RISLAND ปักหมุดย่านใจกล้างเมือง ปั้น “สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64” คอนโดมิเนียมโอเอซิสแห่งใหม่ย่านสุขุมวิท

RISLAND Thailand (ริสแลนด์ ประเทศไทย) กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม Mixed-Use ขนาดใหญ่ในย่านสุขุมวิท 64 กับ “สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64” (Skyrise Avenue Sukhumvit 64) คอนโดมิเนียมโอเอซิสแห่งใหม่ย่านสุขุมวิท ภายใต้แนวคิด “Harmonic Living Arise สมดุลชีวิตใหม่ใจกลางเมือง” ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี เพียง 450 เมตร เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 40% เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต พร้อมสร้างความสุขจากภายในสู่ภายนอก 

ดร.หยาน จู้ ผู้อำนวยการโครงการ “สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64”  ริสแลนด์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า RISLAND ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการแบบ Mixed-Use บนทำเลที่มีการคมนาคมสะดวกสบาย และ โครงการ “สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64” (Skyrise Avenue Sukhumvit 64) ซึ่งถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดของริสแลนด์ ประเทศไทย ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 22 ไร่ ในทำเลบนถนนสุขุมวิท โดยเป็นคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ จำนวน 4 อาคาร (เฟสที่ 1) โดยมี อาคารสูง 46 ชั้น 1 อาคาร, อาคารสูง 48 ชั้น จำนวน 2 อาคาร และอาคารสูง 49 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,961 ยูนิต โดยที่เราจะเปิดขายเฟส 1 ที่มีมูลค่าถึง 9,060 ล้านบาท จากมูลค่ารวมทั้งโครงการกว่า 15,000 ล้านบาท มาพร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 40% เพื่อให้กลายเป็นโอเอซิสใจกลางเมือง ที่สร้างชีวิตที่สมบูรณ์แบบทั้งการทำงาน การพักผ่อนให้กับผู้อยู่อาศัย

อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี เพียง 450 เมตร และสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับย่านธุรกิจได้อย่างสะดวกสบาย ครบครันด้วยสถานที่สำคัญที่รองรับไลฟ์สไตล์ ทั้งศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน, สถานศึกษา, โรงพยาบาล รวมไปถึงสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย และที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่อย่างบางกอก มอลล์ ซึ่งหากมองในแง่การลงทุน ราคาคอนโดมิเนียมบริเวณสุขุมวิทตอนปลาย ณ ปัจจุบัน มีราคาเฉลี่ยประมาณ 160,000 – 180,000 บาทต่อตารางเมตร และมี Rental Yield เฉลี่ยอยู่ที่ 5 – 8 %

 

ด้าน นายเกษมศักดิ์ สุนทโรทก ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด ริสแลนด์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า โครงการสกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64 ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “Harmonic Living Arise สมดุลชีวิตใหม่ใจกลางเมือง” เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด ส่งผ่านความโดดเด่นของโครงการ ทั้ง 3 ส่วนหลัก ได้แก่

1) The Living Area เนื่องจากการพัฒนาโครงการฯ ถูกแยกพัฒนาออกมาเป็น 4 อาคาร และมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,961 ยูนิต จึงทำให้บริษัทฯ ได้ออกแบบพื้นที่พักอาศัย โดยแบ่งสัดส่วนของห้องพักต่อ 1 ชั้นให้มีเพียง 11 ยูนิตเท่านั้น และพื้นที่พิเศษ 3 ชั้นบนสุดที่จะมีเพียง 5 ยูนิต เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัยมากขึ้น และยังสามารถชมวิวความสวยงามของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งบางกระเจ้าได้จากระเบียงห้องของตัวเอง

 

2) The Recreation Area โครงการฯ ใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการจัดสรรพื้นที่ให้มีประโยชน์ต่อการใช้งานสำหรับผู้อยู่อาศัยได้จริง และเพิ่มความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ เช่น สวนสุขภาพ ที่ทุกคนสามารถออกกำลังกายหรือพักผ่อนตามอัธยาศัย เปรียบเป็นโอเอซิสใจกลางเมือง โดยจัดสัดส่วนพื้นที่สีเขียวมากถึงกว่า 40%  พร้อมตกแต่งด้วยพรรณไม้กว่า 100 ชนิด และพร้อมสรรพไปด้วยพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ indoor และ outdoor ที่กระจายอยู่ภายในตัวอาคาร ทั้ง 3 อาคาร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด
อาทิ Swimming Pool ขนาด 500 ตร.ม. เทียบเท่าสระโอลิมปิก, Co-working space, Podcast Station, Fitness, Co-Kitchen Space, Family area, Sauna room และโซนออกกำลังกายต่าง ๆ อาทิ Fitness และ Basketball (Half Court) เป็นต้น

 

3) The Car Safety Area พื้นที่จอดรถยังเป็นส่วนที่โครงการฯ ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ โดยส่วนของที่จอดรถจะถูกนำไปไว้ใต้ดินทั้งหมด จำนวน 2 ชั้น เพื่อให้ได้ทัศนียภาพที่สวยงามและที่จอดรถคิดเป็น 46% ไม่รวมซ้อนคัน

 

นอกจากความโดดเด่นทั้ง 3 ด้านดังกล่าว เพื่อให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ที่สามารถทำงานได้ที่โครงการที่พักอาศัย ทางโครงการยังได้จับมือกับ Casa Lapin ร้านกาแฟสไตล์อินดี้ที่เหล่า Hopper รู้จักกันดี หลากหลายความอร่อยตั้งแต่เมนูกาแฟ ขนมหวาน ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ  ที่ต่อไปนี้การมา Hopping จะไม่ใช่แค่ดื่มกาแฟ และถ่ายรูปในร้านอีกต่อไป แต่ยังได้มาภาพสวย ๆ ใน Sales Gallery ของโครงการคอนโดใจกลางสุขุมวิทกลับบ้านอีกด้วย พร้อมกันนั้นในอีก 4 ปีข้างหน้า ยังจะมีอาคารสำนักงาน และพื้นที่พาณิชย์ที่จะเกิดขึ้นในเฟส 2 ซึ่งคาดว่าจะสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยใน “สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64”

 

สำหรับพื้นที่ภายในห้องก็ถูกออกแบบให้มีจุดเด่นมาในหลายสไตล์การอยู่อาศัย ทั้งรูปแบบครัวเปิดและครัวปิด ห้องนั่งเล่นแบบเข้ามุม หรือจะเป็นแนวกระจกโค้งขนาดใหญ่ภายในห้องนอน อ่างอาบน้ำรับวิวพื้นที่ภายนอก รวมไปถึงการตกแต่งวัสดุภายในห้อง ทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ได้คำนึงถึงการใช้งานจริง เช่น ชั้นวางรองเท้าและตู้วางของบริเวณหน้าห้อง   ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้ ซึ่งทั้งหมดอยู่บนแนวคิดของการใช้งานได้จริงของผู้อยู่อาศัย

 

ทั้งนี้ โครงการ “สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64” ประกอบด้วยห้องชุดขนาดต่าง ๆ ได้แก่ ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 28 – 35 ตารางเมตร, ห้อง 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาดพื้นที่ 45 ตารางเมตร, ห้อง 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาดพื้นที่ 55 ตารางเมตร, ห้อง 3 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาดพื้นที่ประมาณ 73  ตารางเมตร, ห้อง 3 Bedrooms 3 Bathrooms ขนาดพื้นที่ประมาณ 87 – 100  ตารางเมตร และยังเพิ่มความพิเศษด้วยการออกแบบห้องชุดในรูปแบบ ห้อง Loft ขนาด 35 – 55 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.49 ล้านบาท

 

โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2 / 2567  พร้อมเตรียมเปิดขายพรีเซลล์ในวันที่ 1 – 2 สิงหาคม ศกนี้ ณ สำนักงานขาย โครงการ สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64 (ซอยสุขุทวิท 64/2) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 0 2026 6888 ต่อ 7 หรือ FackbookFanpage: Skyrise Avenue SKV64 และ Line ID: @Skyrise_Skv64

 

 

วันที่ 24 กรกฎาคม 2563



 

ความคิดเห็น