แสนสิริปลื้ม 98 Wireless 9 เดือน โกยยอดขายเกือบ 80% สร้างยอดขายทะลุ 6,750 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัวห้องแต่งสุดหรูรังสรรค์ขึ้นใหม่ ตอกย้ำความเป็นโครงการแฟล็กชิพ ด้วยความเป็นเลิศในทุกมิติ

แสนสิริ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการอสังหาริมทรัพย์ไทยและระดับสากล ผ่านโครงการ 98 Wireless แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากกลุ่มลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ ทำยอดขายได้แล้วเกือบ  80%  คิดเป็นมูลค่า  6,750 ล้านบาท  ตอกย้ำความโดดเด่นและศักยภาพการเติบโตตลาดระดับลักซ์ชัวรี่ไทย

 

 

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ถึงแม้จะเพิ่งเปิดตัวโครงการได้ไม่ถึงหนึ่งปี แต่สามารถทำยอดขายได้แล้วเกือบ 80% คิดเป็นมูลค่า 6,750 ล้านบาท ถือว่าเป็นยอดขายที่สูงเกินความคาดหมายสำหรับโครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่ส่วนใหญ่มักจะใช้เวลานานในการขาย โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แสนสิริได้นำโครงการ 98 Wireless ไปเปิดขายอย่างเป็นทางการที่ประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง ทำให้มีผู้สนใจขอนัดหมายเข้ามาดูโครงการเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก

 

จากผลตอบรับที่ดีนี้ แสนสิริมีแผนจะนำโครงการไปเปิดขายในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ ไต้หวันและจีน ด้วยความที่เล็งเห็นว่าอุปสงค์ของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ระดับบนยังมีอยู่มาก ผนวกกับความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อแบรนด์แสนสิริรวมถึงชื่นชอบรูปแบบงานดีไซน์ที่เน้นความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ทั้งยังเห็นถึงความเป็นมาสเตอร์พีซของโครงการที่มีเพียงหนึ่งเดียวและเห็นถึงศักยภาพการเติบโตตลาดระดับลักซ์ชัวรี่ไทย

 

ระดับราคาขายเฉลี่ยเมื่อตอนเปิดตัวโครงการที่ 580,000 บาท/ตารางเมตร ราคาสูงสุดอยู่ที่ 725,000 บาท/ตารางเมตร ณ ตอนนี้ราคาสูงสุดที่ปิดการขายได้คือกว่า 800,000 บาท/ตารางเมตร โดยเฉพาะการเป็นห้องตกแต่งพิเศษที่ได้รับการคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำและการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้มูลค่าของห้องสูงขึ้น

 

 

 

นอกจากนี้เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยด้าน Cost push จะเห็นได้ว่าโครงการ 98 Wireless เป็นโครงการเป็นที่มีศักยภาพในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการลงทุนที่โดดเด่นเหนือโครงการลักซ์ชัวรี่อื่นๆ ในไทย ณ ปัจจุบัน โดยโครงการต่างๆที่เริ่มพัฒนา ณ วันนี้ หากต้องการให้มาตรฐานและทำเลเทียบเท่าโครงการ 98 Wireless จะต้องตั้งราคาขายที่ประมาณ 850,000 บาท/ตารางเมตร เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งปัจจัยราคาที่ดินบนถนนวิทยุที่เพิ่มเมื่อปี 2553 ที่ 1.5 ล้านบาท/ตารางวา ซึ่งในวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายล่าสุด 3 ล้านบาท/ตารางวา ผนวกกับต้นทุนด้านค่าก่อสร้าง ค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน และวัสดุรวมถึงทรัพยากรต่างๆ ของโครงการ

 

โดยในโครงการ 98 Wireless มีพื้นที่ที่ใช้หินธรรมชาติทั้งหมดรวมกว่า 28,000 ตารางเมตร ไม่ว่าจะเป็นวัสดุปูผิวผนังหินไลม์สโตนจากโปรตุเกส  และที่พิเศษคือหินอ่อนสีขาว Statuario จากเมือง Carrara ในอิตาลี ที่ปัจจุบันหาได้ยากทำให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อพิจารณาองค์รวมจะเห็นได้ว่าโครงการของเรามีความโดดเด่นและในระยะยาวผู้ซื้อน่าจะได้รับผลกำไรจาก Capital Appreciation อย่างแน่นอน”

 

นายอุทัย กล่าวเสริมถึงทิศทางการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ไทยว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นมาในตลาดอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมในเซ้กเม้นต์อื่นๆ โดยส่วนมากโครงการระดับนี้ ผู้ซื้อมักจะมองที่ความคุ้มค่า ในแง่ศักยภาพการเติบโตด้านราคาของที่ดิน รวมถึงความคุ้มค่าของโครงการด้านอื่นๆ ประกอบกัน

 

 

โดยลักษณะเฉพาะของลูกค้ากลุ่มนี้คือไม่ได้มีความอ่อนไหวต่อราคา และยินดีที่จะจ่ายในราคาสูงกว่าหากได้คุณภาพและมาตรฐานระดับโลก โดยจากตัวอย่าง 98 Wireless จะเห็นได้ว่าห้องที่อยู่ชั้นสูงและมีวิวทิวทัศน์ที่เป็นที่นิยมได้ถูกจองอย่างรวดเร็ว แม้จะราคาสูงกว่าชั้นล่างหรือชั้นเดียวกันแต่คนละฝั่ง

 

รวมทั้งห้อง Penthouse  และห้องแต่ง Ralph Lauren Home ที่ขายได้ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้โครงการ 98 Wireless ยังตอบโจทย์อินไซต์ของลูกค้ากลุ่ม High Net Worth Individuals (HNWI) เนื่องด้วยปัจจัยสนับสนุนอย่างรอบด้าน ทั้งทำเลที่ดินที่เป็นทำเลทอง ราคาพุ่งสูงขึ้นทุกปี ทั้งภายในโครงการยังคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดมาเพื่อการใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับสำหรับลูกบ้านทุกคน”

 

นอกจากนี้แสนสิริยังมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้โครงการผ่านเครื่องหมายการันตีมาตรฐานระดับสากล ด้วยการผนวกแนวคิดที่ไม่ได้มุ่งเติมเต็มเพียงแค่ประสบการณ์พักอาศัย แต่มองไปถึงคุณค่าของโครงการในทุกองค์ประกอบเพื่อนำไปสู่ความเป็นเลิศในทุกมิติของการใช้ชีวิต อาทิ การเพิ่มเติมการบริการเหนือระดับเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวของผู้อยู่อาศัย เช่น บริการรถประจำโครงการอย่าง ‘เบนท์ลี่ย์’ หรือการบริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการไลฟ์สไตล์โดยทีม Quintessentially ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

 

 

ที่สำคัญคือมีการออกแบบที่พิจารณาถึงความยั่งยืน (Sustainability) ควบคู่ไปกับความลักซ์ชัวรี่ (luxury) ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เพราะความยั่งยืนนั้น นอกจากจะยกระดับคุณภาพชีวิตสำหรับผู้อยู่อาศัยแล้ว ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ไม่ได้มุ่งให้ความสำคัญเพียงมิติแห่งความหรูหราเหนือระดับ แต่ยังต้องการนวัตกรรมที่พักอาศัยที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

เพื่อเสริมสร้างให้อสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นสินทรัพย์ที่ทรงคุณค่าในระยะยาว ทำให้ในวันนี้โครงการ 98 Wireless เป็นโครงการที่พักอาศัยโครงการแรกของไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environment Design) มาตรฐานสากลในการออกแบบอาคารเพื่อการประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ภายใต้หลักเกณฑ์ของสมาคมอาคารสีเขียวสหรัฐอเมริกา (US Green Building Council หรือ USGBC)

 

โครงการ 98 Wireless ยังเป็นโครงการเดียวในไทยที่ได้รับคัดเลือกเข้าชิงและได้รับรางวัล ‘Best Luxury Residence – Global’ จากเวที The International Design & Architecture Awards 2017 ประเทศอังกฤษ จัดขึ้นโดยนิตยสาร Design et al นิตยสารออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำ ถือว่าเป็นรางวัลที่ดีการันตีการออกแบบที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับสากล

 

 

“ปัจจุบัน 98 Wireless ได้เริ่มต้อนรับที่ลูกบ้านที่ทยอยเข้ามาพักอาศัยแล้วบางส่วน ด้วยความที่โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่พรั่งพร้อมด้วยมาตรฐานระดับเวิลด์คลาส ลูกบ้านที่โอนกรรมสิทธิ์แล้วจึงให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนห้องออกกำลังกาย ซึ่งมีอุปกรณ์รุ่นที่ดีที่สุดระดับเดียวกับที่ใช้ฝึกนักกีฬาโอลิมปิค และยังมีห้องประชุมที่ตกแต่งอย่างเหนือระดับเหมาะสำหรับการต้อนรับและเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าคนสำคัญ  หรือห้อง Wittayu Tea Room ซึ่งสามารถรองรับการจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟได้หลากหลายรูปแบบ

 

ความสะดวกสบายที่สามารถจองห้องเหล่านี้ได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Home Service ที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ 98 Wireless และลูกบ้านยังสามารถใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการไลฟ์สไตล์โดยทีม Quintessentially ที่มีชื่อเสียงระดับโลก นับเป็นการสร้างสุดยอดประสบการณ์ที่สัมผัสได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกค้าโอนกรรมสิทธิ์” นายอุทัยกล่าวเสริม

 

ในโอกาสนี้ แสนสิริ ได้เผยโฉมห้องตกแต่งพิเศษใหม่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของแวดวงอสังหาริมทรัพย์ระดับซูปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ของไทย ที่มีการสร้างสรรค์ยูนิตพิเศษซึ่งตกแต่งอย่างสมบูรณ์แบบในสไตล์ที่หลากหลายเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นและสัมผัสถึงบรรยากาศแห่งการพักอาศัยจริงก่อนตัดสินใจซื้อ  โดยปัจจุบันมีห้องตกแต่งพิเศษใหม่ทั้งหมด 3 สไตล์ ได้แก่

 

1) “French Sense” ผสมผสานกลิ่นอายความคลาสสิกแบบวินเทจ กับความหรูหราในรายละเอียดของการตกแต่งด้วยโทนสีขาวและสีงาช้างที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโรแมนติก พร้อมเฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Ralph Lauren Home และ Baker ที่มาเติมเต็มพื้นที่ได้อย่างลงตัว

 

 

 

 

 

2) “Le Grand Hotel” ห้องดูเพล็กซ์ที่ผสานรายละเอียดของการเลือกใช้สีสันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์การตกแต่งบ้านริมทะเล ทั้งน้ำเงินเข้ม ครีม และขาว เข้ากับสัมผัสแห่งความหรูหราของสีทอง ที่เผยสัมผัสของความโก้แบบริมทะเล French Riviera

 

 

 

 

 

 

 

3) “The Cozy Deco” ให้ความรู้สึกอบอุ่น เข้มขรึม หรูหรา กับสไตล์การตกแต่งที่มาในสไตล์แมสคิวลีนผสมเฟมินีน วินเทจคลาสสิกผสมโมเดิร์น ผนวกกับรายละเอียดของการเลือกใช้ไม้และวัสดุตกแต่งอื่น ๆ ที่ถ่ายทอดความหรูหราในแบบ “Cozy Deco” ที่ดูโมเดิร์นคลาสสิค สะท้อนตัวตนที่เรียบหรูมีระดับ ออกมาได้เปี่ยมเสน่ห์อย่างคาดไม่ถึง

 

 

 

 

 

จากการนำเสนอความเป็นหนึ่งในทุกมิติของโครงการ ในวันนี้โครงการ 98 Wireless ได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการอสังหาริมทรัพย์ ไม่เพียงแต่ในไทย แต่ยังเป็นที่กล่าวขานและยอมรับในระดับสากลอีกด้วย แสนสิริมั่นใจว่าโครงการ 98 Wireless จะเป็นที่พักอาศัยระดับมาสเตอร์พีซที่คุ้มค่าที่สุดต่อการลงทุนได้อย่างแน่นอน

 

 

 

ความคิดเห็น