ระหว่างที่คร่ำหวอดอยู่บนเส้นทางวิชาชีพนักข่าวบันเทิงของนิตยสาร “ดาราภาพยนตร์” มานานเกือบ 25 ปี ด้วยใจที่รักในงานศิลปะ ความใฝ่รู้และกล้าที่จะทดลอง ทำให้ ณ วันนี้ “อุ้มปีกเหล็ก” ไม่ได้เป็นที่รู้จักแต่เฉพาะในแวดวงบันเทิงเท่านั้น ในอีกด้านหนึ่งคุณอุ้มเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินนักออกแบบ ที่ไม่ได้รังสรรค์ผลงานบนผื่นผ้าใบ แต่เธอใช้ผนังบ้านที่ก่ออิฐฉาบปูนจนเรียบเนียนสวยเป็นเวทีแสดงความคิดและลวดลายที่บ่งบอกถึงการอยู่อาศัยในสไตล์ต่างๆ

คุณ อุ้มปีกเหล็ก มีผลงานเขียนพ็อกเก็ตบุ๊คส์มาแล้ว 2 เล่ม คือ “Wall of art : สรรค์สร้างผนังอย่างมีดีไซน์” นำเสนอไอเดียสร้างลวดลายบนผนังที่ไม่ซ้ำแบบใคร และเป็นบรรณาธิการเล่มให้แก่หนังสือ “บ้านแสนรัก ฉบับพิเศษ The stars at home” รวบรวมบ้านสวยของเหล่าดารานักแสดง ล่าสุดขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำผลงานเล่มที่สาม ซึ่งต้องการจะนำเสนอไอเดียออกแบบผนังที่มากกว่าการสร้างลวดลาย คือการสร้างชิ้นงานขึ้นเพื่อตกแต่งผนังและใส่ฟังชั่นในการใช้งานเข้าไปด้วย เช่น Shelf หรือที่แขวนรูปทรงต่างๆ และอีกหนึ่งผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ “อุ้มปีเหล็ก” ก็คือการเป็นมัณฑนากรออกแบบลวดลายผนังในช่วง Room Design ในรายการ Design World ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ทางช่อง 9 Modern Nine


คุณ “อุ้มปีกเหล็ก” เล่าให้ฟังว่า การออกแบบลวดลายผนัง เป็นงานที่เกิดจากความชอบส่วนตัว แม้ว่าจะไม่ได้เรียนมาทางด้านศิลปะโดยตรง แต่คุณอุ้มมีเพื่อนฝูงเรียนที่ศิลปากรหลายคน ทำให้มีโอกาสได้ดูงานศิลปะต่างๆจนเกิดแรงบันดาลใจ
“ทุกครั้งที่ได้ดูงานศิลปะก็รู้สึกว่างานเหล่านี้เป็นงานที่มีมิติ มีสีสัน ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกมีความสุข หลังจากที่รู้สึกตัวว่าชอบงานศิลปะ พี่ก็เริ่มหาแนวทางของตัวเอง ด้วยความที่เราเป็นคนประหยัด พออยากแต่งบ้านใหม่ ก็ไม่อยากติดวอลเปเปอร์เพราะราคาแพง ก็เลยคิดว่าซื้อสีมาสัก 1-2 กระป๋องมาทาเองดีกว่า ตอนนั้นคิดว่าผนังด้านหนึ่งไม่น่าจะใช้เงินเกิน 500 บาท ซึ่งก็ทำได้จริงๆเพราะ อุปกรณ์ที่ใช้ทาก็ราคาไม่แพง แถมยังหาเอาในบ้านก็ได้เช่น แปรงสีฟัน แปรงซักผ้า ที่ขัดส้วม ฟองน้ำ ผ้าดิบ กางเกงยีนส์ ฯลฯ สามารถนำมาใช้ในการสร้างลายได้ทั้งนั้น
...จำได้ว่าตอนที่เริ่มลองเปลี่ยนสีผนังบ้านของตัวเองไปเรื่อยๆ ช่วงแรกๆก็ทาไปแบบปกติคือใช้ลูกกลิ้งทาไปๆ แต่พอทาเสร็จก็มีความรู้สึกว่าผลงานที่ได้มันธรรมดามากๆเลย ใครๆก็ทำได้ ก็เลยเกิดความคิดที่จะลองทำลวดลายบนผนังดู พี่เริ่มจากการวาดแบบลงบนเฟรมก่อนโดยเลือกรูปที่เราชอบ เนื่องจากพี่ชอบงานหน้าคนที่สุด พี่ก็ใช้หน้าคนหลายๆรูปมาต่อกันจนออกมาเป็นรูปเรียกว่าเป็นงานในลักษณะจิ๊กซอ หลังจากที่เลือกใช้แนวทางศิลปะที่ชอบมาตกแต่งผนัง ก็รู้สึกดีที่สามารถทำให้ผนังที่ดูธรรมดามีความแปลกและสวยขึ้นมาได้ จากนั้นก็เลยเริ่มลองสร้างลวดลายกราฟฟิคบนผนัง ซึ่งก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างออกไป ก็ลองคิดลองหาแนวทางใหม่ๆทำไปเรื่อย ตอนแรกที่ทำยอมรับว่าต้องอดทนมากเหมือนกัน เพราะต้องเจอปัญหาทางเทคนิคมากมาย ทั้งสีที่ผสมมาไม่เท่ากัน การผสมสีก็คนไม่เป็น ทำให้สีย้อยและหยด ไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่เนื่องจากความชอบทำให้พี่ลองผิดลองถูกเรียนรู้มาด้วยตัวเอง ไม่หยุดหรือเลิกไปเสียก่อน”
“ คนในปัจจุบันไม่กล้าที่จะลงมือวาดลวยลายอะไรลงบนผนังบ้านหรืออาคารเลย เพราะส่วนใหญ่กลัวทำแล้วเสีย ซื้อสีมาแล้วอาจจะทำได้ไม่ถูกใจ กลัวผลงานออกมาเละ กลัวว่าจะแก้ปัญหาไม่ได้ ฯลฯ ตัวพี่อุ้มเอง ลงมือสร้างลวดลายบนผนัง ลองผิดลองถูกมาด้วยตัวเอง พอทำผิดก็ทำใหม่ ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนรู้ว่าจุดแข็ง จุดด้อย ของเทคนิคต่างๆ รวมถึงการแก้ปัญหาทั้งก่อน ระหว่างและหลังทาสีผนังคืออะไร ลองจนไม่กลัวที่จะทำ ตอนนี้ทำได้ทุกลายทุกแบบ และทดลองทำเทคนิคพิเศษไม่ว่าจะเป็น สเตนซิล งานปะ งานออกแบบลวดลายผนังไม่ใช่การวาดรูปลงบนผนังเพียงอย่างเดียว แต่งานของพี่จะเป็นการ Painting ที่มีมิติมากกว่านั้น ทั้งการสร้างลวดลายใหม่ การสร้าง texture ฯลฯ”

หลังจากที่คุณอุ้มสร้างสรรค์งานผนังในบ้านของตัวเอง จนเพื่อนฝูงในแวดวงศิลปะและดาราที่สนิทสนมมาเห็นและแนะนำให้แม็กกาซีนหลายเล่มมาขอถ่ายคอลัมน์ ผลงานของอุ้มปีกเหล็กจึงเริ่มเป็นที่รู้จัก และเมื่อได้ทำรายการโทรทัศน์ก็มีเพื่อนฝูงและผู้ที่ชื่นชอบผลงานมาขอให้คุณอุ้มออกแบบลวดลายผนังให้กับบ้านทั้งหลังเลยก็มี สำหรับ Home Digest เองก็มีโอกาสได้ติดตามผลงานการออกแบบผนังของคุณอุ้มปีกเหล็กอย่างใกล้ชิดที่สตูดิโอศิลปะของคุณอุ้ม ซึ่งอาคารพานิชย์ย่านรามอินทราแห่งนี้ นอกจากจะเป็นสถานที่สำหรับคิดสร้างสรรค์ผลงาน เป็นสตูดิโอส่วนตัวที่มีการเปลี่ยนลวดลายผนังไปเรื่อยๆ และเป็นที่พักยามเหนื่อยล้าแล้ว ล่าสุดคุณอุ้มใช้พื้นที่บริเวณชั้น 2 เปิดเป็นโรงเรียนสอนศิลปะ ที่ให้เด็กได้ขีดเขียนผนังได้ตามความคิดสร้างสรรค์

“ที่มาเป็นครูสอนศิลปะก็เพราะเห็นว่า เด็กสมัยนี้ชอบระบายสีกันเป็นจำนวนมาก แต่วาดรูปไม่ค่อยเป็น เด็กที่วาดได้ก็มักจะเป็นเด็กโต พี่ก็เลยหาวิธีที่จะทำให้เด็กเล็กมีความเคยชิน เกิดความชำนาญที่จะจับสีหรือดินสอมาวาดรูปสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาโดยไม่ต้องคำนึงถึงหลักการว่าจะต้องวาดอะไรก่อนหลัง ทำให้เด็กชำนาญแต่ไม่ใช่การท่องจำ การสอนของพี่จะเน้น drawing และการใช้สีไม้เป็นหลัก ตอนนี้มีลูกศิษย์ประมาณ 40 คน มีอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป”
แม้ว่าจะสามารถคิดวิธีแนวใหม่ที่จะสอนให้เด็กเรียนรู้ศิลปะและวาดรูปเป็นได้เร็วขึ้น และทำงานสอนศิลปะเด็กควบคู่ไปกับการสอนงานออกแบบผนังให้แก่ผู้สนใจแล้ว แต่การทำลวดลายบนผนังก็ถือเป็นงานหลักที่คุณอุ้มรักและทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้แก่งานนี้อย่างเต็มที่

ก่อนจากกัน คุณอุ้มให้คำแนะนำสำหรับคนที่กำลังจะเลือกสีผนังบ้านว่า ต้องดูสีของเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเป็นหลักก่อน หรืออาจจะเลือกใช้สีขาว ครีม ที่เข้าได้กับทุกสีก็ได้ แต่ถ้าต้องการสร้างลวดลายบนผนัง สำหรับมือใหม่วิธีที่ง่ายที่สุดคือการ Stencil ซึ่งหากคุณมีผนังสูงประมาณ 2.50 เมตร กว้าง 4 เมตร ถ้าอยากสร้างรูปนกไว้บนผนัง ก็ให้หาแบบมา แล้ววาดลงบนกระดาษแข็ง จากนั้นกระดาษแข็งเป็นรูปนกตามต้องการแล้วนำมาแปะบนผนังที่ต้องการ จากนั้นให้ทาสีฝาทั้งผนังให้ทั่ว รอจนสีแห้งแล้วลอกกระดาษแข็งออก คุณก็จะได้รูปนกสีขาวบนผนัง ง่ายๆแค่นี้เองเพียงคุณกล้าที่จะลองทำเท่านั้น...