"Coober Pedy" เมืองใต้ดินสุดแปลกของออสเตรเลียที่มีผู้อยู่อาศัยจริงและเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเหมืองโอปอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Coober Pedy เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเหมืองโอปอลของประเทศออสเตรเลีย ที่ตั้งอยู่ในเขตทะเลทรายชนบทที่ห่างไกลของประเทศ และมักจะถูกปกคลุมด้วยฝุ่นสีแดงบางๆ จากเหมืองโอปอลที่อยู่ในท้องถิ่น และมีอุณหภูมิเฉลี่ย 51 องศาเซลเซียสในที่ร่ม แต่แทนที่จะย้ายไปอยู่ในที่มีบรรยากาศที่ดีและเป็นมิตรกับผู้คน  ผู้คนเมืองนี้กลับมีความคิดที่สร้างสรรค์ สร้างชุมชนใต้ดินในเหมืองร้างเก่า โดยการสร้างบ้านที่ขุดออกไปจนถึงโบสถ์ โดยชาวเมืองประมาณ 60% ของชาวเมืองทั้งหมด 3,500 คนได้อาศัยอยู่ใต้ดิน

ความโดดเด่นของ Coober Pedy คือผู้คนเมืองนี้เกือบทั้งหมดอาศัยอยู่ใต้ดิน โดยแต่เดิมแล้วคนงานในเหมืองก็อาศัยสร้างที่พักบนพื้นดิน แต่เนื่องจากต้องการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่ร้อนระอุในกลางวันและเย็นมากในเวลากลางคืน

 

พื้นที่ตั้งของเมือง Coober Pedy เป็นเหมืองแร่โอปอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือเป็นที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งคือ “เมืองหลวงโอปอลของโลก” และที่นี่จะมีปล่องไฟผุดขึ้นจากพื้นดินเต็มไปหมดและมีหลุมที่เป็นทางเข้าบ้านของพวกเขาด้วย

 

 

ประมาณ 100 ปีก่อน คนกลุ่มหนึ่งค้นพบโอปอลหนึ่งชิ้นในพื้นที่ จึงทำให้คนงานเหมืองแห่กันขุดกัน และในไม่ช้าก็เกิดเป็นเมือง Coober Pedy ที่เป็นแหล่งกำเนิดโอปอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

แต่เดิมเมืองนี้ถูกตั้งชื่อว่า Stuart Range Opal Field เพื่อเป็นเกียรติแด่ John McDouall Stuart นักสำรวจชาวสก็อต ซึ่งเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ทำการสำรวจพื้นที่นี้ของออสเตรเลียเมื่อปี 1858 กระทั่งปี 1920 สถานที่นี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Coober Pedy ซึ่งมีความหมายว่า ‘ชาวผิวขาวในหลุม’

 

ซึ่งภายในเมืองใต้ดินนั้นจะมีอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็นที่อยู่อาศัย ทั้งยังมีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอีกมากมาย ที่ทำให้รู้สึกว่าเหมือนอยู่บ้านทั่วไป และปัจจุบัน เมือง Coober Pedy ก็ได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คน และมีบ้านที่เรียกว่า “dugouts” มากถึง 1,500 ห้อง เลยทีเดียว

 

นอกจากเมืองนี้จะมีบ้านที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์แล้ว เมืองแห่งนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ที่ตกแต่งได้สวยงาม มีร้านร้านหนังสือ และบาร์เปิดให้บริการแก่คนในเมืองและนักท่องเที่ยวอีกด้วย

 

นอกจากนี้เมืองใต้ดินยังได้รับความสนใจด้วยอีกเหตุผลหนึ่ง คือโครงการพลังงานแบบไฮบริด โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของ Coober Pedy สามารถสร้างพลังงานได้ถึง 70% ของพลังงานที่จำเป็นสำหรับการสร้างเมืองในสถานที่ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 53 ° C ในฤดูร้อนแหล่งพลังงานที่สะอาดกว่าช่วยลดควันและความร้อนของน้ำมันดีเซลที่เคยใช้เป็นแหล่งพลังงานให้กับเมือง ที่ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการทำเหมืองโอปอลมานานหลายทศวรรษปัจจุบัน Coober Pedy ได้ดึงดูดผู้อยู่อาศัยรายใหม่ให้มีความสามารถในการดำรงอยู่ด้วยตนเอง

ที่มา : bbc.com

ความคิดเห็น