ตะลุยญี่ปุ่นกับแคมเปญ "Ananda UrbanTech" กับวิถี Sharing Economy ของ Startup พัฒนาผลิตภัณฑ์สุดเจ๋ง ตอบรับไลฟ์สไตล์ยุค 4.0

ตะลุยญี่ปุ่นกับทีม Ananda Development  ที่ได้พาชาว Gen C ไป Lost in Tokyo กันอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ จะมาในแคมเปญ “Ananda UrbanTech” ที่พาไปดูเหล่า Startup ชาวญี่ปุ่น ที่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สุดเจ๋ง ตอบรับไลฟ์สไตล์ยุค 4.0  และไปดูมุมมองวิถี Sharing Economy โดยเราจะบุกไปเยี่ยมชมสถานที่ทำงานจริงของพวกเขากันครับ

.
เมื่อนึกถึงประเทศญี่ปุ่น เราก็คงจะนึกถึงความไฮเทค ไอเดียแปลกๆ  และความมีวินัยของผู้คนที่นั่น วันนี้เราจะพามาดูเหล่า Startup ที่ญี่ปุ่นเขาคิด Disrupt ธุรกิจอะไรบ้าง ที่สะท้อนความเป็น Startup ในแบบฉบับชาวญี่ปุ่น

พูดถึงการทำ Startup แล้วสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากที่สุดของกรอบความคิดในการทำงานของเหล่าบรรดา Startup ทั้งหลายนั้น ก็คือการที่จะต้องคิดแบบ Disruptive (Business) คือ การคิดแก้ปัญหาหรือเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจแบบเดิมให้เป็นเรื่องใหม่ หรือ ได้โมเดลทางธุรกิจใหม่ๆได้อย่างไร ซึ่งทางอนันดาฯ ได้เชิญทีมงาน Startup และ Venture Capital ของประเทศญี่ปุ่นมาแชร์ประสบการณ์ให้กับชาว GEN‐C ได้ฟังกันภายใต้หัวข้อ   “DISRUPTS THE TRADITIONAL WAY OF LIVING TO IMPROVE THE QUALITY OF URBAN LIFE”

.

เหล่า Startup เก่งๆ ที่ทาง อนันดาฯ เชิญมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ใน Startup Day in Tokyo

โดย Startup และ Venture Capital ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ให้ชาว GEN‐C ได้ฟังนั้นได้แก่

.
GaiaX เป็น บริษัทที่เน้นและให้ความสำคัญกับทุกคนให้สามารถติดต่อเชื่อมโยงกันได้ผ่านเทคโนโลยี บริษัทมีบริการด้าน Social Media Solution ที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับ Sharing Economy โดยเฉพาะ ผ่านการพัฒนาและลงทุนใน Platform ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถใช้และได้รับประโยชน์จากการ Sharing ไม่ว่าจะเป็น resource, ทักษะ และประสบการณ์ต่างๆ ที่ทุกคนมี ที่เป็นผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรวม ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทให้ ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และในครั้ง นี้เราได้รับเกียรติอย่างสูงจาก CEO ของบริษัทเองมาพูดในหัวข้อ “Sharing Economy” ของประเทศญี่ปุ่นให้ชาว GEN‐C ได้ฟังกันรวมไปถึงโครงการต่างๆที่ทาง GaiaX ได้เข้าไปร่วมลงทุนให้เงินสนันสนุนในบริษัท Startup ต่างๆที่ทำในเรื่องของ “Sharing Economy” เรียกได้ว่า GaiaX เองก็เป็น Venture Capital รายหนึ่งที่ให้ความสนใจใน Startup ที่ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

.
TABICA เป็น Startup ประเภทบริการท่องเที่ยว คือให้บริการจัดทริปพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นในต่างจังหวัดภายใน 1 วัน ซึ่งบริษัท TABICA นีก็ถือเป็น venture project ของทาง GaiaX ที่ไปสนับสนุนให้ความช่วยเหลือให้นั่นเอง

.

Notteco เป็น Startup ให้บริการแชร์การเดินทางระยะไกลในประเทศญี่ปุ่น เพราะในญี่ปุ่นแล้วส่วนใหญ่จะใช้รถไฟในการเดินทางเป็นหลัก แต่สำหรับบางคนที่มีรถยนต์แล้วต้องการจะแชร์การเดินทางไปยังต่างจังหวัดไกลๆก็สามารถเปิดรับผู้ร่วมเดินทางไปด้วยกันได้ผ่านแอพพลิเคชั่นของ Notteco ซึ่งจะคล้ายกับ Uber แต่ Notteco นั้น จะเน้นระยะทางไกลข้ามจังหวัดเท่านั้น

.

Dverse เป็น Startup ที่พัฒนาซอฟแวร์เกี่ยวกับการสร้างสรรผลงานในรูปแบบของ Virtual Reality ในชื่อว่า SYMMETRY ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ถือเป็น Startup ที่มีทีมงานที่มากความรู้และด้วยประสบการณ์และยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรม Virtual Reality ในประเทศญี่ปุ่นด้วย จากการที่ Dverse เป็นสมาชิกของ VR Consortium Japan และ The Virtual Reality Society of Japan ทำให้มีกลุ่มนักลงทุน VC หลายรายให้เงินสนับสนุนตลอดมา โดยในปัจจุบัน Dverse ได้รับเงินสนับสนุน(Funding) ไปแล้ว $1.16M จำนวน 2 รอบจากผู้ลงทุน(Investors) ทั้งหมด 8 รายด้วยกัน

.
Hoomano เป็น Startup ที่เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจของหลายๆ คนเลยก็ว่าได้เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของผลงานหุ่นยนต์อัจฉริยะ Pepper อันโด่งดังนั่นเอง Hoomano นั้นมุ่งพัฒนาซอฟแวร์สำหรับหุ่นยนต์เพื่อการพาณิชย์ โดยซอฟแวร์ที่ทาง Hommano พัฒนาขึน้ มานัน้ จะเป็นลักษณะ Interactive Intelligence เพื่อให้สามารถโต้ตอบกับมนุษย์ในการช่วยเหลือและให้บริการต่างๆได้ อย่างเจ้าหุ่นยนต์ Aldebaran Nao ตัวแรกที่ทาง Softbank Robotics ได้ซื้อกิจการไป หรือจะเป็นเจ้าหุ่นยนต์ Pepper ที่เราเห็นอยู่ตามสนามบินและตามร้านค้าต่างๆในประเทศญี่ปุ่น ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานที่ทาง Hoomano สร้างขึ้น มาทั้งนั้น

Hoomano  เจ้าของผลงานหุ่นยนต์อัจฉริยะ Pepper ที่จะเห็นแทบทุกร้านค้าในญี่ปุ่นครับ

.
Crowd Realty เป็น Startup ที่ให้บริการเกี่ยวกับ “Peer to Property Funding Marketplace” คือเป็น Crowdfunding Service ใหม่สำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และเงินกู้/หลักทรัพย์ หรือจะเรียกอีกอย่างว่าเป็น P2P (peer‐to‐peer) platform for real estate ก็ได้ อธิบายง่ายๆก็คือใครอยากจะร่วมลงทุนให้เกิดโครงการ บ้าน คอมโด อาคารเช่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ก็มาร่วมลงทุนกันผ่าน Platform ของ Crowd Realty ได้เลย ซึ่งตัวบริษัท Crowd Realty เองก็ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

.
Hyakusenrenma หรือ Stay Japan เป็น Startup ประเภทบริการเช่าห้องพักในประเทศญี่ปุ่น คล้ายกับบริการ Airbnb ก่อตัง้ ขึน้ เมื่อปี 2012 และมีบริการเช่าบ้านทั้งหลังในประเทศญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วย นอกจากนั้นยังมีบริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าพักในบ้านของชาวนาหรือชาวประมงเพื่อการท่องเทียวแบบศึกษาวิถีชีวิตในชนบทอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่ง Startup ประเภท “Sharing Economy” ที่ทาง GaiaX ได้เข้าไปลงทุนใน ด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้ว Hyakusenrenma ได้รับเงินสนับสนุน ไปแล้วถึง $14.97M จำนวน 3 รอบจากผู้ลงทุน ทั้งหมด 5 รายด้วยกัน

.
Mebiol เป็น Startup ที่น่าจับตาเป็นอย่างมากแถมยังได้รับเกียรติขึ้น พูดในงาน TEDxTokyo มาแล้วด้วย จากความเจ๋งของนวัตกรรมที่ทาง Mebiol คิดค้นขึ้นมาเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ด้วยแผ่นฟิล์ม (Film Planting) ด้วยเทคโนโลยี Hydrogel Agriculture Technology จนเกิดเป็นแผ่นฟิล์มใสที่ชื่อว่า “Hymec” ซึ่งเจ้าแผ่นฟิล์มหน้าตาคล้ายแผ่นพลาสติกใสนี้เอง ช่วยให้การทำฟาร์มในเมืองที่มีความแห้งแร้งหรือเป็นแห่งโรงงานต่างๆที่มีอุณหภูมิสูงอย่างในทะเลทรายและแม้กระทั่งบริเวณที่อยู่ใกล้ในเตาเผาขยะ ก็สามารถปลูกพืชทางการเกษตรได้

.

และครั้งนี้เรายังจะได้ใกล้ชิดเยี่ยมชมบรรยาการภายใน Co‐working space ที่ประเทศญี่ปุ่นกันอีกด้วยว่า Co‐working space ของเขานั้นทันสมัยและจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรให้กับเหล่า Startup ของที่โน่นกันบ้าง.

Grid จะเป็นอาคาร สำนักงานให้ Startup ได้มาใช้บริการ

.

บรรยากาศส่วนหนึ่งภายในอาคาร Grid ที่จะมีพื้นที่ Co‐working space มีพื้นที่ทำงาน ห้องประชุม ห้องสมุด ลานจัดงาน ห้องอเนกประสงค์ และมีร้านกาแฟ คอยบริการเหล่า Startup ที่มีบรรยากาศน่าทำงานเหมาะกับการแชร์ไอเดีย ความรู้  ตามแนวคิด “Sharing Economy” กันจริงๆครับ

.

ต่อมาเราไปดูเทคโนโลยีล้ำๆกันต่อ ที่ Panasonic Center Tokyo

.

ที่ Panasonic Center Tokyo ได้พบกับ คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) แม่งานของทริปนี้ ที่ได้มาพูดคุยต้อนรับชาว GEN C เป็นอย่างดี

.

ที่ Panasonic Center Tokyo ได้พบนวัตกรรมล้ำๆ มากมาย ทั้ง อุปกรณ์ภายในบ้าน กล้องถ่ายรูป ยานยนต์ เครื่องเสียง เรียกว่าแทบจะทุกอย่างในการใช้ดำเนินชีวิตเลยทีเดียว

.

อย่างกระจกแต่งตัวที่สามารถวิเคราะห์สุขภาพ หรือ การช่วยจำลองการแต่งหน้าว่าวันนี้จะแต่งหน้าอย่างไรดี และ สามารถออนไลน์ แชร์สู่ Social Network ได้ทันที

และโต๊ะรับแขกสุดล้ำ ที่สามารถดึงข้อมูลจาก Smart phone  และ นำไปแสดงบนจอได้ทันที

.

รวมถึงภายในครัวก็จะมีฟังก์ชั่นล้ำยุค สามารถมีผู้ช่วยในการทำครัว รวมถึงการสั่งของทันทีได้เมื่อวัตถุดิบในการทำอาหารหมด

สำหรับที่ประเทศญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับการใช้จักรยานและพลังงานสะอาดเป็นประเทศต้นๆของโลก ดูอย่างที่จอดจักรยานตามชุมชนต่างๆ ที่จะประหยัดพื้นที่มาก แต่สามารถจอดจักรยานได้เป็นร้อยคัน

.

แผนผังแสดงที่จอดเป็นแบบอัตโนมัติ ด้านบนดูเล็กนิดเดียว แต่จอดจักรยานได้เป็นร้อยคัน

และอีกอย่างที่คนมาที่ประเทศญี่ปุ่นต้องลองสัมผัส คือ การไปกินซูชิสายพาน ที่สั่งปุ๊บ ซูชิจะวิ่งมาเสริฟ หยุดที่หน้าโต๊ะทันที

.

คนหรือหุ่นยนต์ ?  เฉลยครับ ในภาพคือ หุ่นยนต์ต้อนรับที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งในอนาคตเทคโนโลยีหุ่นยนต์จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต  แอบกลัวว่าอีกหน่อย มนุษย์เราๆตกงานเพราะโดนหุ่นยนต์แย่งงานนะเนี่ย

.

.

ต่อจากนั้นเราก็ยังได้ไปชมโครงการที่พักอาศัยในญี่ปุ่น  จาก มิตซุย ฟูโดซัง บริษัทอสังหายักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นที่เป็นพันธมิตรแข็งแกร่งของอนันดาฯ  ที่พาเราเข้าเยี่ยมชม Sale office ของโครงการ Park Court Hamarikyu The Tower ที่จุดเด่นโครงการนี้ คือ วิวในห้องพักที่สามารถเห็นหอคอย Tokyo Tower ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองโตเกียวได้อย่างชัดเจน และ จุดเด่นอีกอย่างด้านการขาย คือ Sale Kit  ของโครงการนี้จะเป็น Tablet แทนที่จะเป็นกระดาษอย่างที่เคยๆเห็นกัน โดยโครงการจะแจก Tablet ให้กับคนที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมเลยครับ ไม่ต้องคืนก็ได้

.

โมเดล Park Court Hamarikyu The Tower

.

และ อีกโครงการเด่นของมิตซุย ฟูโดซัง ที่เราได้ไปชม คือ  Global Front Tower  ซึ่งเป็นโครงการที่จับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ Mid‐High โดยโครงการนี้มียอดขายและยอดโอน 100% และแล้วเสร็จพร้อมอยู่ เมื่อเดือนมกราคม ปี2016 ที่ผ่านมา

บรรยากาศของ Lobby ภายในโครงการ Global Front Tower ที่มีความหรูหรา โอ่โถง

หลังจากได้ดูความไฮเทคด้านเทคโนโลยี และโครงการอสังหาฯชั้นนำในญี่ปุ่น  ประเทศนี้ก็ยังมีมุมมองอื่นๆที่น่าสนใจ ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ อย่างด้านวัฒนธรรม-ความเชื่อที่ยังสมบูรณ์ โดยยังไม่ทิ้งรากเหง้า และญี่ปุ่นยังขึ้นชื่อเรื่องด้านการอนุรักษ์ประเพณีเก่าแก่ ความเชื่อ รวมถึงเคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

เราได้ไปเยี่ยมชม ศาลเจ้าเมจิ สถานที่ศักดิ์ศิทธิ์ ที่ชาวญี่ปุ่นให้ความเคารพนับถือ โดยเฉพาะคืนก่อนวันปีใหม่ ที่ชาวญี่ปุ่นจะมารวมตัวที่นี่นับแสนคนเพื่อขอพร

.

บรรยากาศของศาลเจ้าเมจิ ที่มีความร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ยืนต้น ที่ไม่สามารถพบง่ายๆในประเทศอื่น

.

อีกที่คือ วัดอาซากุสะ หรือมีอีกชื่อว่า วัดเซ็นโซจิ หรือคนไทยจะเรียกกันว่า วัดโคมแดง เป็นอีกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวญี่ปุ่นและคนที่มาเที่ยวต้องหลั่งไหลเข้าไปขอพร โดยจะโยนเหรียญเข้ารางกล่องขนาดใหญ่ บริเวณด้านหน้าพระพุทธรูปภายในอุโบสถเพื่อความเป็นสิริมงคล

.

ใครมาญี่ปุ่น ไม่ควรพลาดไปขอพรที่ วัดอาซากุสะ กันนะครับ

.

จบทริปการเดินทางตะลุยญี่ปุ่นกับทีม Ananda Development ที่ได้ทั้งความรู้และความประทับใจ ในการเรียนรู้ทั้งเทคโนโลยี วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ของวิถีคนเมือง Urban Life ของชาวญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะเห็นภาพของสิ่งดีๆต่างๆเหล่านี้ นำมาประยุกต์ใช้ให้กับสังคมเมือง ตามแนวคิด “GEN-C LIFE IN URBANTECH ERA” DISRUPTS TO IMPROVE THE QUALITY OF URBAN LIFE ให้กับคนรุ่นใหม่อย่างเราๆชาว Gen C กันครับ

ความคิดเห็น