ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น "Toranomon-Azabudai"

ญี่ปุ่น เปิดตัว โครงการ Toranomon-Azabudai (โทะระโนะมง-อะซะบุได)  ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น  การก่อสร้าง โครงการนี้ถือได้ว่าเป็นโครงการที่ฟื้นฟูเมืองใจกลางกรุงโตเกียวที่มุ่งหวังจะเป็น “A city with in A city” หรือ “เมืองภายในเมือง” ตามแผนของผู้พัฒนาโครงการ 

 

โครงการ Toranomon-Azabudai (โทะระโนะมง-อะซะบุได) จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นถึง 330 เมตร (1,083 ฟุต) ซึ่งจะสูงกว่า ตึก Abeno Harukas ในโอซาก้าซึ่งปัจจุบันเป็นตึกที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นอยู่ที่ 300 เมตร (984 ฟุต)  (ไม่รวมหอคอยโตเกียวทาวเวอร์  332.6 เมตร และหอคอยโตเกียวสกายทรี 634 เมตร )โดยภาพภายนอกอาคารมีการออกแบบได้แปลกตาพร้อมขอบโค้งเล็กน้อยและปลายยอดอาคารมีลักษณะคล้ายกับกลีบดอกไม้ และยังมีการก่อสร้างตึกบ็อกเซอร์ที่สูงต่ำกว่าสองแห่ง ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 8 เฮคเตอร์ โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดภายในปี 2566

 

นักพัฒนาโครงการ บริษัท โมริ บิลดิง จำกัด (Mori Building Co., Ltd.) กล่าวว่าโครงการดังกล่าวจะเป็น “หมู่บ้านกลางเมืองสมัยใหม่” โดยมีสำนักงานและอพาร์ทเมนท์ มีพนักงาน 20,000 คน และผู้พักอาศัย 3,500 คน สิ่งอำนวยความสะดวกในสถานที่จะรวมถึง โรงยิม โรงเรียนนานาชาติแห่งใหม่ ร้านค้า พิพิธภัณฑ์ และพื้นที่สีเขียว 2.4 เฮกตาร์


อิทธิพลของการออกแบบ

 

ตัวตึกของ โครงการ Toranomon-Azabudai (โทะระโนะมง-อะซะบุได) ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Pelli Clarke Pelli Architects และในส่วนการตกแต่งภายในของที่อยู่อาศัยนั้น “ขึ้นอยู่กับมุมมองและวิถีชีวิตที่คาดหวังในญี่ปุ่น” โดย Soo K. Chan สถาปนิกชาวสิงคโปร์ ซึ่งทำงานในโครงการนี้ กล่าวว่า บ้านญี่ปุ่นมักจะมีการวางพื้นที่รอบ ๆ ให้มีพื้นที่ใช้สอยได้ เช่น ห้องครัว จึงนำแนวคิดนี้รวมเข้ากับการออกแบบ

ทางทีมงานสถาปนิกยังกล่าวอีกว่า ยังได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดและงานฝีมืออย่างใกล้ชิดซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีคุณค่าในวัฒนธรรมญี่ปุ่น “สำหรับญี่ปุ่นการออกแบบของเรานั้นมีความหรูหราอย่างแน่นอน และให้ยังความสำคัญกับงานฝีมือซึ่งเน้นถึงวัฒนธรรมการออกแบบของญี่ปุ่น”

 

ผู้ก่อตั้ง บริษัท สถาปัตยกรรม Cesar Pelli และ Fred Clarke ต่างมีบทบาทในการออกแบบทั้งสามตึกของโครงการนี้ และน่าจะเป็นงานสุดท้ายที่ Pelli ทำงานก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในเดือนกรกฎาคม

Pelli สร้างชื่อเสียงให้กับตึกระฟ้าที่มีนวัตกรรมโดดเด่น โดยออกแบบตึก Petronas ในกัวลาลัมเปอร์และ Pacific Design Center ใน West Hollywood


วิวัฒนาการของสกายไลน์

 

อย่างที่รู้กันดีว่าญี่ปุ่นซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในเรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีตึกระฟ้าที่สูงที่สุดหลายแห่งถูกสร้างขึ้นก่อนช่วงเปลี่ยนศตวรรษ แต่ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ วิ่งไปข้างหน้าสร้างสกายไลน์สูงกว่าที่เคยมีมา

ในขณะเดียวกันตึกที่สูงที่สุดแห่งใหม่ของญี่ปุ่น ก็ยังคงสูงไม่เท่า ตึก Taipei 101 (ไทเป 101) ของไต้หวันที่สูงถึง 508 เมตร (1,667 ฟุต)   , ตึก One World Trade Center (วันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์) ตั้งอยู่ในนิวยอร์กมีขนาดสูงถึง 541 เมตร (1,776 ฟุต) และ ตึก Burj Khalifa (เบิร์จคาลิฟา) ของประเทศดูไบ ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกที่มีขนาด 828 เมตร (2,717 ฟุต)  ซึ่งสูงกว่าตึก Toranomon-Azabudai (โทะระโนะมง-อะซะบุได) สองเท่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนได้มีการสร้างตึกระฟ้าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งหมด 88 แห่งซึ่งมีขนาด 200 เมตร (656.2 ฟุต) ขึ้นไปสร้างเสร็จในเมืองใหญ่ทั่วประเทศจีนในปี 2561 มากกว่าที่ใดในโลกหรือในช่วงเวลาอื่นใดในประวัติศาสตร์ตามที่สภาอาคารสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (CTBUH) และในประเทศอื่น ๆ ก็ได้มีก่อสร้างตึกระฟ้ามากขึ้นและเป็นไปอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้สหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่สอง ในปี พ. ศ. 2561 โดยมีตึกระฟ้าที่สร้างเสร็จ 13 แห่งที่ระดับความสูง 200 เมตรขึ้นไป ในขณะที่ญี่ปุ่นสร้างเสร็จเพียง 11 อาคารในทศวรรษที่ผ่านมาตลอดจนในปี 2561 ก็ยังคงไม่มีโครงการก่อสร้างตึกระฟ้า ตามข้อมูลของ CTBUH



 

ที่มา : https://edition.cnn.com/style/article/japan-tallest-building-intl-hnk-trnd/index.html

 

ความคิดเห็น