พลัสฯ แนะนำแผนรับมือการป้องกันโค้งสุดท้ายของฤดูฝน
เดือนกันยายนถือว่าเป็นช่วงสุดท้ายของฤดูฝน ทางกรมอุตุนิยมวิทยามีการพยากรณ์ว่าเดือนนี้จะมีฝนตกชุกหนาแน่น 60 – 80% ของพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้สถานการณ์ในช่วงนี้มักจะเกิดฝนตกหนักและอาจจะเกิดภาวะน้ำท่วมได้ ทำให้หลายพื้นที่มีความกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่หรือไม่ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และพื้นที่รอบนอก หลายๆ หน่วยงานของภาครัฐได้เข้ามาดูแล เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ออกมาหาแนวทางในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น หรือทางกรมอุตุนิยมวิทยาทำการแจ้งข้อมูลเป็นระยะๆ จึงเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด
วันนี้ทางพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะผู้ดูแลบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยกว่า 360 โครงการ ด้วยประสบการณ์การ ของ Plus Living Management ได้แนะนำแนวทางเบื้องต้นในการดูแลที่พักอาศัยอย่างมืออาชีพ ซึ่งทีมนิติบุคคลมีการวางแผนดูแลและซ่อมบำรุงระบบวิศวกรรม แบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Preventive Maintenance) เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำท่วมขังนี้ โดยมีแนวทางปฏิบัติด้วยการตรวจสอบระบบปั๊มน้ำ ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพราะระบบเหล่านี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญหลักที่จะช่วยในการบรรเทาน้ำท่วมขัง จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมให้ใช้งานได้อยู่เสมอ และถ้าพบความผิดปกติในการทำงานของระบบเหล่านี้ก็จะต้องได้รับการแก้ไขในทันที เพื่อให้มีผลกระทบกับผู้พักอาศัยน้อยที่สุด นอกจากนี้จะต้องมีการสำรวจตรวจสอบบริเวณที่เป็นจุดรับน้ำ เช่น ท่อระบายน้ำโดยรอบโครงการ แผงหรือประตูกันน้ำที่เชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำสาธารณะ ตรวจเช็กระดับน้ำสาธารณะในกรณีถ้าอยู่ติดกับทางโครงการ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง หรือลำราง ก่อนอื่นทีมนิติบุคคลต้องมีการประเมินความเสี่ยงของโครงการได้ เช่น โดยรอบๆ โครงการมีพื้นที่ติดแม่น้ำ ลำคลอง หรือลำรางสาธารณะหรือไม่ หรือพื้นที่โครงการอยู่ในพื้นที่ลุ่มเป็นจุดเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะน้ำท่วมขังได้ง่าย เป็นต้น ที่สำคัญอีกอย่างคือการฝึกซ้อมทีมงานให้มีความรู้และความสามารถในการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพราะเมื่อเกิดสถานการณ์จริงจะได้ทำการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้พลัสฯ ได้มีการวางมาตรฐานในการบริหารจัดการเชิงป้องกันตามระดับความเสี่ยงเพื่อเตรียมการรับมือดังต่อไปนี้
- พื้นที่โครงการที่ไม่มีความเสี่ยง : พลัสฯ มีแนวทางในการดูแลที่เป็นมาตรฐานตั้งแต่การตรวจเช็กและป้องกัน แบบ Preventive Maintenance ในทุกๆ ระบบโดยเฉพาะระบบปั๊ม ระบบไฟฟ้า ให้สามารถทำงานไปตามปกติ ตรวจเช็กจุดรับหรือจุดเชื่อมต่อกับแหล่งน้ำ เช่น ท่อระบายน้ำรอบๆ โครงการ ไม่ให้มีเศษขยะ หรือใบไม้ไปกีดขวางการระบายน้ำ รวมไปถึงจุดเชื่อมต่อกับท่อน้ำสาธารณะที่ต้องมีการตรวจเช็กผนังกั้นน้ำ ถึงการระบายน้ำและการกรอง (Drainage / Filtration) ว่ายังคงสภาพ พร้อมใช้งาน หากจุดไหนมีโอกาสเกิดน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามาภายในโครงการได้ ควรหาทางป้องกันปิดกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้ามาภายในโครงการ สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม หรืออาคารแนวสูง อาจจะต้องมีการตรวจเช็กบริเวณดาดฟ้าเพราะเป็นจุดแรกที่รับน้ำขณะเกิดฝนตกหนักควรทำความสะอาดให้สามารถระบายน้ำได้ และเพิ่มการเฝ้าระวังสังเกตจุดที่มีคราบรอยน้ำ หรือจุดรั่วซึมอื่นๆ และทำการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ดี
2.พื้นที่โครงการที่มีความเสี่ยง : นอกจากการตรวจสอบระบบที่เป็นมาตรฐานแล้ว ก็ควรเพิ่มการเฝ้าระวังในเรื่องของการตรวจเช็กระดับน้ำในท่อระบายน้ำภายในโครงการ ในโครงการหมู่บ้านที่พลัสฯ บริหารจัดการหากเป็นสถานการณ์ปกติโครงการจะมีการนำน้ำเสียจากท่อระบายน้ำมาบำบัดเพื่อนำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่สำหรับการรดน้ำต้นไม้ในพื้นที่ส่วนกลาง แต่หากมีความเสี่ยงน้ำท่วมขัง ควรทำการปั๊มน้ำออกจากท่อให้เหลือไม่เกิน 10 เซนติเมตรเพื่อรอรับน้ำฝนที่จะตกใหม่ เจ้าหน้าที่จะมีการตรวจเช็กระดับน้ำในพื้นที่สาธารณะ เช่น ลำคลอง ลำรางโดยรอบโครงการว่ามีแนวโน้มจะท่วมหรือไม่ เพื่อเตรียมอุปกรณ์ปั๊มน้ำไปติดตั้งในจุดที่เสี่ยงน้ำเข้ามาภายในโครงการ และต้องมีการวางแผนรองรับในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น มีปั๊มน้ำสำรองในกรณีที่ปั๊มน้ำเสีย จัดกระสอบทรายอย่างเพียงพอไว้กั้นจุดที่จะคาดว่าจะมีน้ำเข้ามาอีกด้วย
นอกจากนี้ทางนิติบุคคลจะทำการสื่อสารเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด และแนวทางในการรับมือให้ผู้พักอาศัยทราบอย่างสม่ำเสมอ อาทิ การแจ้งเตือนการสภาพอากาศในกรณีมีฝนตกหนัก รวมไปถึงการแนะนำให้ลูกบ้านดูแลท่อระบายน้ำในบริเวณบ้าน หรือคอนโดฯ ในการดูแลท่อระบายน้ำบริเวณระเบียงไม่ให้มีสิ่งสกปรก หรือใบไม้ไปอุดตันท่อระบายน้ำ และคอยสังเกตจุดต่างๆ ภายในบ้านที่อาจจะมีน้ำรั่วซึม และควรดำเนินการแก้ไขโดยทันที รวมถึงการระมัดระวังอันตรายจากสัตว์ต่าง ๆในช่วงนี้ที่อาจจะหนีน้ำเข้ามา เป็นต้น
สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สามารถหมดกังวลได้ ด้วยมีทีมงานมืออาชีพที่จะดูแล และเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะฝนตกหนัก หรือน้ำท่วมขังที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพของลูกบ้านเป็นสำคัญ