รู้ก่อนพลาด ก่อนคิดจะซื้อคอนโด

หากเอ่ยถึงเรื่องของการซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันก็มีหลากหลายรูปแบบมาให้เราได้เลือกกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์, ทาวน์โฮม หรือคอนโด ที่มาอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี เรียกว่ามีโครงการบ้านต่างๆ ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดเลยทีเดียวนะคะ
ซึ่งผู้ซื้อบ้านอย่างเรา ก็ต้องมานั่งศึกษารายละเอียด รวมทั้งประเภทให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกซื้อนะคะ อย่างคอนโดก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน โดยจะเห็นได้จากปัจจุบันที่มีผู้เลือกซื้อคอนโดเป็นที่อยู่อาศัยกันมากขึ้น วันนี้จึงมีเรื่องราวดีๆ ในการเลือกซื้อคอนโดมาฝากกันค่ะ

 

ข้อควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคอนโด
– ประการแรกควรคำนึงถึงวิถีชีวิตของเราว่าเป็นแบบใด เช่น เป็นคนโสดหรือไม่ มีครอบครัวหรือเปล่า หรือแต่งงานหรือยัง เป็นต้น เพื่อเป็นการดูไลฟ์สไตล์ในชีวิตว่ามีลักษณะแบบใด เหมาะกับการอยู่คอนโดหรือไม่
– จะซื้อคอนโดเพื่ออยู่แบบครอบครัวหรือไม่ แล้วสมาชิกในครอบครัวมีกี่คน หรือซื้อคอนโดเพื่ออยู่คนเดียว หรือปล่อยเช่า หรือเพื่อขาย เป็นต้น
– เลือกดูทำเลดี เช่น ใกล้สถานีรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดินมั้ย การเดินทางไปเรียนหรือทำงานสะดวกหรือเปล่า
– ขนาดของห้องนอนเพียงพอกับคนในครอบครัวเราหรือไม่ และลักษณะห้องเป็นอย่างไร คุ้มค่ากับราคาที่เสียไปหรือไม่
– ความน่าเชื่อถือของโครงการที่เราเลือกซื้อคอนโด
– คอนโดยิ่งสูงก็ยิ่งแพง เพราะคอนโดในชั้นสูงๆ ก็จะได้ชมวิวสวยๆ ทำให้ราคาจึงสูงตามไปด้วย ดังนั้น เราจึงต้องคำนวณความคุ้มค่าให้ดี เช่น หากรอบข้างของคอนโดที่เราจะซื้อนั้นรายล้อมไปด้วยตึกสูงก็คงไม่จำเป็นต้องเลือกชั้นสูงๆ เพราะวิวถูกบดบังไปหมดแล้ว หรือกรณีที่อยากซื้อคอนโดไว้เพื่อเก็งกำไร แล้วรายล้อมไปด้วยวิวที่สวยมากๆ ก็อาจเลือกลงทุนกับความสูงได้ เป็นต้น
– ห้องของคอนโดที่อยู่ทางทิศใต้มักจะขายหรือปล่อยเช่าได้ดีกว่าทางทิศอื่น เพราะเป็นทิศที่ลมจะพัดเข้ามาได้มากที่สุด และควรหลีกเลี่ยงทิศตะวันตกเพราะจะทำให้ห้องร้อนได้ง่าย
– ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดควรเปรียบเทียบราคาและพื้นที่ใช้สอยกับคอนโดอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน
– ตำแหน่งห้องที่เราเลือกซื้อไม่ควรอยู่ใกล้กับลิฟต์ หรือห้องขยะ และบริเวณที่อาจมีเสียงดังรบกวน
– หากใครที่กำลังคิดจะซื้อคอนโดเก่า เพราะคำนึงถึงเรื่องราคาที่ถูกกว่าคอนโดใหม่ แนะนำว่าให้ดูการบริหารงานของนิติบุคคล และรวมถึงสิ่งแวดล้อมรอบข้างอย่างเพื่อนบ้าน เป็นต้น

สำหรับการซื้อคอนโดในปัจจุบันนั้นค่อนข้างแตกต่างจากสมัยก่อนที่นิยมซื้อคอนโดเพื่ออยู่ แต่สมัยนี้ส่วนใหญ่ผู้คนมักเลือกซื้อคอนโดไว้เพื่อการลงทุน อย่างการปล่อยไว้รอขายเก็งกำไร หรือปล่อยให้คนมาเช่า ซึ่งการซื้อคอนโดจึงกลายเป็นรูปแบบหนึ่งของการลงทุน และมีหลายคนทีเดียวที่สนใจเริ่มหันมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างการซื้อคอนโดนี้

 

การซื้อคอนโดอย่างไรไม่ให้โดนกลโกงจากผู้ขาย
– ต้องดูความน่าเชื่อถือของเจ้าของโครงการหรือเจ้าของห้องที่เราคิดจะซื้อ ว่าเคยมีประวัติเสียใดๆ หรือไม่ หรือเคยโกงใครมาหรือเปล่า ต้องสืบให้ดีนะคะ
– ต้องตรวจเช็กโฉนดคอนโดที่เราจะซื้อว่าเป็นเจ้าของห้องนั้นๆ จริงหรือเปล่า (กรณีที่เป็นคอนโดเก่า หรือมีเจ้าของอยู่เดิม)
– ต้องเช็กดูให้ดีว่าตัวแทนขายของโครงการนั้นๆ หรือบรรดานายหน้าต่างๆ สามารถไว้วางใจได้หรือไม่
– ต้องมีการตรวจเช็กสภาพห้องทั้งภายในและภายนอกรอบๆ ห้อง รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่างๆ ว่ามีเสียงดังเอะอะโวยวาย หรือสิ่งใดมารบกวนหรือเปล่า
– หากซื้อดาวน์ต่อควรมีการทำสัญญาเพื่อเปลี่ยนชื่อเจ้าของให้เรียบร้อยที่โครงการระหว่างทั้งสองฝ่าย
– หากเป็นห้องที่ห้องเป็นของผู้ขายโดยไม่ต้องผ่อนแล้ว ต้องไปทำสัญญาโอนกรรมสิทธิ์กันที่กรมที่ดินเท่านั้นนะคะ
– หากเป็นคอนโดที่ไม่ได้มีคนมาแย่งกันซื้อไม่ควรวางมัดจำ หรือวางเงินน้อยๆ และควรวางมัดจำกับเจ้าของที่โครงการเพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นเจ้าของห้องจริงๆ จะได้ไม่โดนหลอกนะคะ
– ก่อนซื้อคอนโดต้องดูด้านหลังโฉนดด้วยว่าเป็นชื่อเจ้าของตัวจริงหรือเปล่า แนะนำว่าอย่าดูแค่สำเนา ควรดูโฉนดฉบับจริงด้วยเพื่อความชัวร์
– ต้องดูถึงความคุ้มค่าคุ้มราคาสำหรับการซื้อคอนโดด้วย โดยมองการณ์ไกลในระยะยาว
– และสิ่งที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งนั่นก็คือเงินดาวน์ของเรา ว่ามีกำลังทรัพย์เพียงพอสำหรับดาวน์คอนโดเพื่อซื้อหรือไม่ โดยที่ควรมีเงินสำรองสำหรับฉุกเฉินไว้ด้วย เพราะหากผ่อนๆ ไปแล้วเกิดไม่พอขึ้นมา เงินที่เราเพียรพยายามผ่อนไปทุกๆ เดือนก็อาจสูญเปล่า และคอนโดที่ซื้อก็อาจถูกยึดไปได้นะคะ
– และสุดท้ายก่อนคิดจะซื้อคอนโดควรศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับคอนโดมิเนียม และข้อมูลของโครงการนั้นๆ ที่เราคิดจะไปซื้อคอนโด เพราะยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายของคอนโดนั้นๆ ที่ตั้งไว้ ซึ่งเราอาจจะลืมสอบถามไปได้ เช่น เรื่องของที่จอดรถ, ค่าส่วนกลาง, ค่าแม่บ้าน ฯลฯ

 

ดังนั้น การเลือกซื้อคอนโดจึงต้องคำนึงถึงผลได้-ผลเสียด้วย เพื่อที่ว่าเมื่อตัดสินใจวางเงินดาวน์ในการจองบ้านไปแล้วจะได้ไม่ต้องมานั่งกุมขมับกันในภายหลังว่าตัดสินใจผิดพลาด เพราะหากถึงขั้นนั้นเงินดาวน์ก็คงสูญไปฟรีๆ หรือไม่ก็ต้องมานั่งผ่อนคอนโดกันหัวโต แต่สุดท้ายกลับไม่ชอบหรือไม่ถูกใจในภายหลัง เรียกว่าเสียเงินทั้งทีแล้วยังต้องมาเสียใจอีกนะคะ

ความคิดเห็น