การเลือกขนาดคอนโดให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

การเลือกซื้อคอนโดนั้น นอกจากจะดูที่ราคา ไลฟ์สไตล์ ทำเลดีๆ  ค่าส่วนกลาง ที่จอดรถและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ แล้ว เรื่องของการเลือกขนาดห้องยังเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตอีกด้วย และหากเลือกขนาดห้องคอนโดใหญ่ ๆ แน่นอนว่าจะต้องเสียค่าส่วนกลางมากขึ้นตามไปด้วย เพราะค่าส่วนกลางนั้นจะคิดตามขนาดตารางเมตร โดยค่าส่วนกลางจะเสียทุกเดือน (บางโครงการคิดเป็นรายปี) ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 30-60 บาท/ตารางเมตร/เดือน

สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการเลือกขนาดห้องคอนโด ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะกับผู้อยู่อาศัย ไลฟ์สไตล์ ซึ่งวันนี้คบคิดจึงจะมาแบ่งขนาดห้องคอนโดให้หายข้องใจกันไปเลยว่าห้องแต่ละขนาดนั้นเหมาะกับใคร

 

ห้องสตูดิโอ

ห้องสตูดิโอจะเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของคอนโด โดยส่วนใหญ่จะมีขนาดเริ่มต้นประมาณ 20 ตารางเมตรขึ้นไป แต่ไม่เกิน 30 ตารางเมตร โดยห้องสตูดิโอจะรวมฟังก์ชันทุกอย่างไว้ในห้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องครัว บางแห่งอาจจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นเพิ่มเป็นสัดส่วน

 

เหมาะกับใคร

– เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณไม่มากนัก เนื่องจากราคาห้องสตูดิโอจะถูกที่สุดในโครงการ รวมทั้งยังจ่ายค่าส่วนกลางน้อย

– เหมาะกับผู้ที่อยู่อาศัยคนเดียว เนื่องจากห้องมีพื้นที่ใช้สอยน้อย หากอยู่มากกว่า 1 คน อาจทำให้รู้สึกอึดอัดได้

– เหมาะกับผู้ที่นิยมซื้ออาหารเข้ามากินมากกว่าจะทำเอง เนื่องจากส่วนใหญ่มีพื้นที่ครัวขนาดเล็ก และไม่เหมาะกับการทำอาหารหนัก ๆ หรืออาหารที่มีกลิ่นแรง


 

ห้องขนาด 1 ห้องนอน (1 Bedroom)

คอนโดขนาด 1 ห้องนอน มักจะเป็นขนาดห้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในคอนโด เนื่องจากมีขนาดกำลังพอดี ไม่เล็ก และไม่ใหญ่จนเกินไป พื้นที่ใช้สอยประมาณไม่เกิน 30 ตารางเมตร ไปจนถึงประมาณ 50 ตารางเมตร มีพื้นที่แบ่งออกเป็นสัดส่วนชัดเจน เช่น พื้นที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และระเบียง โดยส่วนใหญ่จะแบ่งสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน

 

เหมาะกับใคร

– เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียวที่ต้องการพื้นที่มากขึ้นกว่าห้องสตูดิโอ หรือจะอยู่แบบสองคนก็ได้เช่นกัน

– เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำอาหารกินเอง เพราะส่วนใหญ่จะกั้นพื้นที่ครัวเป็นสัดส่วนแยกจากส่วนอื่น ๆ ภายในห้องทำให้ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นอาหารจะไปรบกวนภายในห้อง

– เหมาะสำหรับซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า เนื่องจากเป็นห้องที่มีขนาดพอดีที่คนส่วนใหญ่เลือกอยู่อาศัย


 

ห้องขนาด  1 ห้องนอน พลัส (1 Bedroom Plus)

มีการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับห้องขนาด 1 ห้องนอน ให้มากขึ้น โดยห้องขนาด 1 ห้องนอน พลัส ส่วนใหญ่จะเพิ่มห้องอเนกประสงค์เข้ามาอีก 1 ห้อง ซึ่งห้องอเนกประสงค์ก็สมชื่อ สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอะไรก็ได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เช่น ห้องออกกำลังกาย ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือห้องนอนเล็กอีก 1 ห้อง พื้นที่ใช้สอยส่วนใหญ่จะไม่เกิน 50 ตารางเมตร

 

เหมาะกับใคร

– เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น หรือผู้ที่วางแผนที่จะมีลูกน้อยในอนาคต

– เหมาะกับผู้ที่ทำงานที่บ้าน (Work from Home) หรือฟรีแลนซ์ที่ต้องการมุมทำงานที่เป็นส่วนตัว หรือผู้ที่ขายของออนไลน์ต้องการมุมสวย ๆ ไว้ไลฟ์ขายสินค้า


 

ห้องขนาด 2 ห้องนอน (2 Bedroom)

ขนาดห้องคอนโดที่มีจำนวนไม่มากนักในแต่ละโครงการ เนื่องจากห้องมีขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 50 ตารางเมตร บางโครงการมากกว่า 100 ตารางเมตร ห้องขนาดนี้ก็สมชื่อคือมีจำนวนห้องนอนถึง 2 ห้อง โดยแบ่งเป็นสัดส่วน ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็นห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียงได้ตั้งแต่ 5-6 ฟุต ส่วนอีกหนึ่งห้องเรียกว่าห้องนอนเล็ก วางเตียงขนาด 3 ฟุตขึ้นไป บางโครงการมีห้องน้ำให้มากกว่า 1 ห้อง โดยจะกำหนดชัดเจนว่าขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ หรือ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ บางโครงการมีอ่างอาบน้ำแถมมาให้ด้วย

 

เหมาะกับใคร

– เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่มีลูก 1 คน หรือมีญาติผู้ใหญ่ คุณแม่ หรือคุณพ่อมาอยู่ด้วยอีก 1 คน หรือพี่น้องที่ต้องการพื้นที่เป็นสัดส่วน และต้องการอยู่กันได้แบบไม่แออัด

– เหมาะกับผู้ที่ต้องการที่จอดรถแบบประจำ เพราะหลายโครงการมักให้สิทธิ์กับผู้ที่ซื้อห้องขนาด 2 ห้องนอน สามารถมีที่จอดรถประจำได้ ไม่ต้องไปลุ้น หรือไปแย่งผู้อยู่อาศัยคนอื่น


 

ลอฟต์หรือดูเพล็กซ์ (Loft/Duplex)

ห้องรูปแบบใหม่ที่เห็นได้มากขึ้นในปัจจุบัน ความพิเศษของห้องขนาดนี้คือจะมีเพดานสูงกว่าห้องคอนโดทั่วไป โดยห้องคอนโดแบบลอฟต์ เพดานจะสูงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4.5-5 เมตร แตกต่างจากคอนโดทั่วไปที่สูงประมาณ 2.7-3 เมตร ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ใกล้เคียงกับอยู่บ้านเดี่ยวมากยิ่งขึ้น จะมีทั้งแบบ 1 ห้องนอน และแบบ 2 ห้องนอน โดยบางโครงการตกแต่งให้ด้านบนเป็นชั้นลอยให้กลายเป็นห้องนอน ส่วนด้านล่างเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องครัว และห้องน้ำ

ส่วนห้องขนาดดูเพล็กซ์นั้นจะเป็นการรวมห้องคอนโด 2 ยูนิต บน-ล่าง เข้าไว้ด้วยกัน เหมือนอยู่บ้านที่แบ่งเป็นชั้นบนและชั้นล่าง มีทั้งแบบแบ่งชั้นบนและชั้นล่างอย่างชัดเจน และแบบที่ออกแบบให้ห้องนั่งเล่นมีเพดานสูง เป็นช่องโถงกลางเชื่อมต่อ 2 ชั้น ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายมากยิ่งขึ้น

 

เหมาะกับใคร

– เหมาะกับผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยในคอนโดที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน

– เหมาะกับการอยู่คนเดียว (สำหรับ 1 ห้องนอน) และครอบครัวขนาดเล็ก (สำหรับ 2 ห้องนอน)

– เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการชมวิว เนื่องจากห้องแบบเพดานสูง บริเวณหน้าต่างจะติดตั้งด้วยกระจกบานสูง ทำให้ชมวิวได้มากกว่า

– เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบให้มีพื้นที่ใช้สอยอื่น ๆ ในห้องมากกว่าห้องนอน เพราะเมื่อบริเวณชั้นลอยกลายเป็นห้องนอน ทำให้พื้นที่ใช้สอยอื่น ๆ ภายในห้องมีมากขึ้น

 


 

เพนท์เฮาส์ (Penthouse)

ขนาดห้องที่มีจำนวนน้อยที่สุดในโครงการ หากจะเลือกขนาดห้องคอนโดแบบเพนท์เฮาส์ แน่นอนว่าคุณจะต้องมีเงินในกระเป๋าค่อนข้างมาก เพราะถือเป็นห้องที่มีราคาแพงที่สุดในโครงการ ขนาดพื้นที่ใช้สอยระดับ 100 ตารางเมตรขึ้นไป ส่วนใหญ่อยู่ชั้นบนสุด หรือเกือบบนสุดของโครงการ ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก หรือเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่ายกว่าผู้อยู่อาศัยชั้นอื่น ๆ

เรื่องความสะดวกสบาย หรือความเป็นสัดส่วนภายในห้องยิ่งไม่ต้องพูดถึง ส่วนใหญ่มีห้องนอนให้มากถึง 3 ห้องนอน พื้นที่ห้องนั่งเล่นใหญ่ หรือพื้นที่อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย อ่างอาบน้ำ พร้อมพื้นที่ในห้องน้ำที่ใช้ได้พร้อมกัน 2 คน เช่น อ่างล้างหน้าแบบ His & Her และพื้นที่ห้องแต่งตัว และพื้นที่เก็บของที่มีมากยิ่งขึ้น

 

เหมาะกับใคร

– เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยสมฐานะ ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว ชาวต่างชาติ ครอบครัวใหญ่ หรือครอบครัวที่มีลูก 2 คน

– เหมาะกับผู้ที่ชอบการชมวิว เนื่องจากห้องเพนท์เฮาส์มักอยู่สูงที่สุดของโครงการ จึงเปิดรับวิวได้มากขึ้น

– เหมาะกับผู้ที่ชอบใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เนื่องจากห้องเพนท์เฮาส์มักอยู่ติดหรือใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ


 

สรุปแล้วการเลือกขนาดคอนโดให้เหมาะกับผู้อาศัยนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ไม่แพ้ปัจจัยอื่นๆ เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว หากเลือกขนาดห้องที่ไม่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์และงบประมาณของตัวเอง นอกจากจะอยู่อย่างอึดอัด ไม่มีความสุขแล้ว การเงินก็อาจจะมีปัญหาเอาได้

 



 

ความคิดเห็น