พาชมโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” ใช้ชีวิตให้เต็มที่แบบ Spanning All Dimensions of Living บนทำเลแห่งอนาคต ใกล้ BTS บางนา

พาชมโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” คอนโดมิเนียมดีไซน์ล้ำสมัย ที่ช่วยเติมเต็มและสร้างสมดุลการใช้ชีวิตให้มีคุณค่าและสมบูรณ์แบบ ด้วยแนวความคิด Spanning All Dimensions of Living  บนทำเลแห่งอนาคตย่านบางนา แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบรับไลฟ์สไตล์คน Gen C

ประเภทของโครงการ : คอนโดมิเนียม สูง 32 ชั้น จำนวน 1 อาคาร (2ตึก)

เนื้อที่โครงการ : 7-3-24.5 ไร่

จำนวนห้องพัก : 1,165 ห้อง (อาคาร A: 520 ห้อง และอาคาร B: 642 ห้อง)

จำนวนร้านค้า : 3 ห้อง

จำนวนลิฟต์โดยสาร : 8 ตัว (อาคาร A: 4 ตัว และอาคาร B: 1 ตัว)

ประเภทห้องพักอาศัย :

–  Studio ขนาด 26 ตร.ม.

–  1-Bedroom ขนาด 36 ตร.ม.

–  2-Bedroom 1-Bath ขนาด 54 ตร.ม.

–  2-Bedroom 2-Bath ขนาด 56 ตร.ม.

–  Duplex ขนาด 50 ตร.ม.

สิ่งอำนวยความสะดวก :

–  สระว่ายน้ำ

–  ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์

–  ห้องสันทนาการ (Social club)

–  พื้นที่พักผ่อนบนดาดฟ้า

–  พื้นที่สวนส่วนกลาง

–  ห้องสันทนาการ (Panoramic lounge)

–  Co-working space

ที่จอดรถ : 47% ไม่รวมซ้อนคัน Hydraulic Parking และที่จอดรถ Visitor 10 คัน  รวม 547 คัน

ค่าส่วนกลาง : 55 บาท/ตารางเมตร/เดือน

ค่ากองทุน : 550 บาท/ตารางเมตร (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธ์)

คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปลายปี 2563

เว็บไซต์ : https://www.ananda.co.th

แผนที่โครงการ :

ส่องทำเลโครงการ

โครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” คอนโดมิเนียมล่าสุดจาก Developer ที่รู้จักเป็นอย่างดี อย่างบริษัท Ananda Development  ตั้งอยู่ในย่านบางนา ติดกับโครงการของ Developer เจ้าเดียวกันอย่าง IDEO Sukhumvit Eastgate ที่มีผลตอบรับจากดีเยี่ยมจากดีมานด์ของผู้อาศัยจริงและนักลงทุนปล่อยเช่าให้ผู้ที่ทำงานหรือใช้ชีวิตบนแนวถนนสุขุมวิท

โดยโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนาเพียง 250 เมตร ทำให้สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่แหล่งธุรกิจย่านอโศก สยาม หรือต่อไปยังรถไฟฟ้าสายอื่นๆได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งในอนาคต บริเวณนี้ยังใกล้กับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง อีกด้วย ไม่เพียงแต่ความสะดวกสบายจากการเดินทางโดยรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ที่ตั้งของโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” ยังสามารถเชื่อมต่อเข้า-ออกเมือง ด้วยทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก ได้ไม่ยาก

สถานีรถไฟฟ้า BTS บางนา

ทางพิเศษบูรพาวิถี ทางเชื่อมต่อออกไปยังนอกเมืองได้สะดวก

แผนการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง การเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ย่านลาดพร้าวและสำโรง อีกหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้ย่านบางนามีการเจริญเติบโตมากขึ้นในอนาคต

โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2  ที่จะช่วยให้รองรับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น 33% จาก 45 ล้านคน เป็น 60 ล้านคน จำนวนเที่ยวบิน เพิ่มขึ้นเป็น 98 เที่ยวบิน/ชม.  จากเดิม 68 เที่ยวบิน/ชม.  จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้น 28% จาก 2,500 ตำแหน่ง เป็น 3,200 ตำแหน่ง

นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้วนั้น บริเวณย่านบางนายังถือเป็นย่านชุมชนที่แวดล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสถานศึกษาชั้นนำ โดยจะมีโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งศูนย์นิทรรศการและการประชุม กรุงเทพมหานคร ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก

โรงเรียนนานาชาติ บางกอกพัฒนา โรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรู

โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่

ห่าง 1.4 กม. จากศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทคบางนา สถานที่จัดงาน Fair ยอดนิยม

ไม่เพียงแต่จะมีโรงเรียน โรงพยาบาล และ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมแล้ว บริเวณใกล้กันนี้ยังมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ไว้รองรับอีกด้วย

ห่าง 6.8 กม. จากเซ็นทรัลพลาซ่า บางนา

ห่าง 9.8 กม. จากเมกะบางนา

และในอนาคตจะมีโครงการ Bangkok mall ศูนย์การค้าระดับแฟล็กชิพโปรเจคบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่เกิดขึ้น ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนบางนา-ตราด และสุขุมวิท โดยเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนาและสถานีอุดมสุข

การเกิดขึ้นของเมกะโปรเจคอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้เห็นว่าบริเวณย่านบางนานี้ถือเป็นทำเลที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง อีกทั้งยังมีศักยภาพที่สามารถเจริญเติบโตได้อีก

ไม่ใช่แค่เป็นย่านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเท่านั้น แต่ย่านบางนายังเป็นไม่กี่ย่านในกรุงเทพฯ ที่ยังมีธรรมชาติเหลืออยู่มาก โดยจะสามารถพบสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในบริเวณนี้

สวนหลวง ร.9

สวนสาธารณะบึงหนองบอน

บางกระเจ้า โอเอซิสของกรุงเทพฯ

อีกทั้งปลายปีนี้ รถไฟฟ้าจะมีการขยายส่วนต่อขยายออกไปยังสถานที่พักตากอากาศยอดนิยมอย่างบางปูอีกด้วย

และเนื่องจากบริเวณนี้ ถือเป็นพื้นที่ใกล้กับปากแม่น้ำ ทำให้เกิดท่าเรือสินค้ามากมาย ถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ ภาครัฐจึงมีการกำหนดนโยบายพิเศษเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เป็นการส่งเสริมการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจในบริเวณนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ย่านบางนามีการขยายการเจริญเติบโตมากขึ้นไปอีก

ในวันนี้ทีมงาน Kobkid.com ได้เดินทางมาเยี่ยมชมโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint”

โดยนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีบางนา ทางออกที่ 3 จะอยู่ใกล้โครงการมากที่สุด

เมื่อเดินลงมาก็จะเจอกับที่ตั้งของ กรมอุตุนิยมวิทยา เดินตรงมาตามทางรถยนต์เรื่อยๆ ระหว่างทางจะพบกับปั้มน้ำมันบางจาก

เลยปั้มมาไม่นานก็จะเห็นโครงการ IDEO Sukhumvit East gate

ด้านล่างของโครงการ IDEO Sukhumvit Eastgate ก็จะมีร้านสะดวกซื้อตั้งอยู่ด้วย คนภายนอกสามารถมาใช้บริการได้

เดินต่อมาจะเห็นป้ายสีเขียว-ขาวขนาดใหญ่ พร้อมกับอาคารสีขาวสไตล์โมเดิร์น บ่งบอกว่าถึงที่ตั้งของโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” เรียบร้อยแล้ว

จากตรงนี้ เมื่อมองไปรอบๆจะเห็นว่า บริเวณนี้แทบจะไม่มีอาคารสูงเลย มีเพียงอาคารของโครงการ IDEO Sukhumvit East gate ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของโครงการนี้

เดินเข้ามาจะเห็นอาคารที่ใช้สีเรียบง่ายกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่มีการเล่นเส้นสายให้ดูมีความทันสมัย แสดงออกถึง Concept ของโครงการได้เป็นอย่างดี

ภายใน Sales Gallery  “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” มองออกไปยังถนนหน้าโครงการ

ภายใน Sales gallery ก็ได้มีการจัดวางอย่างเรียบง่ายทันสมัยเป็นการดึงเอาสไตล์การออกแบบจากด้านนอกเข้ามาสู่ด้านใน

โดยเมื่อเข้ามาก็จะพบกับหุ่นจำลองของโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” ตั้งอยู่บริเวณกลางพื้นที่

สำหรับทีมออกแบบ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” ได้นักออกแบบชั้นนำระดับประเทศมาร่วมกันดีไซน์โครงการนี้ อย่าง ตัวอาคารได้ ATOM design  มาออกแบบ แลนด์สเคป ได้ Redland Scape ส่วนอินทีเรียได้ That’s ITH มาช่วยออกแบบ

โครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 7 ไร่  มีจุดเด่น หน้ากว้าติดถนนสุขุมวิทถึง 90 เมตร ประกอบด้วยอาคารสูง 32 ชั้น 1 อาคาร (2ตึก) ถือว่าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมติดถนนสุขุมวิท ที่มีพื้นที่ใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งในย่านนี้ก็ว่าได้

ไม่เพียงแต่จำนวนห้องพักที่มากกว่า แต่แนวความคิด Spanning All Dimensions of Living ของโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” ยังได้สอดแทรกอยู่ในการออกแบบทุกส่วนของโครงการ อย่างการออกแบบเพื่อขยายความกว้างให้กับห้องพักอาศัย รวมไปถึงการขยายพื้นที่สีเขียวให้ไหลยาวต่อเนื่องจากบริเวณทางเข้าขึ้นไปถึง 5 ชั้น อีกทั้งในการออกแบบอาคารยังได้เลือกใช้แนวความคิด การอยู่อาศัยแห่งอนาคต IDEO MOBI FUTURE – NATURE แนวความคิดที่เป็นการผสมผสานองค์ประกอบของธรรมชาติและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ซึ่งถือเป็นการยืดขยายความเป็นธรรมชาติเข้ามาสู่พื้นที่ของชุมชนเมืองได้อย่างลงตัว

บรรยากาศภายในโครงการ

จากความต้องการที่จะให้โครงการนี้เป็นการอยู่อาศัยแห่งอนาคต IDEO MOBI FUTURE – NATURE จึงได้มีการออกแบบอาคารให้มีลักษณะเส้นสายคล้ายคลึงกับรูปร่างของภูเขา แล้วผสมผสานความเป็นโมเดิร์นทันสมัย ด้วยการเลือกใช้โทนสีและวัสดุ รวมไปถึงการตัดทอนรายละเอียดเพื่อให้อาคารดูมีความโฉบเฉี่ยว โดดเด่น และ ด้วยความยาวหน้าโครงการที่กว้างกว่า 90 เมตร ทำให้ผู้ที่เข้ามา สามารถสัมผัสความเป็นธรรมชาติแบบทันสมัยนี้ได้ตั้งแต่เริ่มก้าวมาในโครงการ

ทั้งยังมีทางเดินที่ออกแบบให้เหมือนเดินอยู่ในถ้ำเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวจากทางเข้าให้ไหลไปจนถึง ชั้น 5 ภายใต้แนวคิด Urban Forest

เมื่อเดินเข้ามาในอาคารจะพบกับ Lobby ที่ถูกยืดขยายให้เป็นพื้นที่ยาวเชื่อมต่อระหว่าง 2 ตึก ขนานไปกับสวนด้านนอก เพื่อให้ผู้ที่เข้ามารู้สึกสงบ และเป็นส่วนตัว ประกอบกับโทนสี และดีไซน์ที่นิ่ง ทำให้ความวุ่นวายภายนอกหายไปได้เป็นอย่างดี

จาก Lobby ขึ้นมาบนชั้น 5 จะพบกับสระว่ายน้ำฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ ที่มีฟังก์ชั่นหลากหลายให้ได้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการว่ายเพื่อออกกำลังกายอย่าง Laps pool การนอนแช่นวดขาผ่อนคลายแบบ Jacuzzi relax pool หรือการหลบเข้าสู่ความเงียบสงบเป็นส่วนตัวอย่าง Hidden cave ภายใต้บรรยากาศที่ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ ตลอดแนวสระ

ถัดจากสระว่ายน้ำ จะพบกับฟิตเนสขนาด 80 ตร.ม. ที่วางตัวยาวยื่นออกไปจากตัวอาคาร ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับการออกกำลังกายไปพร้อมกับการชมวิวเปิดโล่งแบบ 270 องศาได้ รวมทั้งยังมี Training studio ไว้รองรับความต้องการที่หลากหลายอีกด้วย

ฝั่งตรงข้ามกับฟิตเนสเป็น Social club ที่มีลักษณะเป็น Double space 2 ชั้น ถูกตกแต่งภายในด้วยสไตล์อบอุ่น หรูหรา ในขณะเดียวกันก็ถูกล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว กับวิวที่เปิดโล่ง และเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้พักอาศัยให้มากขึ้น ภายในจึงมีทั้งฟังก์ชันที่เป็น Co-working space และ Social club ไปในตัว

ไม่เพียงเท่านั้น ในชั้น 32 ของตึก A ยังมี Sky lounge ไว้สำหรับการพักผ่อนอย่างเป็นที่สุด ด้วยการตกแต่งที่หรูหรา แลกระจกล้อมรอบตลอด 180 องศา ทำให้สามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์ของเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

จากภาพบรรยากาศโดยรวมทั้งหมดของโครงการ จะเห็นได้ว่า ภายในโครงการจะมีพื้นที่สีเขียวคอยสอดแทรกอยู่ในเกือบทุกส่วน รวมแล้วกว่า 3 ไร่ ทำให้เกิดบรรยากาศที่ดูอบอุ่น สงบ ร่มรื่น และมีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับทำเลที่ตั้ง และแนวความคิดสมัยใหม่เป็นอย่างมาก

ผังอาคาร

โครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” ถือว่าเป็นโครงการที่มีการวางผังอาคารโดดเด่น แตกต่างจากโครงการอื่นๆ เนื่องจากมีการวางผังอาคารเป็นแนวนอน ขนานไปกับถนนสุุขุมวิท ทำให้มีการเปิดหน้ากว้างมากถึง 90 เมตร และด้วยเหตุนี้การจัดวางระบบทางสัญจร จึงเป็นไปอย่างสะดวกสบาย และลื่นไหล

ไม่เพียงแต่จะมีการออกแบบจัดการระบบสัญจรที่ดีแล้ว จากผังจะเห็นได้ว่า โครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” ได้มีการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวอยู่ด้านหน้า เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์การเข้าถึง รวมทั้งยังสามารถช่วยในการลดความวุ่นวายจากถนนใหญ่ได้เป็นอย่างดี และการวางอาคารลักษณะนี้ถือเป็นการเปิดมุมมองให้กับห้องพักอาศัยด้านบน เนื่องจากทางด้านหน้าของโครงการหันเข้าหาวิวแม่น้ำ ยาวไปถึงบางกระเจ้า และพื้นที่โดยรอบนั้นไม่มีตึกสูงมาบดบัง ทำให้วิวค่อนข้างโล่งถึง 80%

ชั้น 5 เป็นที่ตั้งของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมไปถึง Double social club โดยถึงชั้นนี้ ทางโครงการก็ยังคงออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวสอดแทรกอยู่โดยรอบ เพื่อเป็นการขยายบรรยากาศความร่มรื่นให้เชื่อมโยงมาจากด้านล่าง

ในชั้นที่พักอาศัย อาคารจะถูกแบ่งออกเป็น 1 อาคาร (2ตึก) ซึ่งระยะห่างระหว่างอาคารทั้งสองอยู่ที่ 7 – 8 เมตร โดยฝั่งที่หันหน้าเข้าหากันได้ถูกออกแบบให้เป็นผนังทึบ ทำให้ยังคงมีความเป็นส่วนตัว ไม่ขวางวิวซึ่งกันและกัน โดยจุดเด่นสำคัญอีกอย่างหนึ่งของโครงการนี้ก็คือ ช่องระบายลม ที่จะมีมากถึงชั้นล่ะ 5 จุด เพื่ออากาศที่ถ่ายเทได้สะดวก

ชั้น rooftop หรือชั้นบนสุดของอาคาร จะมีห้อง Sky lounge และสวนหย่อมให้ผู้พักอาศัยมานั่งพักผ่อน พร้อมกับการชมวิวเมืองแบบ 180 องศา

พาชมห้องตัวอย่าง

จากแนวความคิด Spanning All Dimensions of Living ทำให้ห้องพักอาศัยของโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” มีจุดเด่นอยู่ที่การขยายให้ทุกอย่างกว้างขึ้น ตั้งแต่หน้ากว้างของห้องพัก กระจกบานสูง และฝ้าเพดานที่สูงถึง 2.6 เมตร ในห้องปกติ และ 5.6 เมตร ในห้อง Duplex รวมทั้งยังเป็นห้องแบบ Fully Fitted เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าพักอาศัย และยังได้เลือกใช้กระจกสูง 2 เมตรที่มีลักษณะพิเศษ ช่วยตัดแสงสีเทา ทำให้แดดที่เข้ามาในห้องอ่อนลงอีกด้วย

โดยโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” จะมีห้องพักอาศัยให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ เริ่มต้นที่ Studio ขนาด 26 ตร.ม., 1-Bedroom ขนาด 36 ตร.ม., 2-Bedroom ขนาด 54 ตร.ม., 2-Bedroom with 2-Bath ขนาด 56 ตร.ม. ไปจนถึงห้อง Duplex ขนาด 50 ตร.ม. โดยทางโครงการได้จัดทำห้องตัวอย่างไว้ทั้งหมด 4 แบบ

สำหรับห้องตัวอย่างในแบบ Studio ขนาด 26 ตร.ม. มีหน้ากว้างอยู่ที่ประมาณ 5.2 เมตร โดยจากผังจะเห็นว่าถึงแม้จะเป็นห้องที่มีขนาดเล็ก แต่การจัดสรรพื้นที่ภายในห้องของทางโครงการ ทำให้ห้องดูมีขนาดกว้างมากขึ้น

เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องจะพบกับโซฟานั่งเล่นอยู่ในบริเวณโซนด้านหน้า โดยมีเตียงนอน อยู่ถัดออกไป จากบริเวณประตูนี้ สามารถมองทะลุไปเห็นวิวจากนอกหน้าต่างได้

โซนแรกที่ทางโครงการได้วางไว้ให้ผู้เข้ามาได้สัมผัสก็คือโซนห้องนั่งเล่น โดยจะมีโซฟา และทีวี ถือว่าเป็นการจัดการฟังก์ชันได้อย่างชาญฉลาด

ไม่เพียงเท่านั้น หากมองเข้าไปทางซ้ายมือจะเจอกับ Pantry ขนาดกับกำลังพอดีอยู่ด้วย โดยจะสังเกตุได้ว่าถึงแม้จะมีพื้นที่ไม่มากนัก แต่ก็ยังสามารถมีอุปกรณ์ครัวที่ครบครันได้

ติดกันกับห้องครัว ทางโครงการได้ออกแบบให้เป็นห้องน้ำ ที่มีโทนสีขาวสว่าง ง่ายต่อการดูแลรักษา โดยได้เลือกใช้กระจกและประตูกั้นห้องอาบน้ำของ Hafele และยังได้มีการเตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนและเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้อีกด้วย

สำหรับระเบียงด้านนอก จะมีที่กั้น ลักษณะเป็นเหล็กทากันสนิม สูง 1.1 m ทางโครงการยังได้เตรียมก๊อกน้ำไว้ให้ สำหรับการทำความสะอาด หรือชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆ

ห้องตัวอย่างในแบบ 1-Bedroom ขนาด 36 ตร.ม. มีหน้ากว้างอยู่ที่ประมาณ 7.6 เมตร จากผังจะเห็นว่าเป็นห้องที่มีการจัดสรรพื้นที่ไว้อย่างลงตัว เป็นสัดส่วนเข้าใจง่าย อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน

เมื่อเดินเข้าไปในห้องจะสามารถมองเห็นทะลุยาวไปถึงห้องนั่งเล่น ระเบียง รวมทั้งวิวที่อยู่ด้านนอก ทำให้เกิดความรู้สึกโปร่ง โล่งสบาย

ทางขวามือที่ติดกับประตูจะเป็น Built in ครัวขนาดกระทัดรัดที่มีอุปกรณ์ครบ โดยจะประกอบด้วย อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน ยี่ห้อ Teka อีกทั้งทางโครงการยังได้เลือกใช้ Top Counter เป็นหินสีดำ และวัสดุหลังครัวเป็นกระเบื้องเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษาอีกด้วย

ติดกันกับครัวเป็นโต๊ะทานอาหารแบบบาร์ ถือว่าเป็นการเลือกสรรที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงเป็นอย่างมาก

เดินตรงมาอีกนิดก็จะพบกับห้องนั่งเล่นที่สามารถนั่งดูทีวีไปพร้อมกับชมวิวจากระเบียงด้านข้างได้อีกด้วย

สำหรับ Air compressor ทางโครงการได้มีการออกแบบที่เก็บซ่อนไว้อย่างมิดชิด ทำให้ห้องดูเรียบร้อย สวยงาม ถือเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจรายละเอียดได้เป็นอย่างดี

แต่หากเดินเข้ามาแล้วเลี้ยวซ้าย จะเจอกับห้องนอนที่ถูกออกแบบจัดวางไว้อย่างเป็นส่วนตัว

ภายในห้องนอนถูกออกแบบให้มีโทนสีเรียบง่าย ทำให้รู้สึกถึงความสงบ เพื่อการพักผ่อนที่ดีที่สุด

สำหรับห้องน้ำทางโครงการได้เลือกใช้ สุขภัณฑ์ต่างๆของ American Standard และได้ออกแบบให้เป็นห้องน้ำเปิดโล่ง โดยติดเป็นกระจกนิรภัยใสหนา 6 มม. เพื่อให้สามารถแช่น้ำไปชมวิวไปด้วยได้

ห้องตัวอย่างแบบ 2-Bedroom ขนาด 56 ตร.ม. มีหน้ากว้างอยู่ที่ประมาณ 10 เมตร ถือเป็นระยะที่กว้างมากหากเทียบกับคอนโดตัวอื่นๆ และเมื่อมองจากผังจะเห็นว่า ความได้เปรียบเรื่องความกว้างนี้ ทำให้ห้องพักอาศัยสามารถเห็นวิวที่ยาวขึ้นด้วยเช่นกัน

เมื่อเข้าสู่ภายในห้อง จะเห็นโซฟา โต๊ะทานอาหารอยู่ด้านหน้า ซึ่งติดอยู่กับระเบียง จึงสามารถมองทะลุออกไปเห็นวิวได้เช่นเดียวกันกับห้องอื่นๆ

โดยจะมีห้องครัวแบบ Built in อยู่ตรงบริเวณติดกับประตูทางเข้า และด้วยพื้นที่ที่มากขึ้น ทำให้ space บริเวณครัวกว้างขวางมากขึ้นตามไปด้วย

ติดกันกับห้องครัวจะเป็นห้องน้ำเล็ก ซึ่งเป็นห้องน้ำที่สามารถเชื่อมต่อไปยังห้องนอน 2 ได้อีกด้วย โดยในห้องน้ำห้องนี้จะมีลักษณะเป็นห้องอาบน้ำแบบฝักบัว คล้ายกับห้องน้ำให้ห้องพักอาศัยแบบ Studio

สำหรับห้องนอน 2 ถึงแม้จะมีขนาดเล็กกว่า Master bedroom แต่ด้วยกระจกที่สามารถมองออกไปเห็นวิวด้านนอกได้ ก็ทำให้บรรยากาศภายในห้องมีความโปร่ง โล่ง สบาย

โดยทางโครงการก็ได้มีการจัดการให้ห้องนอน 2 นี้มีฟังก์ชันการใช้งานไม่ต่างจากห้อง Master bedroom เลยก็ว่าได้

จากเยี่ยมชมห้องนอน 2 แล้ว เปิดประตูมองกลับไปก็จะเห็นห้องนอน Master bedroom อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งหากมองจากบริเวณนี้จะไม่สามารถเห็นเตียงนอนได้เลย เป็นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่ใส่ใจความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างมาก

สำหรับห้องน้ำภายในห้องนอน Master bedroom จะมีทั้งฝักบัว และอ่างอาบน้ำไว้รองรับ

ห้องตัวอย่างแบบ Duplex ขนาด 50 ตร.ม. ถือเป็นอีกหนึ่งประเภทห้องที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยห้อง Duplex ของโครงการนี้จะมีลักษณะเป็นห้อง 1-Bedroom มีห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ระเบียงอยู่ชั้นล่าง และมีห้องนอนอยู่ชั้นบน จากผังจะเห็นว่า การจัดห้องในลักษณะแบบนี้ ทำให้ห้องพักอาศัยมีพื้นที่ที่กว้างขวางและเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น

เมื่อเข้ามาในห้องจะพบกับโซนห้องครัวแบบ Built in ห้องนั่งเล่นทะลุไปยังระเบียง เช่นเดียวกับห้องพักในแบบอื่นๆ แต่ห้องนี้จะให้ความรู้สึกที่แตกต่าง เนื่องจากเป็นห้องแบบ Duplex ทำให้ฝ้าเพดานบริเวณห้องเล่น เป็นฝ้าเพดานสูง เกิดเป็น space ที่น่าสนใจ โดยทางโครงการได้ตกแต่ง space นี้ด้วย chandelier ยาวทอดลงมาจากด้านบน ให้ความรู้สึกหรูหรามากขึ้น

และอีกหนึ่งเอกลักษณ์พิเศษที่สำคัญของห้องนี้คือระเบียงที่มีลักษณะเป็นเส้นโค้ง ทำให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างออกไป

แต่ถึงแม้ว่าระเบียงจะมีเส้นสายที่ต่างออกไป ทางโครงการก็ยังคงออกแบบจัดสรรพื้นที่สำหรับเก็บ air compressor ให้มิดชิดเช่นเดียวกับห้องอื่นๆ

เดินกลับเข้ามาภายในห้อง สำหรับตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่บริเวณหลังห้องครัว ห้องน้ำให้อุปกรณ์ครบ ตามห้องตัวอย่าง พร้อมฉากกระจกกั้นแยกส่วนเปียก-แห้ง

ออกจากห้องน้ำ เดินขึ้นบันไดเวียนไปยังชั้นบนจะเป็นห้องนอน ที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง และมีฟังก์ชันการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจากห้องพักอาศัยในแบบอื่นๆ เช่น โตีะวางของ หรือเก้าอี้โซฟาด้านข้างเตียง

และปิดท้ายด้วย ห้องแบบ 2-Bedroom ขนาด 54 ตร.ม. ห้องประเภทนี้จะไม่มีห้องตัวอย่างให้ชม แต่จะขออธิบายจุดเด่นคร่าวๆ ว่าห้องประเภทนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ความโล่ง กว้างของห้อง เนื่องจากเป็นห้อง 2 ห้องนอนที่มีห้องน้ำเพียงห้องเดียว และรูปร่างของผังห้องนั้น ทำให้มีการออกแบบวางผังเฟอร์นิเจอร์ไว้อย่างหลวมๆ เหมาะกับผู้ที่ชอบพักอาศัยในห้องที่โล่งและเป็นสัดส่วน อีกทั้งห้องประเภทนี้ ยังมีระเบียงขนาดใหญ่กว่าห้องประเภทอื่นๆอีกด้วย

บทสรุปหลังชมโครงการ

จากการเข้าเยี่ยมชมโครงการ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” สามารถบอกได้ว่า โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่น่าสนใจมากที่สุดโครงการหนึ่ง เพราะเป็นโครงการที่ได้เปรียบทั้งทางด้านทำเล โดยไม่เพียงแต่จะเป็นทำเลที่มีสถานที่อำนวยความสะดวกครบครันแล้ว ยังเป็นทำเลที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง บวกกับความโดดเด่น และแตกต่าง ของแนวความคิด Spanning All Dimensions of Living ที่ได้มีการขยายหน้ากว้างของอาคาร และห้องพักอาศัย เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้รับอากาศที่ถ่ายเทถึงแม้จะอยู่บนอาคารก็ตาม รวมถึงการมีกระจกสูงเพื่อเปิดมุมมองให้กว้าง ทำให้สามารถเห็นวิวแม่น้ำ ยาวไปจนถึงบางกระเจ้า ตลอดจนการออกแบบอาคารซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติผสมผสานเข้ากับความโมเดิร์นทันสมัย ออกมาเป็นเส้นโค้งของอาคารคล้ายกับรูปร่างของภูเขา ทั้งยังมีทางเดินที่ออกแบบให้เหมือนกับกำลังเดินอยู่ในถ้ำ ภายใต้แนวคิด Urban Forest เชื่อมต่อตั้งแต่ชั้น 1 ถึง ชั้น 5 และด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ ทำให้ “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” น่าจะเป็นอีกหนึ่ง Landmark ใหม่ของย่านบางนา เลยก็ว่าได้

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมโครงการพร้อมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้ที่สำนักงานขาย “IDEO Mobi Sukhumvit Eastpoint” โดยจะมี Pre-sale ในวันที่ 3-4 พ.ย.นี้ ราคาเริ่มต้น 2.98 ล้านบาทสำหรับห้อง Studio และ 4.3 ล้านบาทสำหรับห้อง 1-Bedroom หรือเฉลี่ยเพียง 129,000 บาทต่อตารางเมตร จองในงานรับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท ลงทะเบียนออนไลน์ Top up ส่วนลดอีก 30,000 บาท และ ฟรี iPhone Xs*

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://bit.ly/2yI57xd

หรือ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02 316 2222

ความคิดเห็น