มัลดีฟส์คือทำเลใหม่สำหรับนักลงทุนอสังหาฯ

ซีบีอาร์อีเผยมัลดีฟส์คือทำเลใหม่สำหรับนักลงทุนอสังหาฯ

กรุงเทพฯ – 16 มีนาคม 2566 – การลงทุนในที่พักตากอากาศชั้นนำเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่พักตากอากาศที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการปล่อยเช่า มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และมอบสิทธิ์เข้าพักฟรีให้กับผู้ลงทุน   การที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้งหลังช่วงการแพร่ระบาดโควิดสิ้นสุดลง มัลดีฟส์ สวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ใจกลางมหาสมุทรอินเดีย ก็กลับมาคึกคักเช่นเดิมอีกครั้งและกลายเป็นตลาดที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งสำหรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ   ซีบีอาร์อี ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก เชื่อว่ายังมีโอกาสในการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนในระดับสูง ในตลาดที่ซัพพลายไม่เพียงพอกับความต้องการ แต่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีเพิ่มมากขึ้น

“การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในมัลดีฟส์นั้นมีความน่าสนใจอย่างมากสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายพอร์ตการลงทุน” นางสาวปพิณริยา พึ่งเขื่อนขันธ์ หัวหน้าแผนกซื้อขายที่พักอาศัยรายย่อย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าว “ตลาดอสังหาริมทรัพย์มัลดีฟส์มีความพร้อมที่จะเติบโตหลังจากมีการปรับปรุงนโยบายการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เมื่อปี 2563 และมัลดีฟส์ยังมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับหรู”

มัลดีฟส์เป็นตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับหรูที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวซึ่งมองหาสถานที่พักผ่อนอันงดงามและมีความพิเศษ   ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวของมัลดีฟส์ได้แสดงให้เห็นว่า ในปี 2565 มัลดีฟส์ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 1.6 ล้านคน โดย 23.7 เปอร์เซ็นต์เป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชีย และจากจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าว มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเกือบ 16,000 คน เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,800% จากปี 2564 ที่มีต่ำกว่า 900 คน    มัลดีฟส์ตั้งเป้าที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 2 ล้านคนในปี 2566 และยังได้มีการกระจายตลาดเป้าหมายให้มีความหลากหลายมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

แม้ว่ามัลดีฟส์จะมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับฮันนีมูน แต่ที่พักตากอากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วมัลดีฟส์   นอกจากนี้ ระยะเวลาในการเข้าพักเฉลี่ยยังเพิ่มขึ้นจาก 6.2 วันในปี 2560 เป็น 8 วันในปี 2565 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถานะที่แข็งแกร่งในการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับหรูที่ได้รับความนิยม

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563 ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของมัลดีฟส์ เช่นเดียวกับเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ    จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังมัลดีฟส์ในปี 2563 ลดลงไปอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 600,000 คนจาก 1.7 ล้านคนในปีก่อนหน้า    อย่างไรก็ตาม ในช่วงสิ้นปี 2565 จำนวนนักท่องเที่ยวก็กลับมาเพิ่มขึ้นจนเกือบถึงระดับเดียวกับช่วงก่อนการแพร่ระบาด ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่ามัลดีฟส์สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว    และแม้ว่าจะมีการแข่งขันเล็กน้อยกับเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดใหญ่ แต่ที่พักในมัลดีฟส์ยังคงเรียกราคาได้สูงกว่า

เมื่อเปรียบเทียบกับบาหลี เมืองตากอากาศยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้ มัลดีฟส์ถือว่าฟื้นตัวได้เร็วกว่ามาก  หลังเกิดการแพร่ระบาด อัตราการเข้าพักในมัลดีฟส์ลดลงต่ำกว่า 30% ในปี 2563 ในขณะที่อัตราการเข้าพักในบาหลีลดลงต่ำกว่า 20%   อย่างไรก็ตาม มัลดีฟส์กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเข้าพักเกือบ 60% ในปีถัดมา ขณะที่อัตราการเข้าพักของบาหลียังคงอยู่ในระดับต่ำ   ทั้งนี้ ในปี 2565 อัตราการเข้าพักในมัลดีฟส์ยังค

 

 

 

ความคิดเห็น