คนโสดนิยมอยู่คอนโดฯ

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯเผยผลสำรวจคนซื้อคอนโดฯ พบกว่า 54% เป็นคนโสด อยู่ในช่วงอายุ 25-35ปี รายได้เฉลี่ย 20,000-40,000 บาท/เดือน พบส่วนใหญ่ซื้อคอนโดฯใกล้ที่อยู่อาศัยเดิม

รศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงผลการศึกษาพฤติกรรมผู้ซื้อและผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในงานสัมมนาเรื่อง “วิเคราะห์พฤติกรรม : ใครซื้อคอนโดฯแนวรถไฟฟ้า” ซึ่งจัดโดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยเปิดเผยว่า ได้ทำการสำรวจคอนโดมิเนียมที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า รัศมีไม่เกิน 2 กิโลเมตรจากแนวรถไฟฟ้าในราคาไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ในช่วงปลายปี 2551 จากผู้ตอบแบบสอบถาม 420 ราย

ทั้งนี้การสำรวจแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ

1.กลุ่มที่ซื้อคอนโดฯ*แล้วในช่วงไม่เกิน 1 ปีที่ผ่านมา ผลสำรวจพบว่า ผู้ซื้อ 54.15% เป็นเพศหญิง 53% กลุ่มผู้ซื้ออยู่ในช่วงอายุ 25-35 ปี เป็นคนโสด 54% รองลงมาสมรสและมีบุตร ประกอบธุรกิจส่วนตัว 48% ทำงานบริษัทเอกชน 41% รายได้ส่วนตัวเฉลี่ย 20,000-40,000 บาท/เดือน มีมากถึง 61% ส่วนใหญ่ 55% ซื้อคอนโดฯ ในระดับราคา 1.6-2 ล้านบาท ขนาดห้องชุดที่ต้องการมากที่สุด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีถึง 31% โดยแผ่นพับประชาสัมพันธ์เป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของกลุ่มนี้ 23% ผู้ซื้อคอนโดฯแล้วส่วนใหญ่มีเงินฝาก โดยเฉลี่ย 5- 6.5 แสนบาท

2.กลุ่มที่สนใจจะซื้อคอนโดฯภายใน 1 ปี พบว่า อยู่ในช่วงอายุ 25-34 ปี 56% เป็นคนโสด 59% ทำงานบริษัทเอกชน 55% รองลงมา 32.56% ประกอบธุรกิจส่วนตัว รายได้ส่วนตัวเฉลี่ย 20,000-40,000 บาท 71% ปัจจุบันอาศัยอยู่ในห้องเช่าประเภทแฟลตหรืออพาร์ตเมนต์ 42% และมีสถานะเป็นผู้เช่า 41% ผู้ตอบแบบสอบถาม 42% สนใจซื้อห้องชุดในระดับราคา 1.6-2 ล้านบาท ต้องการห้องขนาด 30.5-40 ตร.ม. 64% โดยโทรทัศน์เป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจจะซื้อของคนกลุ่มนี้ 20%

กลุ่มที่สนใจจะซื้อคอนโดฯ มีค่าใช้จ่ายส่วนตัวเป็นภาระหนี้สูงสุดประมาณ 40% มีภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวอยู่ที่ 1-2 หมื่นบาท ขณะที่ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่มีเงินฝาก โดยเฉลี่ย 5 หมื่นบาท -2 แสนบาท

ด้านนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ฯ กล่าวว่า ผู้ซื้อส่วนใหญ่จะซื้อคอนโดฯใกล้ที่อยู่อาศัยเดิม หรือใกล้บ้านของพ่อแม่หรือครอบครัว เดินทางระหว่างบ้าน-คอนโดฯสะดวกเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว แต่ที่แยกออกมาซื้อคอนโดฯเพื่อความเป็นส่วนตัว และพบว่ากลุ่มผู้ซื้อมีแนวโน้มอายุน้อยลงเหลือประมาณ 20-30 ปี จากเดิม 25 ปีขึ้น* ส่วนปัจจัยในการตัดสินใจซื้อ ในอดีตจะเน้นเรื่องทำเลและราคาเป็นอันดับต้นๆ แต่ในช่วงหลังๆเป็นเรื่องการตระหนักถึงสิทธิผู้บริโภคมากขึ้น จึงให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของผู้ประกอบการ การซื้อมีทั้งลงทุนและอยู่อาศัยเอง โดยเฉพาะในช่วงนี้ดอกเบี้ยธนาคารน้อยมาก ซื้อโครงการราคาไม่สูงมาก มาปล่อยเช่าได้ผลตอบแทน 7-8% ส่วนขนาดของห้องแม้ว่าจะมีความต้องการห้องขนาดใหญ่ แต่ด้วยข้อจำกัดของรายได้จะเป็นตัวชี้วัดว่าสามารถซื้อได้ขนาดเท่าใด และที่มีความต้องการมากที่สุด คือขนาด 1 ห้องนอน

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า คอนโดฯในปีนี้หากว่าถ้าทำเลไม่ดีจริงขายยาก ปีนี้เป็นของคอนโดฯที่ใช้เลยตอบโจทย์คนซื้อได้ การเปิดโครงการต้องทำใจถ้าขายได้ 30% ขึ้น*ถือว่าโชคดีเหมือนกับช่วงเศรษฐกิจดีๆ ที่จะขายได้ 70% และพยายามขายให้ถึงจุดคุ้มทุนหากเหลือขายมากๆ ถือว่ามีความเสี่ยงสูง สำหรับดัชนีชี้วัดตลาดคอนโดฯ อาทิ จีดีพีปีนี้คาดการณ์ว่าจีดีพีจะติดลบประมาณ 2.5-3 ซึ่งตลาดคอนโดฯก็เช่นเดียวกันคาดว่าจะติดลบหากประเมินในแง่ร้ายจะติดลบถึง 10% แต่หากมองในแง่ดีอาจแค่ทรงตัว ส่วนตลาดเงินตลาดทุนก็เช่นกันเพราะเมื่อใดที่การระดมเงินทุนของผู้ประกอบการทำได้ยากเมื่อนั้นผู้ประกอบการจะพัฒนาคอนโดฯออกสู่ตลาดน้อยตาม*ด้วย

นอกจากนี้ตลาดคอนโดฯมือสองยังเป็นตัวช่วยผลักดันให้ตลาดคอนโดฯมือหนึ่งเติบโตได้ เพราะคอนโดฯมีการซื้อขายเปลี่ยนมือมากกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยเฉลี่ยคอนโดฯ 1 ห้องจะถูกซื้อขาย เปลี่ยนมืออย่างน้อย 1 ครั้งภายใน 5 ปี ซึ่งเมื่อมีการขายคอนโดฯออก*ก็จะมีซื้อคอนโดฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก :หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ : 9-11 เมษายน 2552

ความคิดเห็น