พาชม Pearl Bangkok สำนักงานใหม่ของ พฤกษา สถาปัตยกรรมแห่งไข่มุก ที่สุดแห่งความอลังการย่านอารีย์

 

เมื่อเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสถานีปลายทางหมอชิต จะผ่านสถานีอารีย์ที่มองออกไปยังหน้าต่างด้านนอก สายตาของผู้โดยสารจะได้พบกับอาคารทรงวงรีสูง 25 ชั้น ตั้งเด่นตระหง่าน โดดเด่น และสะดุดตาให้ชวนมอง ท่ามกลางอาคารสูงที่ไม่ได้มีหนาตาในย่านนั้น ทำให้ Pearl Bangkok ขับความน่าหลงใหลออกมา ผ่านกระจกและความโค้งมนของตัวอาคาร

 

 

วันนี้ Kobkid.com มีโอกาสได้ไปเยือนอาคารไข่มุกแห่งกรุงเทพ Pearl Bangkok เอารูปทั้งในและนอกอาคารของจริงมากฝากเพื่อนๆ กัน ไปดูความสวยงามของสถาปัตยกรรม Pearl Bangkok ได้เลย

 

มาเริ่มที่การเดินทางกันก่อน ทางที่ง่ายที่สุด คือ รถไฟฟ้า นั่งมาลงสถานีอารีย์ ทางออก 1 เมื่อถึงแล้วเดินย้อนมาทางอนุ-สาวรีย์ฯ เพียง 200 เมตรก็ถึง Pearl Bangkok แล้ว หรือจะมาด้วยรถโดยสารประจำทาง มีป้ายรถโดยสารประจำทางตั้งอยู่ใต้รถไฟฟ้าสถานีอารีย์ ซึ่งสายที่ผ่านมีดังนี้ 8, 8 ปอ, 26, 28ร, 29, 34, 39, 54, 59, 63, 74, 77, 97, 157ร, 204, 502, 503, 509, 510, 547ร และ A2

 

 

 

หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มาจากทางสนามเป้า ขับตรงไปยังอารีย์ด้วยถนนพหลโยธิน วิ่งตามแนวรถไฟฟ้า ก่อนถึงสถานีอารีย์ให้ชิดซ้าย อาคารจะอยู่ซ้ายมือ ก่อนถึงเอ็กซิมแบงก์ หรือถ้ามาจากสะพานควาย ให้ขับตรงมาทางถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ฯ ก่อนถึงซอยพหลโยธิน 2 ให้เตรียมชิดขวายูเทิร์น แล้วชิดซ้าย อาคารจะอยู่ทางซ้ายมือ

 

การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบาย สถานที่สามารถหาได้ง่าย จากความโดดเด่นของสถาปัตยกรรม หากนั่งรถไฟฟ้าผ่านประจำก็จะเห็นวิวัฒนาการของอาคารตั้งแต่เริ่มสร้างจนกระทั่งเปิดให้ใช้บริการ

 

เดินมาไม่ไกลเลยสำหรับ Pearl Bangkok อาคารทรงวงรี รูปไข่มุก ล้อมด้วยกระจกโค้งทั้งอาคาร และใช้เส้นสายโค้งวนรอบอาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ Pearl Dome ด้านหน้าอาคาร ซึ่งออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งด้วยโครงสร้างเหล็ก ปราศจากเสาภายใน ใช้สำหรับจัดแสดงงานต่างๆ แต่การก่อสร้างภายในยังไม่เรียบร้อยนัก

 

 

 

 

อีกส่วนเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าสูง 25 ชั้น เป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยความงามและประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย ทั้งให้เช่าจัดแสดงสินค้าและบริการ ให้เช่าพื้นที่ประชุม อบรม สัมมนาและจัดเลี้ยง

 

 

การออกแบบอาคารได้รับแรงบันดาลใจมากจากไข่มุก อัญมณีสวยหรูและทรงคุณค่า โดยพื้นที่ Pearl Dome ด้านหน้า ได้แนวคิดมาจาก หอยมุกมา-เบ (Mabe) ซึ่งเป็นหอยมุกซีก ที่มีลักษณะทรงกลมครึ่งซีก เนื่องจากเม็ดไข่มุกเติบโตอยู่กับเปลือกหอยมุก หรือที่คนไทยเรียกว่า มุกกัลปังหา ซึ่งเป็นมุกที่มีชื่อเสียงจากจังหวัดภูเก็ต นิยมนำมาทำเป็นแหวน

 

ส่วนตัวอาคารสูงทรงวงรี มีคอนเซปต์มาจากรูปทรงวงรี โค้งมน และสีสันสวยงามของไข่มุกเซาท์ซี (South Sea Pearl) รูปทรงไข่ หรือเรียกอีกอย่างว่ารูปทรงเมล็ดข้าว ที่มีลักษณะทรงรีและแบน ซึ่งเป็นไข่มุกประเภทที่หาได้ยากและมีคุณค่า โดยไข่มุกเซาท์ซี ขึ้นชื่อว่าเป็นไข่มุกที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดในโลก เนื่องจากความเงางามของผิวและขนาดที่ใหญ่กว่าไข่มุกประเภทอื่น

 

การก่อสร้างอาคารไข่มุกที่มีความโค้งมนนี้ มีความยากกว่าอาคารสี่เหลี่ยมธรรมดา เพื่อที่จะให้ไข่มุกมีความโค้งได้รูปตามที่ออกแบบไว้ กระจกที่ติดอยู่กับอาคารทุกแผ่นต้องได้รับการคำนวณความกว้างยาวอย่างแม่นยำ เพื่อประกอบแต่ละส่วนให้เข้ากันได้พอดี จึงจำเป็นต้องมีการตัดกระจกเฉพาะแผ่น ดังนั้นกระจกจำนวน 11,300 แผ่นที่อยู่รอบอาคาร จึงมีขนาดไม่เท่ากันเลยสักแผ่นเดียว

 

 

ความปราณีตในการออกแบบอาคารไม่ได้มีเพียงด้านสถาปัตยกรรมเท่านั้น ตัวอาคารมีการติดตั้งระบบแสงสีที่ทันสมัยด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีการออกแบบและควบคุมการสลับแสงสีของไฟในยามค่ำคืน เพื่อร่วมสร้างสีสันให้กับกรุงเทพฯ ในโอกาสพิเศษต่างๆ ด้วย

 

เมื่อเดินมาถึงอาคาร Pearl Bangkok จะเห็นป้ายพฤกษาอยู่ด้านหน้าทางเข้า สังเกตได้ไม่ยาก ข้างปั๊ม Esso

 

เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับอาคารวงรีรูปร่างเป็นไข่มุกขนาดใหญ่

 

ด้านหน้าเชื่อมต่อกับ Pearl Dome มีหลังคาโค้งมนรับกับทรงของอาคารทั้งสองได้อย่างลงตัว

 

ประตูเชื่อมต่อกัน เข้าออกได้สะดวก แต่ประตูทางเข้าอาคารหลักนั้นมี 2 ประตูด้วยกัน คือตรงข้ามกับ Pearl Dome      และประตูใกล้ๆ กับ Starbucks 

 

โครงสร้าง การออกแบบ และมุมมอง ไม่ว่าจะยืนอยู่ทิศไหนก็ดูสวยงามไร้ที่ติ

 

มาถึงทางเข้า ประตูมีโลโก้ของพฤกษาอยู่

 

ด้านในเพดานยกสูง ไฟดาวน์ไลท์ช่วยขับให้ห้องโถงดูกว้างขวาง โอ่อ่า สบายตา

 

ร้าน Starbucks จะอยู่ด้านขวามือ

 

มีชื่ออาคาร Pearl Bangkok ตระหง่านอยู่ด้านบน

 

เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์จะอยู่ด้านซ้าย

 

ตรงกลางจะเป็นทางเดินเพื่อเข้ามายังบันไดเลื่อน

 

แม้แต่ไฟด้านบน มีการประดับตกแต่งอย่างละเอียดลออ

 

บันไดเลื่อนเชื่อมต่อกับชั้น 2

 

ข้างๆ บันไดเลื่อนชั้น 1 จะเป็นลานกว้างสำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ

 

ในชั้น 1 นี้ให้รายละเอียดกับเพดานค่อนข้างมาก

 

 

บันไดเชื่อมชั้น 2 สู่ชั้น 3

 

ในส่วนของชั้น 2-3 จะเป็นส่วนธนาคารต่างๆ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารกรุงศรี, เครดิตบูโร, ธนาคารออมสิน, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคากสิกรไทย และธนาคารยูโอบี นอกจากนี้ยังมี 7-11 ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และคาเฟ่ต่างๆ เปิดให้บริการอีกด้วย

 

 

 

 

 

ชั้น 4 จะเป็นห้องประชุม ห้องสัมมนาต่างๆ ถ้าขึ้นลิฟต์มาจะเจอกับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ Pruksa Academy

 

ทั้งชั้นนอกจากจะเป็นห้องจัดประชุม สัมมนา งานเลี้ยงต่างๆ แล้ว ยังมีที่นั่งรับรองด้านนอก เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน

 

 

เป็นอาคารที่ใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่แรงบันดาลใจจากไข่มุก การออกแบบตัวอาคารนอกจากจะสวยแล้ว ต้องประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงกระจกที่สั่งตัดพิเศษให้รับเข้ากับอาคารได้อย่างพอเหมาะ ภายในสวยงาม เรียบง่าย ภายนอกเองก็โดดเด่น สะดุดตา และน่าหลงใหล ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะมาชมความอลังการของ Pearl Bangkok กันได้เลย

 

 

อ้างอิง www.bangkokbiznews.com

 

 

 



 

 

 

 

 

ความคิดเห็น