การเปิดตัวครั้งใหญ่ของ ชาญอิสสระ "The Issara Sathorn" ลักชัวรี่คอนโด ใจกลางเมืองย่านสาทร พร้อมชูจุดเด่นการผสมผสานความเป็นเมืองกับธรรมชาติไว้ด้วยกัน

ชาญอิสสระ เปิดตัวลักชัวรี่คอนโด “ดิ อิสสระ สาทร” (The Issara Sathorn) มูลค่าโครงการกว่า 2,400 ล้านบาท ใจกลางเมืองย่านสาทร ภายใต้แนวคิด “ใช้ชีวิตอิสสระ…ให้สุดในทุกด้าน” ชูจุดเด่นการอยู่อาศัยที่ให้ความรู้สึกของคำว่าบ้าน ที่ผสมผสานความเป็นเมือง และความเป็นธรรมชาติอย่างกลมกลืน กับวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาและบางกะเจ้า

นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบันนี้ว่า คอนโดมิเนียมที่มีทำเลอยู่ในย่านกลางเมืองและชานเมืองยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ยังมีความต้องการหาสินค้าที่มีคุณภาพมาตอบโจทย์การอยู่อาศัย ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองที่มองหาคอนโดมิเนียมในย่านกลางเมือง พร้อมต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย

 

ล่าสุดชาญอิสสระ ได้เปิดตัว “ดิ อิสสระ สาทร” (The Issara Sathorn) บนทำเลย่านถนนจันทน์-สาทร ซึ่งใกล้สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่สำคัญๆ รวมถึงสถานที่ที่รวมแหล่งของอร่อยมากมาย และยังอยู่ใกล้ใจกลางเมืองย่านธุรกิจอย่างสีลม สาทร ที่มีการเดินทางสะดวกสบาย รวมถึงความสะดวกสบายด้านการเดินทางไปทำงานในย่านสีลม-สาทร อีกด้วย

 

“กลุ่มลูกค้าของชาญอิสสระ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่จริง  โครงการ ดิ อิสสระ สาทร  จึงมองหาทำเลที่มีศักยภาพ มีสภาพสิ่งแวดล้อมโดยรวมที่ดี การคมนาคมที่สะดวก อีกทั้งโลเคชั่นต้องเหมาะสำหรับการได้พักผ่อนจริงๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่ใช้พัฒนาโครงการต่างๆ ให้ตรงตามกลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มนักลงทุน ได้มีคุณภาพชีวิต และความสะดวกสบายที่ครบครัน” นายสงกรานต์ กล่าว

 

ด้านนายเมธินทร์ จันทรอุไร กรรมการบริหาร บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) ผู้ออกแบบโครงการ ดิ อิสสระ สาทร ได้กล่าวถึงแนวคิดในการออกแบบว่า เป็นการผสมผสานอัตลักษณ์ของความเป็นเมืองและธรรมชาติไว้ด้วยกัน การออกแบบจึงมีการกระจายพื้นที่ส่วนกลางสีเขียวไว้ตามส่วนต่างๆ ของอาคารตั้งแต่ทางเข้าของโครงการจนไปถึงชั้นสูงสุดของอาคาร

 

ขณะที่บริเวณหน้าโครงการจะเน้นพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้ดั้งเดิมอยู่ ที่จะคอยให้ร่มเงาต่อผู้พักอาศัย อีกทั้งยังช่วยสร้างบริบทให้เสมือนว่าตัวอาคารได้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์

 

รวมถึงชั้น 30 ซึ่งเป็นชั้น Facilities หลักของโครงการ ประกอบด้วยสระว่ายน้ำที่ยาวกว่า 22 เมตร ที่เป็นตัวเชื่อมวิวระหว่างฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าหาเมืองกรุงเทพมหานคร และยังมีส่วนของชั้นพื้นที่สีเขียวบริเวณอื่นที่มาพร้อมด้วยกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ บริเวณชั้นปลูกผักสวนครัว (The Herb), และ Active Sky บริเวณชั้นดาดฟ้า ที่เป็นส่วนเพิ่มเติมจากการมี Facilities ชั้นพื้นฐาน อาทิ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ เป็นต้น

 

“จากการสำรวจที่ตั้งโครงการ ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองและธรรมชาติ ทำให้เห็นคาแรคเตอร์ความเป็นเมืองและความเป็นโมโนโทน มีความเป็น grid system ดังนั้นแนวคิดการออกแบบโครงการจึงเบรนออกมาให้เป็น 4 โทน มีการไล่สีของตึกจากโทนสีไม้ ไล่ไปจนถึงสีขาว  ขณะเดียวกันการออกแบบแต่ละชั้นก็มีคอนเซ็ปต์ความแตกต่างกันออกไป มีการใช้ฟิน (Fin) มาผสมผสานในการออกแบบ เพื่อช่วยในการบังแสงแดด ลดความร้อน อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานด้วย” นายเมธินทร์ กล่าว

 

ขณะที่ในส่วนของแนวคิดการออกแบบห้องพักอาศัย ได้มีการออกแบบให้มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยจริง โดยห้องมีความโล่งกว้างสามารถใช้อยู่อาศัยได้จริง มีการแบ่งพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนและลงตัว ซึ่งทุกห้องจะมีหน้าต่างที่ได้รับแสงธรรมชาติจากภายนอก ได้รับวิวทัศนียภาพที่สวยงามของสถานที่โดยรอบได้ ระหว่างวิวตึกระฟ้าของกรุงเทพมหานครและวิวธรรมชาติของคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาและบางกะเจ้า

 

ขณะที่ นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวถึงภาพรวมการแข่งขันตลาดคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ขึ้นไป ใจกลางเมือง ดีมานด์ ซัพพลาย ในช่วงครึ่งปีนี้พบว่า ผู้พัฒนาโครงการมีความระมัดระวังในการพัฒนาโครงการในกลุ่มนี้มากขึ้น ส่งผลทำให้สินค้าที่ออกมาในตลาดนี้มีคุณภาพดีและอยู่ในทำเลที่น่าสนใจ โดยมีอุปทานทั้งหมด 93,122 ยูนิต เป็นอุปทานใหม่ในครึ่งปีนี้จำนวน 3,262 ยูนิต ลดลงเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นผลดีเพราะทำให้ห้องชุดที่เปิดใหม่สามารถขายได้เร็วขึ้น สำหรับความต้องการคอนโดมิเนียมในกลุ่มนี้ในปีนี้ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่กลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงเป็นหลัก

 

ความน่าสนใจ สำหรับทำเลย่าน สาทร-ถนนจันทน์ นั้นมาจากการผสมผสานความเป็นชุมชนเก่าเข้ากับความสะดวกสบายจากการใกล้แหล่งธุรกิจใจกลางเมือง ในอนาคตใกล้โครงการยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาผ่านอีกด้วย

 

นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ กล่าวว่า สำหรับโครงการ ดิ อิสสระ สาทร เป็นโครงการคอนโดมิเนีย High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต เริ่มก่อสร้างในปีหน้า และคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จประมาณปี 2565 ราคาเริ่มต้น 4.88 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 1-2-60 ไร่ บริเวณถนนจันทน์-สาทร

 

ขนาดพื้นที่ห้องเริ่มต้น 32.75-188 ตร.ม. มีห้องให้เลือกถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ ห้องแบบ 1 ห้องนอน, ห้องแบบ 2 ห้องนอน, ห้องแบบ 3 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ 3-4 ห้องนอน โดยแต่ละรูปแบบได้มีการออกแบบฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยที่สร้างความแตกต่างให้ตรงกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “ใช้ชีวิตอิสสระ…ให้สุดในทุกด้าน” เน้นมุมมองวิวของคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา-บางกะเจ้า ที่มีความสงบ และวิวของสังคมเมืองที่มีสีสันสดใส มีชีวิตชีวา

 

 

นอกจากนี้โครงการยังให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเน้นความเป็นเมืองและส่วนพื้นที่สีเขียวนอกเมืองอย่างบางกะเจ้ามาใช้ในการออกแบบตัวอาคาร เชื่อมต่อมายังพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ ที่จะช่วยให้ผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยสะท้อนออกมาจากพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ทั้ง 5 ชั้น

 

ในส่วนของการเปิดล Pre – Sale โครงการ ดิ อิสสระ สาทร ได้เตรียมจัดงาน VIP Day ขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 พ.ย.62 ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. ณ ร้าน Greyhound café ถนนนางลิ้นจี่ พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษอีกมากมาย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 308 2222, Line : @theissarasathorn และ เว็บไซต์ http://charnissara.com/theissarasathorn

 

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562



 

 

ความคิดเห็น