คิง เพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์ (King Power Srivaree Complex) เปิดแล้ว เมื่อตุลา56 ที่ผ่านมา

1

อาณาจักรดิวตี้ ฟรี แห่งใหม่ ติดถนนบางนา-ตราด กม.18

คิง เพาเวอร์ ผู้นำธุรกิจด้าน ดิวตี้ ฟรี หรือ ธุรกิจร้านค้าปลอดอากร ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยต่อยอดความสำเร็จกับการขยายอาณาจักรใหม่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์ (King Power Srivaree Complex) ซึ่งเป็นร้านค้าปลอดอากรในเมืองสาขาที่ 3 ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวบรวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากกว่า 100 แบรนด์ บนเนื้อที่กว่า 59 ไร่ หรือ 39,000 ตารางเมตร อยู่บนถนน บางนา-ตราด กม.18 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เพียง 15 กิโลเมตร เพื่อรองรับกลุ่มนักช้อปปิ้งทั้งชาวไทยและต่างชาติ พร้อมเปิดให้บริการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา

คิง เพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์ โดนเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ได้แรงบันดาลใจมาจากลายไทยที่พบในงานจักสาน ร้อยเรียงเส้นลายเหมือนงานหัตถกรรมไทย ผสมผสานให้สอดคล้องกับดีไซน์ของตัวอาคาร เปรียบเสมือนตัวแทนความเป็นผู้นำด้านสินค้าและการบริการของดิวตี้ ฟรี ไทย ที่โลดแล่นและสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและต่างชาติมานานถึง 25 ปี

2

สาขา ศรีวารี คอมเพล็กซ์ แห่งนี้ ได้ออกแบบให้เป็นช้อปปิ้ง ดิวตี้ ฟรี มอลล์ ขนาดใหญ่แบบชั้นเดียว พื้นที่ 25,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ ฟรี 12,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการบริการลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้งสินค้าที่แตกต่าง โดยแต่ละพื้นที่ จะดึงเอกลักษณ์ เฉพาะของสินค้า เช่น โซนบูติกแฟชั่น (Boutique Zone) เน้นความหรูหราทันสมัยของแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Bally, Burberry, Bvlgari, Coach, Dunhill, Ferragamo, Grosse, Hugo Boss, Lacoste, MCM, Ralph Lauren รวมถึงเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ที่พบได้ที่นี่แห่งเดียว อย่าง Blancpain, Michael Kors, Tory Burch, Vacheron Constantin, ส่วนโซนนาฬิกา (Watch Zone) จุดเด่นตรงกลางของโซนมีลักษณะหน้าปัดของนาฬิกา เน้นความหรูหราของแบรนด์ดัง อาทิ Blancpain, Cartier, Chopard, IWC, JLC, Omega, Piaget, Rolex, VC เป็นต้น รวมถึงแบรนด์จิวเวอรี่ดังจากอเมริกา Tiffany & Co. ที่มีเฉพาะคิง เพาเวอร์ ที่เดียวในประเทศไทย

3

ส่วน โซนยอดฮิตอย่าง เครื่องสำอางและน้ำหอม (Perfume & Cosmetic) สร้างมนต์เสน่ห์ด้วยสีชมพู แทนความหวานของดอกไม้ ผสมผสานหลายแบรนด์สินค้าให้เลือกช้อป เช่น Bobbi Brown, Clarins, Chanel, Clinique, Dior, Estee Lauder, Giorgio Armani, Kiehl’s, Lancome, L’occitane, L’oreal, MAC, Yves Saint Laurent เป็นต้น

อีกหนึ่งโซน ที่ลูกค้าชาวต่างชาติหลงใหลในสินค้าระดับพรีเมี่ยมของไทยประเภท House Brand ที่รังสรรค์สินค้าของไทยผสมผสานดีไซน์แบบสากล มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ อาทิ วีอาร์ นับเบอร์เอท(VR. No 8), ไทไท (TaiTai), อักษรา (Aksra), ฮาร์ดเมท (Heartmade), สินค้าของที่ระลึกจากสโมสร เลสเตอร์ซิตี้ (LCFC) และแบรนด์เอ็กซ์คลูชีฟแนวแฟชั่น VS (Voyage of Style) ใหม่ล่าสุด ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นภายใต้คอนเซป”แรงบันดาลใจในการเดินทาง Inspired Traveling” ล่าสุดเปิดตัวคอลเลคชั่นแรก “LOVE VOYAGE” ผ่านชิ้นงานสัญลักษณ์รูปหัวใจของดีไซน์เนอร์ไทย

4

นอก จากนี้ ยังมีสินค้าอีกหลากหลายโซน อาทิ อิเล็กทรอนิคส์, สปอร์ต, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์-บุหรี่, สปา-อโรมา รวมถึงสินค้าไทยพรีเมี่ยม ประเภทของฝากของที่ระลึก ซึ่งชาวต่างชาติชื่นชอบมากมาย โดยโซนนี้ จะรวมสินค้าปลอดภาษี หรือที่เรียกว่า Tax Free ซึ่งสินค้าประเภทนี้จะเป็นป้ายสีฟ้า นักช้อปสามารถเข้าไปซื้อแล้ว นำกลับบ้านได้เลย โดยไม่ต้องมีไฟล์ทเดินทาง

พร้อมสรรพกับสิ่ง อำนวยความสะดวกที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์ ไว้บริการนักช้อปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคารรามายณะ (Ramayana Restaurant) ซึ่งเป็นร้านอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์นานาชาติ บนเนื้อที่กว่า 4,500 ตารางเมตร สามารถรองรับลูกค้าได้มากถึง 1,500 ที่นั่ง ภายในตกแต่งด้วยภาพเขียนจิตรกรรมไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์เด่นของภัตตาคารนี้ รวมถึงลานจอดรถโค้ชที่รองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 150 คัน ตลอดจนบริการตู้ ATM จุดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และสวนธรรมชาติขนาดใหญ่ สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ

5

พบ ประสบการณ์ช้อป ปิ้งอันแสนรื่นรมย์ แบบราคาปลอดภาษี (Duty Free Price) ในเมือง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กับโครงการ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์ ใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เพียง 15 กิโลเมตร พร้อมเปิดให้บริการนักช้อปปิ้งแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ King Power Call Centre 02-677-8899

ที่มา คิง เพาเวอร์

ความคิดเห็น