเบียนจนกลายเป็นรถเถื่อน เมื่อนำออกมาขับก็จะมีความผิดทางกฎหมายในท้ายที่สุดนั่นเอง

ทำหน้าที่เป็นประกันอีกหนึ่งฉบับเวลาเกิดอุบัติเหตุ

ตามที่เกริ่นไปบ้างแล้วในข้างต้น ประโยชน์หลักๆ ของตัวพรบ รถบรรทุกนั่นก็คือทำหน้าที่คุ้มครองทั้งรถยนต์และตัวคนขับเวลาเกิดอุบัติเหตุ เจ้าของรถบรรทุกสามารถยื่นสิทธิ์เพื่อขอรับค่าเสียหายในเบื้องต้น ขอเคลมค่ารักษาพยาบาล (ภายในวงเงิน 30,000 บาท) ได้เลยทันทีโดยไม่จำเป็นต้องสำรองจ่าย อย่างไรก็ตามแนะนำให้เตรียมเอกสารและหลักฐานต่างๆ เอาไว้ให้เรียบร้อยเพื่อที่จะได้สามารถเดินเรื่องขอเคลมค่ารักษาพยาบาลเลยทันทีแบบไม่ต้องรอ

ขอเคลมกับ พ.ร.บ. ได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด

แน่นอนว่าในกรณีของการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้งย่อมมีทั้งฝ่ายที่ถูกและฝ่ายที่ผิด แต่ถ้าหากรถคันดังกล่าวยกตัวอย่างเช่น รถบรรทุกที่ได้รับการคุ้มครองโดยพรบ รถบรรทุก ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดในอุบัติเหตุครั้งนั้นก็ย่อมได้รับการคุ้มครอง สามารถขอเคลมค่าเสียหายในเบื้องต้นจาก พ.ร.บ. อย่างไรก็ตามแนะนำให้ผู้ประสบเหตุเก็บหลักฐานและเอกสารต่างๆ เอาไว้ให้ครบถ้วน เพื่อที่จะได้สามารถขอรับความคุ้มครอง ตลอดไปจนถึงเคลมค่าเสียหาย/ค่ารักษาพยาบาลจาก พ.ร.บ. ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลารอนาน

 

ความคิดเห็น